คัฟเวอร์แนนท์ ชูนวัตกรรม สร้างความต่าง
ธุรกิจติดดาวสัปดาห์นี้จะพาไปพบกับหนึ่งในผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลสุดยอด SMEs แห่งชาติ จากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
โดย...สุกัญญา สินถิรศักดิ์
ธุรกิจติดดาวสัปดาห์นี้จะพาไปพบกับหนึ่งในผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลสุดยอด SMEs แห่งชาติ จากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ที่มีนวัตกรรมโดดเด่นจากผลิตภัณฑ์ “เสื้อไฮโดรเทค” (Hydro–Tech) และมีชื่อเสียงมากจากผลิตภัณฑ์ “เสื้อกันยุง”
วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท คัฟเวอร์แนนท์ กล่าวว่า คัฟเวอร์แนนท์ก่อตั้งมากว่า 10 ปีแล้ว กว่าจะมาเป็นผู้ประกอบการที่มีนวัตกรรม ก็มีจุดเริ่มต้นจากการเป็นผู้ผลิตเล็กๆ มาก่อนเช่นกัน เริ่มต้นจากตึกแถวเล็กๆ 2 คูหา มีจักรเย็บผ้า 23 ตัวตัดเย็บเสื้อผ้าส่งออก เสื้อผ้าโรงเรียนนานาชาติ และเสื้อผ้าพรีเมียมของแบรนด์ต่างๆ โดยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันเน้นรับผลิตเสื้อยูนิฟอร์มให้กับบริษัทต่างๆ พร้อมกับชูจุดขายเรื่องเทคโนโลยี “ไฮโดรเทค”
ทั้งนี้ เทคโนโลยีดังกล่าว เป็นการพัฒนาร่วมกับผู้ผลิตเครื่องทอผ้า ตั้งแต่การคัดเลือกเส้นใย และกระบวนการทอผ้า ให้เกิดคุณสมบัติพิเศษ เรียกว่าใส่นวัตกรรมลงไปตั้งแต่ขั้นตอนของการทอผ้า และบริษัทฯ ก็ตั้งชื่อเทคโนโลยีนี้ว่า “ไฮโดรเทค” ลักษณะของตัวผ้าเหมือนผ้าสองชั้น มีคุณสมบัติช่วยซับเหงื่อ ระบายอากาศ ทำให้เหงื่อแห้งเร็ว
นอกจากนี้ ตัววัสดุในการทอผ้ายังมีคุณสมบัติที่ช่วยป้องกันรังสีอุลตร้าไวโอเลต ทำให้ใส่สบาย ไม่ร้อน ซึ่งการที่คัฟเวอร์แนนท์ มีเทคโนโลยีไฮโดรเทค ทำให้ได้รับความสนใจจากลูกค้าในการจ้างผลิตเสื้อยูนิฟอร์ม
วิศัลย์ กล่าวว่า เสื้อผ้ายูนิฟอร์มเป็นเสื้อที่บุคลากรของบริษัทต้องใส่ทุกวัน เนื้อผ้าจึงควรเหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทย และลักษณะการทำงานทั้งในออฟฟิศ และนอกออฟฟิศ จะเห็นว่า การผลิตเสื้อของคัฟเวอร์แนนท์มีจุดขายที่ชัดเจน จึงไม่ต้องเล่นเรื่องราคา
“หากเอสเอ็มอีไทย ยังแข่งเรื่องราคา จะสู้กับรายใหญ่ไม่ได้เลย หรือจะสู้กับคนที่ทำต้นทุนได้ดีกว่าอย่างจีนและเวียดนามไม่ได้เลย”
สำหรับวงการอุตสาหกรรมสิ่งทอ ในแต่ละปี จะมีนวัตกรรมเส้นใยใหม่ๆ ออกสู่ตลาดเสมอ รวมถึงผู้ผลิตเครื่องทอผ้าจากต่างประเทศ ก็มีเทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆ ที่ผู้ผลิตสามารถนำสิ่งใหม่ๆ เหล่านี้มาสร้างสรรค์เป็นนวัตกรรมให้กับสินค้า
นอกจากเทคโนโลยีไฮโดรเทคแล้ว กลุ่มคัฟเวอร์แนนท์ ยังนำงานวิจัยสมุนไพรของไทยมาพัฒนาเสื้อกันยุงด้วย ซึ่งเป็นสินค้าที่ทำให้บริษัทมีชื่อเสียงมากที่สุด โดยเฉพาะจีวรพระกันยุง ได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่อถวายพระสงฆ์มาก
ในส่วนของเสื้อกันยุง วิศัลย์ กล่าวว่า ได้แรงบันดาลใจตอนที่ไปเที่ยวในป่า ลูกสาวถูกยุงกัด แล้วแพ้มาก ทำให้นึกถึงว่า ไม่มีสินค้าป้องกันยุงสำหรับเด็กเลย เพราะยากันยุงต่างๆ ล้วนมีสารเคมีที่ไม่ดีต่อสุขภาพของเด็ก ดังนั้น ถ้ามีเสื้อกันยุงที่เด็กๆ ใส่ได้แล้วไม่อันตราย เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี
หลังจากนั้น จึงมีการพัฒนาต่อเนื่อง นำสมุนไพรไทยที่มีคุณสมบัติกันยุงมาปรับใช้ พัฒนาทั้งเสื้อรูปแบบต่างๆ ทั้งเสื้อเด็ก ผ้าห่มเด็ก เสื้อบุคคลทั่วไป เสื้อทหารพราน จีวรพระ รวมถึง การพัฒนาให้ตรงกับความต้องการมากที่สุด เช่น ระดับของกลิ่นสมุนไพร จะไม่มีกลิ่นเลยก็ไม่ได้ เพราะลูกค้าจะไม่เชื่อถือ แต่ถ้ากลิ่นแรงเกินไป ลูกค้าก็จะไม่ชอบ
เมื่อคุณสมบัติต่างๆ ลงตัว พอเปิดตัวทำตลาดเสื้อกันยุง จีวรพระกันยุงจริงจังแล้ว ก็แจ้งเกิดได้เลย แต่ถึงจะประสบความสำเร็จแล้ว ก็ยังต้องพัฒนาต่อเนื่อง โดยการเข้าร่วมประกวดรางวัลสุดยอด SMEs แห่งชาติของ สสว. ทำให้เกิดการพัฒนา มีการคิดที่เป็นระบบทั้งในเชิงปฏิบัติการและเชิงการบริหารองค์กรมากขึ้น
ทางด้านผลพลอยได้ที่ตามมาจากการได้รับรางวัลสุดยอด SMEs แห่งชาติ กลุ่มธุรกิจสิ่งทอและแฟชั่น ก็เป็นเรื่องภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร สร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคและลูกค้าองค์กรได้ ซึ่งหลังจากที่ได้รับรางวัลแล้ว สสว. ยังสนับนุนให้รับความรู้เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ด้วย
ในส่วนของคัฟเวอร์แนนท์ได้เข้าอบรมเรื่องการเข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นเรื่องที่บริษัทให้ความสนใจ เนื่องจากคัฟเวอร์แนนท์ มีแผนที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ mai ในอนาคต เพื่อให้องค์กรมีความแข็งแรงทางการเงิน รองรับการแข่งขันทั้งตลาดภายในประเทศ และระดับสากล


