มองวัฒนธรรมป๊อปอาเซียนสไตล์
วัฒนธรรมร่วมสมัย หรือกระแสป๊อป เป็นภาพสะท้อนความเป็นไปของสังคมในแต่ละช่วงเวลา
โดย...อัฏฐวรรณ ลวณางกูร
วัฒนธรรมร่วมสมัย หรือกระแสป๊อป เป็นภาพสะท้อนความเป็นไปของสังคมในแต่ละช่วงเวลา และมีพลานุภาพในการสร้างความเข้าใจระหว่างผู้คนต่างชาติต่างภาษา แม้แต่ในอาเซียนที่เต็มไปด้วยความแตกต่างหลากหลาย
อัมพร จิรัฐติกร อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เจ้าของหนังสือ “กะเทาะแก่นอาเซียน” ที่นำเสนอปรากฏการณ์วัฒนธรรมสมัยนิยมในอาเซียน บอกว่า วัฒนธรรมป๊อปในอาเซียนมีความหลากหลาย ไม่ใช่รูปแบบเดียวกัน แต่จำแนกได้เป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ 1.ประเทศที่รัฐยังมีบทบาทกำกับการทำงานของศิลปินค่อนข้างมาก เช่น สิงคโปร์ เวียดนาม ลาว กัมพูชา พม่าทำให้ผลิตผลงานป๊อปออกมาตอบสนองกระแสตลาดโดยไม่ขัดแย้งกับรัฐ หรือเน้นงานศิลปะที่มุ่งสู่ตลาดต่างประเทศ โดยมีทุนจากต่างประเทศมากำกับ ศิลปินคนใดไม่ต้องการถูกกำกับจากรัฐ ก็จะต้องผลิตงานออกสู่ตลาดต่างประเทศ หรือออกไปผลิตงานนอกบ้าน
บางประเทศในอาเซียนเป็นตลาดขนาดเล็ก ไม่มีทุนสำหรับพัฒนามากนัก เช่น กัมพูชา ลาว พม่า จึงนำเข้าวัฒนธรรมป๊อปจากประเทศอื่นอย่างไทย หากรัฐบาลประเทศนั้นๆ ไม่สนับสนุน การบริโภควัฒนธรรมป๊อปก็จะขยับออกไปยังช่องเคเบิลต่างๆ ที่ไม่ใช่สื่อหลัก
สำหรับ 2.ประเทศที่รัฐไม่ได้กำกับเนื้อหามาก ยกเว้นเรื่องศาสนาและบางประเด็นที่ละเอียดอ่อน ประกอบกับมีตลาดภายในขนาดใหญ่ เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ทำให้วงการป๊อปของประเทศเหล่านี้พัฒนามากและต่อเนื่อง
เมื่อดูวัฒนธรรมป๊อปผ่านแวดวงภาพยนตร์ มาเลเซียซึ่งเป็นสังคมแบบพหุวัฒนธรรมพัฒนามากทั้งในแง่เนื้อหาและเทคนิค ขณะที่รัฐให้การสนับสนุนหนังภาษามาเลย์มาก แต่เริ่มมีผู้กำกับลุกขึ้นมาทำหนังแนววิพากษ์วิจารณ์สังคมมากขึ้น แม้บางเรื่องจะไม่ได้รับอนุญาตให้ฉายในวงกว้างก็ตาม ผู้กำกับบางคนใช้การโอบกอดความเป็นมุสลิมสมัยใหม่ แทนที่จะต่อต้านแนวคิดรุนแรง เป็นการพลิกมุมคิดใหม่ในการนำเสนอ ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เห็นได้ในขณะนี้
เช่นเดียวกับภาพยนตร์ของอินโดนีเซียก็มีพัฒนาการในแง่เทคนิคการนำเสนอมากกว่าในอดีต เห็นได้จากการทดลองแนวหนังใหม่ๆ พูดถึงเรื่องศาสนา หยิบประวัติศาสตร์มาพูดใหม่ สะท้อนเพศสภาพเพศวิถี สังคมเมือง ความขัดแย้งในสังคม ซึ่งที่ผ่านมาไม่ค่อยมีประเด็นเหล่านี้
น่าสนใจว่า หลายๆ ครั้งหนังที่สะท้อนปัญหาและความขัดแย้งในสังคม สามารถทำเงินได้ด้วย ไม่เฉพาะหนังแนวเอาใจตลาดเท่านั้น
ขณะที่อุตสาหกรรมหนังไทยมีความหลากหลายมาก โดยความพยายามโกอินเตอร์ของหนังไทย ในแง่หนึ่งเป็นแรงเหวี่ยงกลับที่ช่วยพัฒนาวงการหนังไทย แต่ตลาดภายในก็ยังกำกับอยู่อีกด้าน และเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว
แนวโน้มหนึ่งที่น่าสนใจ คือ หนังไทยออกไปสู่เพื่อนบ้านอาเซียนมากขึ้น เช่น เรื่องพี่มากพระโขนง ที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศ ทั้งที่มีความยากลำบากในการแปลมุขตลกต่างๆ ถ่ายทอดให้คนต่างภาษาเข้าใจ หรือกรณีของละครไทยที่ฮิตในเวียดนาม ซึ่งไม่ได้มีวัฒนธรรมใกล้เคียงกับไทย แต่อาจเป็นเพราะช่องทางอินเทอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์ เปิดกว้างให้คนเข้าถึงมากขึ้น และเปิดพื้นที่ให้มือสมัครเล่นเข้ามาร่วมแปลภาษา บวกกับกระแสเกาหลีฟีเวอร์ที่เริ่มซาลง
ถึงแม้จะยังไม่ชัดเจนว่า เพื่อนบ้านอาเซียนที่ต่างวัฒนธรรมกันสามารถเข้าใจและตีความสารที่ถูกส่งผ่านหนังอย่างไร แต่อย่างน้อยก็สะท้อนถึงความพยายามเข้าใจวัฒนธรรมที่แตกต่าง อย่างคนเวียดนามดูละครไทยเพราะต้องการเข้าใจสังคมไทยที่มีการพักการเรียน หรือบวชเรียนเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิต ในขณะที่เวียดนามไม่มีเรื่องแบบนี้
ที่ผ่านมา ผู้ผลิตภาพยนตร์และละครไทยไม่เคยนึกถึงตลาดอาเซียนเลย แต่ทุกวันนี้จะคิดถึงเฉพาะตลาดในประเทศไม่ได้แล้ว ต้องมองถึงตลาดที่เปิดกว้างขึ้น จากนี้ไปจะเป็นช่วงขาขึ้นของกระแสวัฒนธรรมป๊อปไทย ทั้งละคร หนัง เพลง ที่ผู้คนในภูมิภาคต้องการแสวงหาความแปลกใหม่
ความเป็นอาเซียนส่งผ่านวัฒนธรรมบันเทิงมากกว่าสิ่งอื่นๆ เพราะใกล้ชิดกับชีวิตของผู้คน มีส่วนช่วยสร้างความเข้าใจระหว่างกันได้มาก ภาครัฐควรใช้กระแสป๊อปไทยที่กำลังบูมให้เป็นทูตทางวัฒนธรรม และเกิดความร่วมมือผลิตสื่อบันเทิงเชื่อมโยงข้ามวัฒนธรรม
“คนไทยยังก้าวไม่พ้นอคติต่อเพื่อนบ้าน ทั้งที่ความเป็นอาเซียนไม่ได้อยู่ข้างนอก แต่อยู่ในบ้านเราด้วย เช่น แรงงานข้ามชาติ ส่วนรัฐเองก็ตามไม่ทัน ดังนั้น วัฒนธรรมป๊อปจะเป็นตัวช่วยที่ทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น ดูอย่างกรณีของเกาหลีที่ใช้วัฒนธรรมป๊อปเป็นทูตในการโปรโมทอาหาร การท่องเที่ยว และสินค้าต่างๆ”
ยกตัวอย่างคนพม่าเข้ามาเที่ยวไทยจำนวนมาก โดยเข้ามาเยี่ยมลูกหลานที่ทำงานในไทย แต่ไทยกลับไม่เคยคิดถึงคนพม่าในฐานะนักท่องเที่ยว คิดเฉพาะในแง่แรงงาน หากผลักดันวัฒนธรรมป๊อปอย่างจริงจัง ก็อาจทำให้มีนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ๆ มากขึ้น


