posttoday

บทบาทหน้าที่กรรมการกรณีการควบรวมกิจการ (8)

04 กุมภาพันธ์ 2557

ฉบับที่แล้ว ผมได้กล่าวถึงการครอบงำกิจการในรูปแบบของการเทกโอเวอร์แบบเป็นมิตร (Friendly Takeover) ไปแล้ว วันนี้เราจะมากล่าวถึงการครอบงำกิจการแบบไม่เป็นมิตร (Hostile Takeover) กันครับ

ฉบับที่แล้ว ผมได้กล่าวถึงการครอบงำกิจการในรูปแบบของการเทกโอเวอร์แบบเป็นมิตร (Friendly Takeover) ไปแล้ว วันนี้เราจะมากล่าวถึงการครอบงำกิจการแบบไม่เป็นมิตร (Hostile Takeover) กันครับ

ตามที่เคยกล่าวข้างต้น หน้าที่กรรมการในกรณีที่มีการครอบงำกิจการแบบไม่เป็นมิตร (Hostile Takeover) ในส่วนที่เกี่ยวกับ (ก) การให้ความเห็นเกี่ยวกับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ และ (ข) การเปิดเผยข้อมูลจะเหมือนกับกรณีการครอบงำกิจการแบบเป็นมิตร เนื่องจากกฎหมายมิได้แยกกรณีไว้

อย่างไรก็ตาม กรรมการมีหน้าที่ระมัดระวังผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น ซึ่งกรณีการครอบงำกิจการแบบไม่เป็นมิตร กรรมการอาจต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษมากกว่ากรณีการครอบงำกิจการแบบเป็นมิตร เนื่องจากผู้เข้าครอบงำกิจการมุ่งหวังผลสำเร็จและประโยชน์จากการครอบงำกิจการมากกว่าผลประโยชน์ที่ผู้ถือหุ้นเดิม หรือรายย่อยจะได้รับ รวมทั้ง ในการครอบงำกิจการแบบไม่เป็นมิตร มีโอกาสที่จะเกิดการทำคำเสนอซื้อแบบแข่งขัน (Competitive Bid) หรือการซื้อหุ้นโดยผู้บริหาร (Management Buyout) ซึ่งกรรมการควรระมัดระวังและเตรียมพร้อมในเรื่องดังกล่าวด้วย

การใช้มาตรการป้องกันการครอบงำกิจการแบบไม่เป็นมิตร (Defensive Takeover Tactic)

เมื่อมีความเป็นไปได้ที่บริษัทจะถูกครอบงำกิจการหรืออยู่ในระหว่างการถูกครอบงำกิจการ ผู้ถือหุ้นและกรรมการมักจะกำหนดมาตรการหรือวิธีการที่จะใช้ป้องกันการครอบงำกิจการแบบไม่เป็นมิตร ซึ่งการใช้มาตรการป้องกันต้องระมัดระวังผลประโยชน์ของบริษัทและผู้ถือหุ้นเป็นหลัก เช่น การหาพันธมิตร (White Night) เพิ่มเติมอาจช่วยป้องกันการครอบงำกิจการ แต่จะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นลดลง (หรือเกิด Dilution Effect) แก่ผู้ถือหุ้น หรือการแยกหน่วยธุรกิจ (Spin Off) ช่วยลดโอกาสในการถูกครอบงำกิจการและช่วยส่งเสริมมูลค่าเพิ่มในบริษัท

โดยมาตรการป้องกันการครอบงำกิจการแบบไม่เป็นมิตรที่คณะกรรมการจะนำมาใช้ต้องเป็นมาตรการที่สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย เนื่องจากมาตรการป้องกันการครอบงำกิจการมีหลายวิธี ซึ่งอาจมีผลในทางธุรกิจ (Commercial Feasible) แต่อาจใช้ไม่ได้หรืออยู่ภายใต้ข้อจำกัด เช่น การแก้ข้อบังคับโดยกำหนดให้หากมีการเทกโอเวอร์ให้บริษัทจ่ายเงินให้กับผู้ถือหุ้นรายย่อยตามราคาตลาดไม่สามารถทำได้ การกำหนดค่าเสียหายแก่กรรมการในจำนวนสูง (Golden Parachute) อาจต้องได้รับมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น แต่หากจ่ายให้ฝ่ายจัดการ (มิใช่ในฐานะกรรมการ) ในจำนวนที่เหมาะสมสามารถดำเนินการได้ รวมทั้งควรคำนึงถึงผลกระทบในอนาคตที่จะเกิดขึ้นจากการใช้มาตรการการป้องกัน เช่น การทำข้อตกลงกับเจ้าหนี้เพื่อจำกัดสิทธิบริษัท โดยเฉพาะการเปลี่ยนผู้ถือหุ้น (Negative Covenant) ควรพิจารณากรณีที่เป็นการเปลี่ยนแปลงในกลุ่มของผู้ถือหุ้นด้วย

ทั้งนี้ กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ได้กำหนดว่าบริษัทจดทะเบียนที่ดำเนินใดๆ ในประการที่น่าจะมีผลต่อการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของกิจการได้ก็ต่อเมื่อได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท และหากไม่ปฏิบัติตามการดำเนินการหรืองดเว้นการกระทำดังกล่าวจะไม่มีผลผูกพันบริษัท และกรรมการของบริษัทต้องรับผิดต่อความเสียหายของบุคคลภายนอกที่สุจริตและเสียค่าตอบแทนด้วย นอกจากนี้ ผู้ที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติในเรื่องนี้จะมีโทษปรับไม่เกินสามแสนบาทและปรับอีกไม่เกินวันละหนึ่งหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังไม่ปฏิบัติให้ถูกต้อง (โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในบทที่ 4 การป้องกันการเทกโอเวอร์อย่างไม่เป็นมิตร (AntiHostile Takeover : ศึกษากรณีต่างประเทศกับกฎหมายไทย)

ข่าวล่าสุด

คนละครึ่งพลัส หนุน “พาสต้า บ่? - มีลาภ อุบลฯ" ยอดขายพุ่ง แชมป์ร้านต่างจังหวัดขายดี