สารรบกวนฮอร์โมน ในเครื่องสำอาง
องค์กรผู้บริโภคในยุโรป European Environment and Health Initiative (EEHI) และองค์กรทดสอบสากล (International Consumer Research & Testing)
องค์กรผู้บริโภคในยุโรป European Environment and Health Initiative (EEHI) และองค์กรทดสอบสากล (International Consumer Research & Testing) ได้ทดสอบดูสารเคมีต่างๆ ที่เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง ว่าความจริงแล้วมีในปริมาณเท่าใด แต่ละตัวเกินเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่ และถ้าคิดรวมๆ กันแล้วผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดมีสารที่เพิ่มความเสี่ยงให้กับผู้บริโภคในปริมาณเท่าใด
การทดสอบครั้งนี้ดำเนินการระหว่างเดือน ส.ค. 2555 ถึงเดือน ก.พ. 2556 โดยเก็บตัวอย่างจากเครื่องสำอางขายดีในประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส เดนมาร์ก และสวิตเซอร์แลนด์ รวมทั้งหมด 66 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งประกอบด้วยแชมพู ครีมอาบน้ำ สบู่ ยาสีฟัน ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นตัว ครีมทาหน้า ครีมทาผิว รองพื้น ยาทาเล็บ ลิปสติก ครีมกันแดด
ผลทดสอบในภาพรวมพบว่า สารรบกวนฮอร์โมนไม่ได้มีอยู่ในเครื่องสำอางทุกชนิด ในการทดสอบผลิตภัณฑ์ทั้ง 66 ผลิตภัณฑ์นั้น ไม่พบผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรบกวนฮอร์โมนในปริมาณที่เกินกว่ากฎหมายของยุโรปกำหนด
แต่จากการทดสอบและคำนวณปริมาณการใช้เฉลี่ยในแต่ละวันของผู้บริโภค (ซึ่งใช้ผลิตภัณฑ์วันละมากกว่าหนึ่งชนิด) พบว่ามีความเป็นไปได้ที่ร่างกายจะได้รับสารเคมีดังกล่าวมากพอที่จะส่งผลรบกวนฮอร์โมนในร่างกายได้
โดยสารที่ต้องระวังให้มาก คือ เอทิลเฮกซิล เมทโทไซซินนาเมท และโพรพิลพาราเบน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ใช้ทั้งเครื่องสำอางร่วมกับครีมกันแดด
สารที่พบมากที่สุดได้แก่ เมทิลพาราเบน ซึ่งพบใน 40 ผลิตภัณฑ์ ตามด้วยโพรพิลพาราเบน ใน 38 ผลิตภัณฑ์ ในขณะที่สารเคมียอดฮิตอันดับ 3 และ 4 ได้แก่ ฟีโนซีเอทานอลและบีเอชที (BHT) ในขณะที่ไตรโคลซานดูเหมือนจะได้รับความนิยมน้อยลง พบเพียงใน 2 ผลิตภัณฑ์เท่านั้น
นอกจากนี้ยังพบสารเคมีที่อยู่ผิดที่ผิดทางด้วยเช่นกัน เช่น สารกรองแสงยูวี เอทิลเฮกซิล เมทโทไซซินนาเมท พบใน 18 ผลิตภัณฑ์ (ซึ่งในนั้นมีสบู่และโรลออนด้วย) แต่ที่น่าสนใจคือ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารนี้มากที่สุดกลับเป็นครีมบำรุงผิวหน้า ไม่ใช่ครีมกันแดด
ใครที่อยากรู้ข้อมูลดีๆ เรื่องผู้บริโภค สามารถติดตามและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ นิตยสาร “ฉลาดซื้อ” นิตยสารเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของผู้บริโภค www.ฉลาดซื้อ.com, www.facebook.com/chaladsue และโทร. 02-248-3737


