ทรัพย์ศรีไทยซื้อ"เกรฮาวด์"win win Game
สัมฤทธิ์ ตันติดิลกกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ทรัพย์ศรีไทย (SST) แจ้งว่า บริษัทและบริษัทย่อย มัดแมน ได้เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท เกรฮาวด์ (แฟชั่น) และบริษัท เกรฮาวด์ คาเฟ่ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1.853.80 ล้านบาท
สัมฤทธิ์ ตันติดิลกกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ทรัพย์ศรีไทย (SST) แจ้งว่า บริษัทและบริษัทย่อย มัดแมน ได้เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท เกรฮาวด์ (แฟชั่น) และบริษัท เกรฮาวด์ คาเฟ่ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1.853.80 ล้านบาท
บริษัท เกรฮาวด์ เป็นธุรกิจแฟชั่นแบรนด์เก่าแก่ของไทย ก่อตั้งโดย “ภาณุ อิงคะวัต” เมื่อ 34 ปีที่แล้ว หรือเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2523 ภายใต้แบรนด์เกรฮาวด์และเพลย์กราวด์ มีลูกค้าระดับกลางและบน วางจำหน่ายที่สาขา 17 แห่งในไทย และตามห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน อิเซตัน และเซ็นทรัลเวิลด์ และส่งออกไปจำหน่ายที่ต่างประเทศเกาหลีใต้ สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย มีทุนจดทะเบียน 96 ล้านบาท
เกรฮาวด์ คาเฟ่ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2539 ดำเนินธุรกิจร้านอาหาร ภายใต้ชื่อเกรฮาวด์ คาเฟ่ อนอเตอร์ ฮาวด์ คาเฟ่ สวีส ฮาวด์ และกราวด์เฮ มีจำนวน 10 สาขาในไทย และมีสาขาแฟรนไชส์ในฮ่องกง 5 สาขา และจีนอีก 2 สาขา ลูกค้าจะเน้นลูกค้าระดับกลางบน มีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท
การซื้อกิจการครั้งนี้ SST จ่ายเป็นเงินสด 1265.80 ล้านบาท ที่เหลือเป็นหุ้นบริษัท มัดแมน 588 ล้านบาท หรือ 1.3 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 444.622 บาท ตามราคาต่อหุ้นของมัดแมน หรือ 16% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของมัดแมนภายหลังจากการทำรายการ โดย SST จะถือหุ้นมัดแมน 75%
การออกหุ้นเพิ่มทุนของมัดแมนเพื่อชำระราคาค่าหุ้นแฟชั่นและคาเฟ่ครั้งนี้มัดแมนเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้บริษัท น้ำตาลขอนแก่น (KSL) จำนวน 7.9 แสนหุ้น หรือ 9% ราคาหุ้นละ 444.622 บาท มูลค่า 350 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนในกลุ่มของบริษัท
SST จะสามารถขยายธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่ดำเนินการภายใต้มัดแมนออกไปให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้ามากขึ้น โดยเฉพาะโอกาสในการลงทุนสู่ต่างประเทศ นอกจากนี้ยังช่วยให้กลุ่มบริษัทมีแบรนด์เป็นของตนเองเพิ่มจากธุรกิจแฟรนไชส์ที่มี เป็นการเสริมศักยภาพในการขยายธุรกิจในอนาคต
อีกทั้งยังสามารถกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจเดิมของบริษัทไปยังธุรกิจแฟชั่นที่เสริมแบรนด์ที่มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้กระแสเงินสดของคาเฟ่และแฟชั่นสามารถเพิ่มสภาพคล่องตามความสามารถของบริษัทในการขยายกิจการในอนาคต
การซื้อกิจการครั้งนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงกรรมการและผู้บริหารเดิมมาเป็นชุดใหม่ โดยที่ “ภาณุ” ยังคงเข้าเป็นกรรมการของทั้งสองบริษัท ร่วมกับ ศุภสิทธิ์ สุขะนินทร์ ประธานกรรมการบริหาร SST
ขณะที่ SST ก่อตั้งในปี 2519 เริ่มต้นจากธุรกิจคลังสินค้าและท่าเทียบเรือ เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อปี 2537
ต่อมาในปี 2554 ได้เข้าซื้อหุ้นบริษัท อุตสาหกรรมวิวัฒน์จำหน่ายน้ำมันพืชทิพ และในปี 2555 ได้เข้าสู่ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ด้วยการซื้อหุ้น 100% บริษัท มัดแมน บริษัท โกลเด้น โดนัท (ประเทศไทย) เจ้าของกิจการ ดังกิ้น โดนัท และบริษัท เอบีพี คาเฟ (ประเทศไทย) ซึ่งได้สิทธิประกอบธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ โอ บอง แปง และต่อมาได้ซื้อกิจการ ไอศกรีม แบรนด์ บาสกิ้น ร้อบบิ้นส์
ภาณุ ผู้ปลุกปั้นแบรนด์แฟชั่นเกรฮาวด์และร้านอาหารเกรฮาวด์ คาเฟ่ ผู้อำนวยการผู้บริหารฝ่ายสร้างสรรค์ บอกถึงที่มาธุรกรรมนี้กับนิตยสารโพสิชันนิง ว่า ไม่ได้ขายทิ้งธุรกิจ แต่ต้องการได้ผู้ร่วมธุรกิจเข้ามาร่วมมือกันในการ “ต่อยอด” ให้เติบโตไปมากกว่านี้ โดยเฉพาะการขยายธุรกิจในต่างประเทศให้มากขึ้น
ภาณุ ได้เข้าไปถือหุ้นในบริษัท มัดแมน ด้วย
“ตัวผมและผู้บริหารของเกรฮาวด์ รวมทั้งพนักงานยังทำงานเหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่มีการเปลี่ยนแปลง จะมีที่เปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัท ที่จะมีผู้บริหารทรัพย์ศรีไทยเป็นกรรมการร่วมกับผม เขาจะมาช่วยในเรื่องนโยบายร่วมกันเท่านั้น การทำงานทุกอย่างยังเป็นทีมงานของเกรฮาวด์เหมือนเดิม”
ภาณุ มองว่า ต้องการขยายธุรกิจให้เติบโต โดยเฉพาะเรื่องการขยายสาขาต่างประเทศ ขยายเองคงยาก เพราะต้องใช้เงินลงทุนสูงจึงต้องการได้พันธมิตรมาช่วยกันต่อยอด
ทั้งนี้ ได้มีการเจรจากับหลายองค์กรที่สนใจ รวมทั้งกองทุนต่างประเทศ ในที่สุดมาลงตัวที่ SST
นอกจากเรื่องของเงินทุนแล้ว ความรู้ก็เป็นเรื่องสำคัญ โดยที่ SST ต้องการผลักดันให้แบรนด์ไทยอย่าง “เกรฮาวด์” เติบโตในต่างประเทศ ไม่ใช่แค่ภูมิภาคเอเชีย แต่ยังมองไกลไปถึงระดับโลก ซึ่ง SST และบริษัท มัดแมน ก็มีประสบการณ์จากการซื้อลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ร้านอาหารชื่อดังจากต่างประเทศ เช่น โอบองแปง และดังกิ้น โดนัท จะเป็น “โนวฮาว” สำคัญที่จะมาช่วยต่อยอดแผนการสาขาของเกรฮาวด์ ทั้งแฟชั่นและร้านอาหาร ทั้งในและต่างประเทศ โดยจะมีการเปิดแผนกที่ดูแลเรื่องของ “แฟรนไชส์” ขึ้นมาเพื่อดูแล
ทั้งนี้ ตามแผนที่วางไว้จะมีการขยายสาขาของเกรฮาวด์คาเฟ่และเกรฮาวด์ แฟชั่น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ 25 สาขา จากเวลานี้ที่มีอยู่ 15 สาขา ประเทศที่สนใจ คือ ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ปัจจุบัน เกรฮาวด์ แฟชั่นได้ส่งออกไปจำหน่ายที่ต่างประเทศ อาทิ เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ส่วนเกรฮาวด์ คาเฟ่ ได้เปิดสาขาแฟรนไชส์ในฮ่องกง 5 สาขา และจีน ที่ปักกิ่ง และเซี่ยงไฮ้ อย่างละสาขา รวมแล้ว 10 สาขา
นอกจากนี้ ยังเป็นไปได้ว่าในอนาคตการนำ “บริษัท มัดแมน” เข้าจดทะเบียนใน ตลท.ก็เป็นเป้าหมายที่วางไว้ นอกเหนือจากการขยายสาขาที่จะได้เห็นแบรนด์เกรฮาวด์มากขึ้น
สำหรับ KSL ธัชชัย ศุภผลศิริ เลขานุการบริษัท ได้ประกาศการลงทุนในบริษัทอาหารและเครื่องดื่ม มัดแมน เป็นจำนวนเงิน 350 ล้านบาท สำหรับการถือหุ้น 9.33% โดยก่อนหน้าที่จะเข้าไปซื้อหุ้นกรรมการ 3 คนของ KSL ที่นามสกุลเดียวกับผู้ถือหุ้นใหญ่ KSL และ SST คือ อินทิรา สุขะนินทร์ ดวงแข ชินธรรมมิตร์ และดวงดาว ชินธรรมมิตร์ ถือหุ้นใน SST อยู่แล้ว อินทิรา ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SST ด้วย


