ดร.เทียม โชควัฒนา ต้นแบบคน ‘คิดบวก’
ในตอนท้ายของการสัมภาษณ์ คุณบุญเกียรติฯ CEO ของบริษัท ICC คุณบุญเกียรติฯ ได้มอบหนังสือ “หลักคิดและปรัชญาการทำงาน”
ในตอนท้ายของการสัมภาษณ์ คุณบุญเกียรติฯ CEO ของบริษัท ICC คุณบุญเกียรติฯ ได้มอบหนังสือ “หลักคิดและปรัชญาการทำงาน” ซึ่งเขียนโดยตนเองให้ผู้เขียนไว้อ่าน หลังจากเปิดอ่านดูผู้เขียนได้พบเนื้อความในชุด 100 ปรัชญาของ ดร.เทียม โชควัฒนา (บิดาของคุณบุญเกียรติฯ) ทำให้เห็นได้ชัดว่าต้นแบบทางความคิดของคุณบุญเกียรติฯ ในการดำรงชีวิตและทำงานส่วนหนึ่งคือแนวทางเดียวกับของ ดร.เทียม โชควัฒนา เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ ดร.เทียมได้เขียนบันทึกความทรงจำไว้ในระยะเวลา 7 ปี (พ.ศ. 25142521) หลังจากที่เสียชีวิตไปแล้ว บรรดาลูกๆ และทายาทได้อ่านบันทึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นมรดกทางความคิดที่มีค่าอย่างยิ่งและไม่ต้องการให้สูญหาย คุณศิรินา โชควัฒนา ปวโรฬารวิทยา บุตรสาวและประธานกรรมการ บมจ. Boutique New City ได้นำบันทึกที่รวบรวมได้ 1,600 หน้า มาคัดย่อและเขียนเนื้อความให้กระชับ เพื่อให้คนอ่านเข้าใจได้ง่ายและจะนำไปใช้ประโยชน์ได้
ทุกวันนี้...ได้มีการนำความ คิด ดร.เทียม โชควัฒนา บางส่วนมาเผยแพร่ทาง Internet ในชื่อ “100 ปรัชญา” มีคนนำไปโพสต์ต่อหลายชิ้น สำหรับผู้เขียนที่สัมผัสได้ชัดเจน คือแนวการใช้ชีวิตและการทำธุรกิจแบบของคนจีน หากใครได้อ่านเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับคนจีน เช่น “สามก๊ก” หรืองานของ “โกวเล้ง” จะมีอารมณ์เดียวกัน เพราะคนจีนจะใช้วิธีคิดในการใช้ชีวิตและการทำงานผสานกันได้อย่างกลมกลืน อาจกล่าวได้ว่าพูดเรื่องเดียวแต่คลุมไปได้ทุกเรื่อง
หากมองทางตรรกวิทยาก็ต้องใช้คำว่า Universal เช่น ในบทหนึ่งของ “100 ปรัชญา” ดร.เทียม กล่าวไว้ว่า “พูดด้วยโทสะเพียงครั้งเดียว แต่อยู่ในใจผู้อื่นตลอดชีวิต” ผู้เขียนชอบประโยคนี้มากค่ะ... คำพูดในเชิงปรัชญา สั้นแค่เพียง 2 วรรคอย่างนี้เป็นตัวอย่างความคิดที่รวบยอดอย่างดีเยี่ยมในเชิง Universal เพราะการพูดด้วยอารมณ์ที่ไม่ใช้สติไตร่ตรอง แม้เพียงครั้งเดียวก็อาจทำลายทั้งตนเองและมิตรภาพคนอยู่เคียงข้างตลอดไปอย่างถาวร และนำไปใช้ได้ทั้งในงานบริหาร ธุรกิจ สังคม ศีลธรรม และหากจะแถมตีความแบบ Post Modern ด้วยก็ต้องถือว่าเป็น Life Style อีกต่างหาก
ดร.เทียม เป็นนักธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ 4 แผ่นดิน ชีวิต 75 ปีของเขา ระหว่าง พ.ศ. 24592534 คือคนที่ใช้ชีวิตที่เกี่ยวเนื่องกับ...กลยุทธ์ คู่ค้า เงิน คน อุปกรณ์ ฯลฯ ดร.เทียม เป็นคนอ่านหนังสือมาก ทำให้เป็นนักคิด เขายึดมั่นในวิถีครอบครัวแบบขงจื๊อที่ถือมั่นการปกครองคนแบบครอบครัวอย่างมีคุณธรรม ถือเป็นหน้าที่ที่พยายามตกแต่งขัดเกลาชีวิตคนในบริษัททุกคนให้เป็นคนดี อ่านพบอะไรที่เป็นประโยชน์ก็จะตัดมาแจกให้คนในบริษัทไปอ่านกันต่อ พนักงานในเครือสหพัฒน์ถูกสอนให้มองปัญหาเป็นเรื่อง “คิดบวก” ตลอดมา “ปัญหา คือ กำไรของชีวิต ปัญหายิ่งมาก กำไรชีวิตยิ่งเยอะ ไม่มีอะไรแก้ไขไม่ได้” ปัญหาจะจบได้ไม่ยาก หากจัดการด้วยหลักการดำเนินชีวิตแบบ “คิดบวก” “เกิดเป็นคน...ทำงานต้องมองสูง ชีวิตความเป็นอยู่...ต้องมองต่ำ” ถ้ามองคนยากลำบากกว่าเรา แล้วจะรู้ว่าเราโชคดีที่สุด นอกจากไม่น้อยเนื้อต่ำใจกับชีวิตแล้ว ยังจะได้มีเมตตาช่วยเหลือคนอื่น แต่เวลาทำงานให้มองคนที่เก่งกว่า จะได้ขวนขวายพัฒนาตัวเอง ปรัชญาวิธีคิดต่างๆ เหล่านี้เป็นกรณี “คิดบวก” ที่น่าสนใจ เมื่อมาถึงตอนจบของการสัมภาษณ์ ก็ต้องบอกว่าต้นแบบของคน “คิดบวก” ที่ส่งต่อมาถึงคุณบุญเกียรติ โชควัฒนา และคนของบริษัทในเครือสหพัฒน์ทั้งหมดก็คือ ดร.เทียม โชควัฒนา นี่เอง
ขอขอบคุณบริษัท ICC ที่ได้อำนวยความสะดวกในการสัมภาษณ์คุณบุญเกียรติ โชควัฒนา ให้กับผู้เขียนในครั้งนี้


