'ฮับบ้า' ออฟฟิตแนวใหม่แชร์ฟื้นที่ แชร์ไอเดีย
ไอเดียติดดาว พามายังบ้านหลังหนึ่งในซอยเอกมัย 4 มองจากภายนอกก็เป็นเพียงบ้านธรรมดาหลังสีขาวพร้อมพื้นที่จอดรถ
โดย...ทีมข่าวธุรกิจติดดาว
ไอเดียติดดาว พามายังบ้านหลังหนึ่งในซอยเอกมัย 4 มองจากภายนอกก็เป็นเพียงบ้านธรรมดาหลังสีขาวพร้อมพื้นที่จอดรถ และสวนภายในรั้วบ้าน และถ้าจะบอกว่า บ้านหลังนี้ถูกแปลงให้เป็นสำนักงานก็คงจะไม่แปลกอะไรอีกเช่นกัน
ในบ้านหลังนี้มีทั้งชาวต่างชาติและคนไทย แต่งตัวแบบครีเอทีฟ ดีไซเนอร์ หรือนักโฆษณาเดินเข้าออกอย่างไม่ขาดสาย นั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ส่วนตัวของตัวเอง ไม่ต่างกับโฮมออฟฟิศทั่วๆ ไป
แต่สิ่งที่แตกต่าง คือ พวกเขาไม่ได้ทำงานอยู่ในบริษัทเดียวกัน อธิบายง่ายๆ ก็คือต่างคนต่างมา ต่างคนต่างทำงานส่วนตัวของตัวเอง ทั้งนี้ เพราะบ้านหลังนี้ คือ ออฟฟิศแนวใหม่ ที่ให้บริการพื้นที่นั่งทำงาน สำหรับคนที่ชอบความอิสระ
“ฮับบ้า” (Hubba) ออฟฟิศรายวัน สไตล์ Coworking Space แห่งแรกที่เปิดให้บริการในกรุงเทพฯ เป็นคอมมูนิตี้ของผู้คนที่หลากหลาย มีความเชี่ยวชาญที่แตกต่าง
ทั้งผู้ประกอบอาชีพอิสระและผู้ประกอบการหน้าใหม่ เป็นสังคมของมืออาชีพจากหลายๆ แขนง ที่มาแชร์ไอเดียการทำงานร่วมกัน เรียนรู้แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน เป็นเพื่อนกันในการทำงาน ร่วมมือสร้างสรรค์แรงบันดาลใจ ไอเดียที่แปลกใหม่ และธุรกิจใหม่ๆ มากมาย
ชาล เจริญพันธ์ ผู้ร่วมก่อตั้งฮับบ้า เล่าว่า จุดเริ่มต้นของ Hubba มีที่มาจากคำว่า “ฮับ” คือ ศูนย์รวมคนทำงานจากหลายๆ แขนงอาชีพ “บ้า” คือ บ้าๆ ทำอะไรบ้าๆ ที่คนอื่นไม่ทำ ทำอะไรที่แปลกใหม่
“ฮับบ้า” จึงเป็นศูนย์รวมของคนบ้าที่มาร่วมแชร์พื้นที่ แชร์ไอเดีย เป็นคอมมูนิตี้รูปแบบใหม่ ที่เรียกว่า Coworking Space ซึ่งเกิดขึ้นมานานแล้วในต่างประเทศ
สำหรับในบ้านเราเกิดขึ้นช่วงปลายปี 2554 ช่วงเกิดอุทกภัยน้ำท่วมกรุง ประกอบกับจากการสำรวจยังไม่มีธุรกิจ Coworking Space ในไทย เราจึงคิดที่จะสร้างพื้นที่ให้คนมาร่วมกัน มีเครือข่ายร่วมกัน แชร์ไอเดียกัน บนพื้นที่ใช้สอย 300 ตารางเมตร รองรับได้ 120 คน
สำหรับแนวคิดมาจากการที่เราเป็นผู้ประกอบการเอง รู้สึกว่าทำอะไรใหม่ๆ ที่บ้าน การนั่งทำงานอยู่คนเดียว มันทำให้ไอเดียถูกปิดกั้น และยากกับการที่ต้องทำงานกับหุ้นส่วน จึงคิดว่ามันน่าจะมีที่ใดที่หนึ่ง มีที่นั่งทำงานสะดวกสบายเหมือนบ้าน และไม่ใช่ร้านกาแฟ
เลยดึงข้อดีของร้านกาแฟของออฟฟิศและของบ้านมาเป็นจุดขายของฮับบ้า ว่า ที่นี่คือการมาแลกเปลี่ยนไอเดีย หรือถ้าต้องการทีมงานเพิ่มที่นี่ ก็มีคนที่พร้อมเข้ามาร่วมงาน ดีกว่าทำงานอยู่ที่บ้านซึ่งมีสิ่งรบกวนมาก
การเข้าใช้บริการของฮับบ้า ก่อนอื่นเลยต้องลงทะเบียนเพื่อรับพาสเวิร์ด หลังจากนั้นก็เลือกหาทำเลนั่งทำงานได้ตามใจชอบ ชั้นล่างจะเป็นห้องนั่งทำงานซึ่งมีทั้งโต๊ะเดี่ยว โต๊ะทำงานกลุ่ม หรือจะเลือกนั่งรับลมเย็นตรงระเบียงริมสวนก็ไม่มีใครว่า
มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อาทิ เครื่องพรินเตอร์ แฟกซ์ สแกนเนอร์ เครื่องถ่ายเอกสาร มีห้องครัว ไมโครเวฟ ตู้เย็น แต่คอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊กเป็นของส่วนตัว ผู้ใช้บริการต้องนำมาเอง และยังมีน้ำดื่ม ชา กาแฟ คุกกี้ ฟรี
ค่าบริการที่มีทั้งแบบรายวัน แบบแพ็กเกจ รายเดือน หรือรายปี อัตราค่าบริการวันละ 265 บาท หรือสมาชิกรายปี 36,500 บาท ราคานี้อยู่ได้ทั้งวัน เปิดเวลา 9 โมง ถึง 4 ทุ่ม เข้ามาแล้วหากมีธุระจะต้องออกไปไหน แล้วกลับมาอีกในวันเดียวกันก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
ส่วนชั้น 2 เป็นห้องประชุม มีห้องน้ำในตัว อัตราค่าเช่าชั่วโมงละ 150 บาท รองรับคนมาประชุมได้ 15-20 คน มีห้องกึ่งเวิร์กช็อป ส่วนชั้นล่างด้านนอกยังแบ่งพื้นที่ให้เช่าสำหรับทำออฟฟิศเล็กๆ ส่วนตัว มีคนทำงานประมาณ 45 คน โดยคิดค่าห้องเดือนละ 5,000 บาท ไม่มีมัดจำ ไม่มีค่าล่วงหน้า สามารถเช่าได้ทั้งรายเดือนและรายปี
ชาล เล่าถึงกลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการว่า ช่วงแรกสมาชิกจะเป็นกลุ่มคนต่างชาติเป็นหลัก ที่เข้าใจคอนเซปต์ Coworking แต่เป้าหมายของเราต้องการให้คนไทยเข้าใจและหันมาใช้ประโยชน์จากคอมมูนิตี้ในลักษณะนี้ ที่ผ่านมาผลตอบรับดีมาก มีเมมเบอร์เกิน 300 คน และเวียนกลับมาเรื่อยๆ
จุดขายของการตั้งฮับบ้า คือ คอมมูนิตี้ของคนทำงาน ปัจจุปันมีผู้เข้ามาใช้บริการกว่า 3,000 คน หลังจากที่เปิดให้บริการไปแล้ว 6 เดือน ก็คืนทุนได้สำเร็จ
ความสำเร็จของฮับบ้าจะเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้กับการเพิ่มจำนวนธุรกิจ Coworking Spaceให้แพร่หลายในไทย พร้อมๆ กับการเพิ่มโอกาสความสำเร็จให้กับกลุ่มผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่อยู่ในคอมมูนิตี้นี้
ใครอยากไปเยี่ยมเยียน หรือไปลองใช้บริการ ออฟฟิศแนว Coworking Space ของฮับบ้า ก็เชิญที่ซอยเอกมัย 4 หรือจะโทรไปก่อนก็ได้ที่โทร. 02-714-3388 และที่ www.hubbathailand.com


