ห้างยึดพื้นที่ค้าปลีก
ตลาดพื้นที่ค้าปลีกในกรุงเทพมหานคร ณ ครึ่งแรกปีพ.ศ.2556
ตลาดพื้นที่ค้าปลีกในกรุงเทพมหานคร ณ ครึ่งแรกปีพ.ศ.2556
รายงานพื้นที่ค้าปลีกในกรุงเทพมหานครฉบับล่าสุดของคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ระบุว่า แม้ว่าคอมมูนิตีมอลล์จะเป็นรูปแบบที่มีการพัฒนามากที่สุดในธุรกิจพื้นที่ค้าปลีก แต่จำนวนพื้นที่ของศูนย์การค้ายังคงมากที่สุด โดยมีสัดส่วนมากกว่า 60% ของพื้นที่ทั้งหมดในกรุงเทพมหานครและพื้นที่โดยรอบ
ปัจจุบัน ศูนย์การค้ามีพื้นที่รวมมากกว่า 3.9 ล้านตารางเมตร โดยมากกว่า 25% ของศูนย์การค้าตั้งอยู่ในพื้นที่ใจกลางเมือง และ 22% อยู่ในพื้นที่รอบใจกลางเมือง โดยในไตรมาส 2 ปีนี้ ซูเปอร์สโตร์ มอลล์ มีสัดส่วนเป็นอันดับสองในตลาด แต่ว่าภายในปีนี้คอมมูนิตี มอลล์จะเบียดขึ้นมาเป็นที่สองแทน เนื่องจากมีหลายโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและมีกำหนดแล้วเสร็จในปีนี้ ขณะที่ไม่มีซูเปอร์สโตร์ มอลล์ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างเลย
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการใหม่หลายรายก็ก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจค้าปลีก ซึ่งต่างต้องการพัฒนาโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ ซึ่งคอมมูนิตี้มอลล์เกือบทั้งหมดที่เปิดในครึ่งแรกปีนี้ ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครรอบนอกใกล้กับกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในโซนที่อยู่อาศัย
ขณะที่อุปทานค้าปลีกรวมในอนาคตที่มีกำหนดแล้วเสร็จในช่วงครึ่งหลังปีนี้อยู่ที่ประมาณ 2.5 แสนตารางเมตร โดยกว่า 1.31 แสนตารางเมตรเป็นศูนย์การค้า และอีก 1.17 แสนตารางเมตรเป็นคอมมูนิตีมอลล์
นอกจากนี้ ตลาดร้านสะดวกซื้อกลายเป็นตลาดที่มีการแข่งขันมากที่สุดในปี 2556 เนื่องจากมีผู้ประกอบการหลายรายในตลาดนี้ที่ประกาศแผนการขยายสาขาและแผนการลงทุนไปยังทุกพื้นที่ของประเทศไทย หลังจากเซ็นทรัล รีเทล คอร์เปอเรชั่น หรือซีอาร์ซี ของกลุ่มเซ็นทรัล เข้าซื้อกิจการของบริษัท สยามแฟมิลี่มาร์ท พร้อมประกาศขยายสาขาเพิ่มเป็น 800 สาขาในปีนี้ และตั้งเป้า 3,000 สาขาในปี 2560 ขณะที่ผู้ประกอบการรายอื่นก็ประกาศการขยายสาขาเช่นกัน ทั้ง บิ๊กซี อิออน (ประเทศไทย) เซเว่นอีเลฟเว่น และลอว์สัน 108ป็นรายใหม่ในตลาดประเทศไทย นอกจากนี้ พวกเขายังต้องการเพิ่มสินค้าใหม่ๆ เข้าไปในร้านค้าของตนเอง โดยเฉพาะสินค้าประเภทอาหารพร้อมบริโภค (RTE) และอาหารกึ่งสำเร็จรูป เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย”ซูเปอร์สโตร์ มอลล์ เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของโครงการพื้นที่ค้าปลีกที่มีการแข่งขันสูง เนื่องจากผู้ประกอบการทุกรายในธุรกิจพื้นที่ค้าปลีกประเภทนี้มีแผนที่จะขยายตัวไปทุกพื้นที่ของประเทศไทย “นอกจากนี้ ผู้ประกอบการในประเภทนี้มีเพียงแค่ 3 รายเท่านั้น หลังจากที่บิ๊กซีเข้าซื้อกิจการของคาร์ฟูร์ในประเทศไทยเมือปีพ.ศ.2553 นอกจากนี้ทางซีพีออล์ ก็กลายมาเป็นเจ้าของใหม่ของบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ในขณะที่เทสโก้ โลตัส ซึ่งเป็นผู้ประกอบรายใหญ่ที่สุดก็มีแผนในการขยายสาขาเช่นกัน แม้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซูเปอร์สโตร์ มอลล์ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการขยายสาขาในประเทศไทย เนื่องจาก ข้อจำกัดเรื่องผังเมือง กฎหมาย กฎระเบียบ เรื่องการทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม และปัจจัยสำคัญที่สุด คือ การประท้วงจากคนในท้องถิ่น ซึ่งส่งผลให้เทสโก้ โลตัส และบิ๊กซี ต้องให้ความสำคัญกับการลงทุนพัฒนาโครงการที่มีขนาดเล็กลง เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ ในทุกพื้นที่ของประเทศไทย” ความเห็นของนายสุรเชษฐ
“ช็อปปิ้งออนไลน์ยังคงเป็นตลาดใหม่สำหรับผู้ประกอบการโครงการพื้นที่ค้าปลีก แต่ว่ายังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีพ.ศ.2554 ผู้ประกอบการรายใหญ่ในธุรกิจค้าปลีกก็ให้ความสำคัญกับผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ โดยการออกแคมเปญต่างๆ เพื่อโปรโมตการซื้อสินค้าออนไลน์ในปีพ.ศ.2556” เขากล่าวเพิ่มเติม


