งดส่งน้ำปลูกข้าวพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา
กรมชลประทานประกาศงดส่งน้ำเพื่อการเพาะปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง และข่าวนาปรังพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาหลังปริมาณน้ำน้อย
กรมชลประทานประกาศงดส่งน้ำเพื่อการเพาะปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง และข่าวนาปรังพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาหลังปริมาณน้ำน้อย
นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน ได้ลงนามในประกาศกรมชลประทานลงวันที่7ต.ค.2557 เรื่อง งดส่งน้ำเพื่อการเพาะปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง และข้าวนาปรังในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยระบุว่า ตามที่ทั่วทุกภาคของประเทศมีปริมาณน้ำฝนน้อยกว่าค่าเฉลี่ย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง ซึ่งเป็นที่ตั้งของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปริมาณน้ำสะสมตั้งแต่1ม.ค.2557- 5 ต.ค.2557 มีค่าต่ำ กว่าค่าเฉลี่ยถึง 9 %และ 18%ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้า เขื่อนน้อย
นอกจากนั้นยังต้องระบายน้ำจากเขื่อนเพื่อส่งน้ำเสริมน้ำฝนให้กับพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปีมากกว่าปกติ จึงส่งผลต่อปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำต้นทุนหลักของลุ่มเจ้าพระยา
สำหรับการวิเคราะห์สภาพน้ำต้นทุนจากข้อมูลสถานการณ์น้ำในปัจจุบัน และข้อมูลการคาดการณ์ฝนของกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า ปริมาณน้ำต้นทุน ณ วันที่1พ.ย.2557 จะมีปริมาณน้ำใช้การได้รวมทั้ง 4 เขื่อนจำนวน 6,500 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) และนอกจากนั้นยังไม่สามารถจัดสรรน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองมาช่วยสนับสนุนการใช้น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาได้ดังเช่นทุกๆปีจากปริมาณน้ำดังกล่าวจะต้องสำรองน้ำไว้ให้ใช้ในช่วงต่นฤดูฝนปี2558 เพื่อใช้สำหรับการอุปโภคและบริโภค การรักษาระบบนิเวศน์และการเพาะปลูกพืชฤดูฝน(เป็นฤดูที่เกษตรกรสามารถเพาะปลูกพืชได้อย่างมั่นคงทั้งลุ่มน้ำ)จำนวน 3,600 ล้านลบ.ม. คงเหลือปริมาณน้ำสำหรับใช้ในกิจกรรมต่างๆเพียง 2,900 ล้านลบ.ม. เพื่อการอุปโภคบริโภค การรักษานิเวศน์ และอื่นๆในช่วงฤดูแล้งปี2557/2558 (1 พ.ย. 2557-30 เม.ย. 2558) จำนวน 2,600 ล้านลบ.ม. และจำนวน 400 ล้านลบ.ม.เพื่อสนับสนุนการเพาะปลูกพืชไร่พืชผัก8.2แสนไร่
ดังนั้นเพื่อเป็นการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดและป้องกันการขาดแคลนน้ำทั้งในฤดูแล้งปี 2557/2558 ต่อเนื่องถึงต้นฤดูฝนปี 2558 กรมชลประทานจึงมีความจำเป็นต้องงดส่งน้ำเพื่อการเพาะปลูกข้าวนาปีต่อเนื่องและข้าวนาปรังในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.2557- 30 เม.ย. 2558


