posttoday

WHAชูกองทรัสต์ผลตอบแทน7.5%

14 พฤศจิกายน 2557

กองทรัสต์ดับบลิวเอชเอ เปิดจอง 1-4 ต.ค.นี้ ลงทุนแวร์เฮาส์โรงงานให้เช่า ผลตอบแทนปีแรก 7.5%

กองทรัสต์ดับบลิวเอชเอ เปิดจอง 1-4 ต.ค.นี้ ลงทุนแวร์เฮาส์โรงงานให้เช่า ผลตอบแทนปีแรก 7.5%

นพ.สมยศ อนันตประยูร ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) เปิดเผยว่า บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียลเอสเตท แมเนจเม้นท์ (WHAREM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยได้ยื่นจัดตั้งทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) มูลค่า 4,700 ล้านบาท คาดว่าจะเสนอขายในวันที่ 1-4 ธ.ค. 2557 และเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันที่ 18 ธ.ค. 2557

สำหรับราคาเสนอขายหน่วยลงทุนกำหนดจากการสำรวจความต้องการของนักลงทุนสถาบันภายในสิ้นเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งจะแบ่งสัดส่วนขายสถาบันในประเทศ 3545% และนักลงทุนทั่วไป 5565%

นายปิยะพงศ์ พินธุประภา กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท WHAREM ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ WHART กล่าวว่า กองทรัสต์จะเข้าลงทุนในศูนย์กระจายสินค้า 3 โครงการ รวมพื้นที่เช่า 1.67 แสนตารางเมตร ได้แก่ กรรมสิทธิ์ในโครงการศูนย์กระจายสินค้า WHA ลาดกระบัง Phase 1&2 กรรมสิทธิ์ในโครงการ WHA Mega Logistics Center ถนนบางนาตราด กม.23 และสิทธิการเช่าโครงการ WHA Mega Logistics Center ถนนบางนาตราด กม.18 โดยสัดส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ (ฟรีโฮลด์) คิดเป็น 70% และสิทธิการเช่า 30%

“กองทรัสต์จะเสนอขายหน่วยทรัสต์ไม่เกิน 3,269 ล้านบาท และ WHA จะเข้าลงทุนไม่ต่ำกว่า 15% ที่เหลือจะใช้เงินกู้สถาบันการเงิน 1,370 ล้านบาท หรือ 29% ของสินทรัพย์รวม และเงินประกันการเช่า 125 ล้านบาท” นายปิยะพงศ์ กล่าว

สำหรับการกู้เงินครั้งนี้ทำให้ต้นทุนในการซื้อทรัพย์สินของนักลงทุนต่ำลง จึงคาดว่าในปีแรกกองทรัสต์จะจ่ายผลตอบแทนประมาณ 7.5% ซึ่งสูงกว่ากองทุนอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันอยู่ที่ 67%

นอกจากนี้ การเติบโตของกองทรัสต์จะมาจากการปรับเพิ่มขึ้นของค่าเช่าศูนย์กระจายสินค้าทุกๆ 3 ปี และจากการลงทุนเพิ่ม ซึ่งตั้งเป้าซื้อทรัพย์สิน WHA 4,000-5,000 ล้านบาท/ปี และเพิ่มขนาดสินทรัพย์กองทุนแตะ 5 หมื่นล้านบาทใน 5 ปี

นพ.สมยศ กล่าวว่า WHA จะรับรู้รายได้จากการขายสินทรัพย์ให้กองทรัสต์ 4,500 ล้านบาท ไตรมาส 4 นี้

สำหรับความคืบหน้าในการร่วมทุนสร้างโรงงานและคลังสินค้าแบบ Buildtosuite ขนาดพื้นที่ 2.5 หมื่นตารางเมตรในอินโดนีเซีย โดยใช้เงินลงทุน 500 ล้านบาทนั้น จะเริ่มก่อสร้างต้นปี 2558 และเสร็จปลายปี โดยในส่วนของโรงงานจะเสร็จก่อนและรับรู้รายได้บางส่วนทันที และยังมองโอกาสลงทุนในประเทศอื่นๆ ของอาเซียน เช่น พม่า กัมพูชา เวียดนาม

นอกจากนี้ บริษัทยังสนใจขยายธุรกิจพลังงานทางเลือก ซึ่งต่อยอดจากธุรกิจหลักได้หลังจากได้ลงทุนในโซลาร์รูฟไปแล้ว

ข่าวล่าสุด

คนละครึ่งพลัส หนุน “พาสต้า บ่? - มีลาภ อุบลฯ" ยอดขายพุ่ง แชมป์ร้านต่างจังหวัดขายดี