posttoday

ผ่าแนวคิด ‘ธีรพงษ์ฟาร์ม’เลี้ยงไก่ไข่ให้รวย

27 ตุลาคม 2556

โดย...สุกัญญา สินถิรศักดิ์

โดย...สุกัญญา สินถิรศักดิ์

ธุรกิจติดดาวสัปดาห์นี้ จะพาไปตะลุยฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ภายใต้ชื่อ “ธีรพงษ์ฟาร์ม” ใน จ.สระบุรี หนึ่งในฟาร์มของเกษตรกรรายย่อยที่ได้รับการส่งเสริมอาชีพจากบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือซีพีเอฟ ที่จะทำให้เห็นว่า การเลี้ยงไก่ไข่อย่างเป็นระบบ จนได้ผลผลิต ซึ่งก็คือ ไข่ไก่ สามารถทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำไรอย่างไร

ธีรพงษ์ ประคองทรัพย์ เจ้าของฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ ธีรพงษ์ฟาร์ม ผู้ทิ้งอาชีพในฝันจากวิศวกรเงินเดือน 3-4 หมื่นบาทที่ทำมากว่า 8 ปี หันมาทำฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ เล่าให้ฟังว่า หลังจากทำงานมานาน ก็เริ่มอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ก็ทำให้คิดทบทวนว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง เลยนึกถึงว่าที่บ้านทำฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ เลยตัดสินใจกลับภูมิลำเนา เพื่อมาทำธุรกิจนี้จริงจัง

นอกจากนี้ ได้เคยช่วยคุณพ่อเลี้ยงไก่ไข่มาตั้งแต่ต้น และเห็นว่าโครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงไก่ไข่นี้ มีโอกาสทำรายได้ให้สูงขึ้น มีความมั่นคง เป็นอาชีพหลักได้ จึงขอขยายโครงการเลี้ยงไก่ไข่ขึ้นอีก 1 หลัง เนื่องจากต้องการที่จะดูแลกิจการของพ่อได้อย่างเต็มที่

เดิมครอบครัวประครองทรัพย์ ประกอบอาชีพทำนาและเพาะปลูกเห็ด จนประมาณปี 2546 คุณพ่อวิศวกรเจ้าของธีรพงษ์ฟาร์มได้เข้าร่วมโครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงไก่ไข่กับซีพีเอฟ โดยเริ่มก่อสร้างโรงเรือนหลังแรก รองรับไก่ไข่ 1.1 หมื่นตัว จากการกู้เงินธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง จำนวน 1.6 ล้านบาท บวกกับเงินส่วนตัวอีก 2 แสนบาท รวมเป็น 1.8 ล้านบาท

ธีรพงษ์ เล่าว่า การเลี้ยงในรุ่นแรกยังขาดประสบการณ์ ทำให้ผลการเลี้ยงยังไม่ดีนัก แต่ด้วยความอุตสาหะและความตั้งใจ เอาใจใส่ และการแนะนำจากบุคลากรของซีพีเอฟ ทำให้การเลี้ยงในรุ่นต่อมาดีขึ้นเรื่อยๆ จึงไม่เพียงแต่มีรายได้ใช้จ่ายในครอบครัวเท่านั้น แต่ยังสามารถชำระหนี้ธนาคารได้หมดภายใน 8 ปีด้วย

สำหรับความยากง่ายของการขยายโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพิ่มขึ้นอีก 1 หลัง ประมาณ 1.5 หมื่นตัว จะต้องหารือร่วมกับทางซีพีเอฟด้วยว่า ยังมีโควตาฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่อยู่อีกหรือไม่ เพราะหากไม่มีการควบคุมอุปทานไก่ไข่ จะทำให้ผลผลิตออกมามากเกินความต้องการของตลาด

หลังจากได้รับการไฟเขียวจากซีพีเอฟแล้ว ก็เริ่มนำเสนอโครงการเลี้ยงไก่ไข่หลังที่ 2 กับธนาคาร เพื่อขอสินเชื่อประมาณ 2 ล้านบาท รวมกับเงินส่วนตัวที่ได้จากการทำโรงเรือนหลังที่ 1 ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี อีก 5 แสนบาท รวมแล้วใช้เงินลงทุน 2.5 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าครั้งแรก เนื่องจากพื้นที่ใหญ่กว่า จำนวนไก่ไข่มากกว่า และต้นทุนค่าก่อสร้างที่สูงขึ้น

สำหรับเงินกู้ครั้งนี้ ยังได้นำมาก่อสร้างโรงเรือนไบโอแก๊สของฟาร์ม เพื่อนำมูลไก่มาผลิตแก๊ส เพื่อใช้ภายในฟาร์มด้วย ก็ช่วยลดค่าไฟฟ้า และลดมลภาวะเรื่องกลิ่นด้วย เป็นการคิดหารายได้เพิ่ม พร้อมกับหาวิธีลดรายจ่ายในการบริหารจัดการฟาร์ม เพื่อทำให้มีกำไรมากขึ้น

“จะเห็นว่าตั้งแต่การทำโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่หลังที่ 1 จะมีทั้งเงินกู้และเงินสด ดังนั้น หลักการในการทำฟาร์มไก่ไข่ให้มีกำไรได้ ถ้าจำเป็นต้องกู้เงิน ก็ไม่ควรกู้ทั้งหมด ควรแบ่งสัดส่วนเงินกู้ 70% เงินทุนส่วนตัว 30% และเงินสดสำรองใช้ในการหมุนเวียนระหว่างทำธุรกิจ” ธีรพงษ์ กล่าว

สำหรับเรื่องรายได้ ปัจจุบันโรงเรือนไก่ไข่หลังที่ 1 ของธีรพงษ์ฟาร์ม เป็นการเลี้ยงไก่ไข่รุ่นที่ 10 ส่วนโรงเรือนไก่ไข่หลังที่ 2 เป็นการเลี้ยงไก่ไข่รุ่นที่ 2 รวมแล้วเลี้ยงไก่ทั้งหมด 2.6 หมื่นตัว รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายของทั้งสองหลังแล้ว จะอยู่ที่ประมาณ 2.2 ล้านบาทต่อรุ่น โดยไก่ไข่ต่อรุ่นใช้เวลาในการทำรายได้ประมาณ 1213 เดือน

ทางด้าน วิฑูรย์ เจริญทิพย์ปัญญา ผู้จัดการทั่วไป กิจการผลิตไก่ไข่และไข่ไก่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือซีพีเอฟ กล่าวถึงโครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงไก่ไข่ว่า เป็นโครงการที่ต้องการสนับสนุนเกษตรกร หรือผู้ที่มีที่ดิน มีเงินทุนบางส่วนอยู่แล้ว มีศักยภาพในการทำธุรกิจเกษตร แต่ไม่รู้ว่าจะทำอาชีพอะไร

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีลักษณะเป็นคอนแทรกต์ฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ที่ซีพีเอฟจัดหาให้ ใช้อาหาร และวัคซีนที่ซีพีเอฟจัดหาให้เช่นกัน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่เข้าร่วมโครงการซีพีเอฟ จะให้คำแนะนำทางวิชาการ การชดเชยค่าเสียหายต่างๆ โดยซีพีเอฟใช้ระบบคอนแทรกต์ฟาร์มมากว่า 38 ปีแล้ว มีเกษตรกรร่วมโครงการกว่า 5,000 ราย ซึ่งการเข้าร่วมโครงการนี้ ถือเป็นทางเลือกหนึ่งของเกษตรกร

สำหรับระบบคอนแทรกต์ฟาร์มด้านปศุสัตว์ของไทยมีบริษัทขนาดใหญ่ต่างๆ นำไปใช้ บริหารอยู่ราว 2025 บริษัท โดยแต่ละเจ้าแต่ละรายก็นำระบบนี้ไปประยุกต์ใช้ในรูปแบบของตนเอง ในส่วนของซีพีเอฟจะมุ่งเน้นการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่บริษัทค้นคว้าพัฒนา และได้รับการทดสอบแล้วว่าสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้กับเกษตรกรได้

วิฑูรย์ กล่าวว่า ผู้สนใจต้องมีความพร้อมในด้านที่ดิน เงินทุนแล้วบางส่วนและตัวเอง โดยความพร้อมในตัวเอง เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ต้องใส่ใจ ให้เวลา แล้วก็ทำจริงจัง จึงจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย

สำหรับที่ผ่านมา คนที่อยู่ในแวดวงนี้ แล้วยังไม่ได้ตามเป้าหมายเท่าที่ควร ส่วนหนึ่งเป็นเพราะขาดเวลา ขาดความใส่ใจ ซึ่งสัตว์ทุกชนิด เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีจิตใจ เขาสัมผัสได้ว่าผู้เลี้ยงใส่ใจเขาหรือไม่ ดังนั้น ผลผลิตจะดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความใส่ใจในการเลี้ยงด้วย

ติดตามเรื่องราวดีดีของเจ้าของฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ “ธีรพงษ์ฟาร์ม” หนึ่งในตัวอย่างของเกษตรกรรุ่นใหม่ที่มองว่าธุรกิจเลี้ยงไก่ไข่มีความมั่นคงและยั่งยืนในการเลี้ยงครอบครัวได้ พร้อมแนวคิดคอนแทรกต์ฟาร์มของซีพีเอฟในรายการธุรกิจติดดาว ทางช่อง 5 ในวันศุกร์ที่ 1 พ.ย. 2556 เวลา 14.30 น.เป็นต้นไป

ข่าวล่าสุด

หลีกหนีความวุ่นวาย ฉลองปีใหม่สุดหรูบนเกาะส่วนตัวที่ นาคา ไอแลนด์