posttoday

เสียงครวญจากไทยคม"ไม่ได้ผูกขาดดาวเทียม"

17 มีนาคม 2557

หลังนักวิชาการอิสระออกมาท้วงติงให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ต้องเปิดประมูลวงโคจรดาวเทียมของประเทศ

หลังนักวิชาการอิสระออกมาท้วงติงให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ต้องเปิดประมูลวงโคจรดาวเทียมของประเทศ

เพราะวงโคจรดาวเทียมที่ไทยได้รับการจัดสรรจากสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ไอทียู) 6 ตำแหน่ง คือ 50.5, 78.5, 119.5, 120, 126 และ 142 องศา กลับมีบริษัท ไทยคม ผูกขาดอยู่เพียงรายเดียว

เอกชัย ภัคดุรงค์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานกิจการองค์กร บริษัท ไทยคม ได้ชี้แจงและปฏิเสธว่า บริษัท ไทยคม ไม่ได้ผูกขาดกิจการดาวเทียมในไทยแต่เพียงผู้เดียว

“ที่บอกว่าเราผูกขาด ต้องบอกว่ามันหมดไปตั้งนานแล้ว วันนี้ถ้าใครจะขอก็ไปขอทำดาวเทียม ก็ไปหา กสทช. และขอใบอนุญาตจาก กสทช.ได้เลย เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่มีใครยื่น ผมเลยต้องออกมาเคลียร์ และผมก็ไม่ติดใจในสิ่งที่นักวิชาการพูด เพราะเขาไม่รู้ข้อมูลอย่างที่เรารู้” เอกชัย เกริ่นนำ

แต่ก็ยังมีคำถามให้ถามต่อว่า เหตุใดบริษัท ไทยคม จึงเป็นเจ้าเดียวที่ให้บริการกิจการดาวเทียมในปัจจุบัน ซึ่ง เอกชัย มีคำตอบ

ทำไมคนถึงมองว่าไทยคมผูกขาด

ผมอยากจะเข้าใจเหมือนกันว่าทำไมคนทั่วไปถึงคิดเช่นนั้น เพราะตามธรรมชาติแล้วธุรกิจดาวเทียมเป็นเรื่องของดีมานด์ ถ้ามีคนพร้อมจะลงทุน เขาก็ทำกันไปนานแล้ว และที่ผมบอกตั้งแต่ต้นว่าระบบมันเปลี่ยนจากการให้สัมปทานเป็นการให้ใบอนุญาตแล้ว ถ้าใครมาขอ กสทช. และมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ กสทช.ก็ต้องให้

ส่วนที่ว่าทำไมที่ไทยคมถึงโดนโจมตีหนัก ผมคิดว่าน่าจะมี 2 สาเหตุ คือ 1.คนเขาสงสัยว่าทำไมมีธุรกิจดาวเทียมในไทยจึงมีโอเปอเรเตอร์เจ้าเดียว และ 2.อาจเป็นเพราะเคยมีเจ้าของที่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เป็นไปได้ และถึงแม้ว่าเราจะเป็นเจ้าเดียวในไทย แต่เราก็ไม่ใช่การผูกขาด 100% เพราะเราต้องแข่งขันกับดาวเทียมจากต่างประเทศ

เหตุใดจึงไม่มีโอเปอเรเตอร์รายใหม่มาแข่งขัน

ถ้าทำดาวเทียม คงหาคนมาทำยาก หลักๆ คือ คนที่ทำต้องใช้ความรู้ ความสามารถ และมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจ ซึ่งของพวกนี้ต้องใช้เวลา เช่นวันนี้ ถ้าจะตั้งบริษัทมาทำดาวเทียมแข่งกับไทยคม ก็ต้องเอาพวกผมไปให้หมดยกทีม ที่สำคัญเป็นธุรกิจที่เสี่ยงสูงและต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก อย่างดาวเทียม 1 ดวง ก็ตก 200 ล้านเหรียญสหรัฐแล้ว

ที่สำคัญกระบวนการมันยากเย็นกว่าที่คิดกันเยอะ เช่น ถ้าจะยิงดาวเทียม 1 ดวง ต้องได้สัมปทานเป็นโอเปอเรเตอร์ก่อน แต่สมัยนี้เปลี่ยนเป็นใบอนุญาต จากนั้นต้องไปประสานกับผู้คุมกฎ คือ ไอทียู หาวงโคจร และต้องเจรจากับประเทศอื่นๆ ที่อยากใช้วงโคจรนั้นด้วย เพื่อให้การส่งสัญญาณไปรบกวนดาวเทียมดวงอื่นๆ ต้องใช้เวลา 2-3 ปีต่อดวง

เพราะวงโคจรดาวเทียมไม่ใช่สิทธิของแต่ละประเทศเหมือนคลื่นโทรศัพท์มือถือ รัฐไม่มีสิทธิขาด จึงไม่มีการประมูลวงโคจร แต่ถ้าอยากได้วงโคจรต้องไปประสานกับไอทียู และต้องเจรจาระหว่างประเทศ ซึ่งไม่มีการเปิดประมูล แต่เป็นการจองสิทธิ ถ้ามีดาวเทียม แต่ไม่ได้สิทธิวงโคจรก็ยิงไม่ได้ มันจึงเสี่ยงสูง

ธรรมชาติการแข่งขันธุรกิจเป็นอย่างไร

ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจข้ามพรมแดนอยู่แล้ว คนมองว่าในประเทศไทยมีแต่ไทยคมผูกขาด และอยากให้มีโอเปอเรเตอร์อีกราย ซึ่งความจริงผมก็ชอบ เพราะเราจะได้ไม่ถูกมองว่าผูกขาด แต่ไม่ว่าจะมีผู้ประกอบการในไทยหรือไม่ ตอนนี้ก็มีต่างประเทศมาแข่งขันอยู่แล้ว และในหลายประเทศมักมีโอเปอเรเตอร์เจ้าเดียวที่เป็นแชมป์เปียน

ประเทศสิงคโปร์ จีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย มีประเทศละ 1 เจ้า ของเรามีไทยคม ยกเว้นประเทศที่ใหญ่ เช่น สหรัฐมี 2-3 เจ้า ก่อนหน้านี้หลายประเทศมีโอเปอเรเตอร์ 2 เจ้า แต่สุดท้ายก็ต้องควบรวมกันเหลือ 1 เจ้า เพราะยิ่งแย่งกันก็ตายกันไป อย่างจีนเมื่อก่อนมี 2 เจ้า ก็ควบรวมกันเหลือ 1 เจ้า อินโดนีเซียมี 2 เจ้า กำลังจะเจ๊ง 1 เจ้า ก็จะเหลือเจ้าเดียวเหมือนกัน

ไทยมีบริษัทใดบ้างที่มีศักยภาพทำดาวเทียม

ถามว่าเมืองไทยมีบริษัทไหนมีศักยภาพไหม ผมไม่รู้ เพราะถ้าจะทำดาวเทียมมันมีหลายเรื่อง คือ ต้องรู้เรื่องดาวเทียม อวกาศ มีคนที่เชี่ยวชาญ เช่น จะไปสั่งซื้อดาวเทียม สั่งยิงดาวเทียม ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งนั้น และต้องมีศักยภาพในการเจรจาขอสิทธิวงโคจรดาวเทียมด้วย เพราะแม้ว่ารัฐบาลจะออกหน้า แต่คนเจรจาเป็นเรื่องของโอเปอเรเตอร์

ธุรกิจดาวเทียมยังมีการแข่งขันสูง อย่างไทยคมมีดาวเทียม 3-4 ดวง ต่างจากบางเจ้าในสหรัฐที่มี 50 ดวง ในยุโรปบางเจ้ามี 40 ดาว ราคาเราก็สู้เขาไม่ได้ เขายิงครั้งละเป็น 10 ดวง แต่เรายิง 1 ดวง และเงินที่ไทยคมได้มา 100 ต้องจ่ายให้รัฐ 20.5% ขณะที่บางประเทศไม่ต้องจ่าย เขาถือเป็นบริษัทที่หาเงินเข้าประเทศ จึงเพียงจ่ายภาษีรายได้

แต่สิ่งที่ทำ ไทยคมอยู่ได้ ถ้าเป็นทีวีดาวเทียม ผมไม่ได้ขายช่อง แต่ทำตั้งแต่อัพลิงก์สัญญาณขึ้นดาวเทียม เชื่อมสายไฟเบอร์ออฟติกมาศูนย์ส่งที่ลาดหลุมแก้ว และยังหาคนดูให้ด้วย เมื่อเราแข่งด้วยราคาตรงๆ ไม่ได้ แต่เรามีจุดเด่นในเรื่องนวัตกรรม หรืออย่างไอพีสตาร์ เราไม่ได้ขายช่องปกติ แต่เราทำอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมราคาถูกที่สุดในโลก

นี่เป็นความในใจของผู้บริหารไทยคมที่ส่งตรงถึงสาธารณชน

“ผมยินดีหากจะมีผู้เล่นรายใหม่ เพราะระบบมันเปิดอยู่แล้ว ซึ่งวันนี้ผมก็รออยู่ว่าใครจะมาทำ ถ้ามีคนมาขอ ผมจะดีใจมาก และตอนนี้เราเองก็ไม่ได้ผูกขาด” เอกชัย กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวล่าสุด

จับตาประชุมอาเซียน ชี้ชะตาสงครามไทย–กัมพูชา จบหรือยืดเยื้อ