นักออกแบบกลิ่น Nature Touch แบรนด์ไทยหอมไกลทั่วโลก
โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล
โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล
“ด้วยความที่เติบโตมากับครอบครัวที่มีกิจการปรุงยาแผนโบราณจากสมุนไพรไทย ทำให้สนใจและรู้จักสรรพคุณพืชแต่ละชนิดเป็นอย่างดี บวกกับความชอบส่วนตัวที่คุ้นเคยกับดอกไม้ชนิดต่างๆ โดยเฉพาะดอกไม้ไทย ที่ให้ความหอมลึกลับและติดคงทน...”
วิริยะ พึ่งสุนทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท เนเจอร์ทัช อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้ผลิตและทำตลาดผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว (เพอร์ซันนัลแคร์) ของคนไทย ภายใต้แบรนด์ “เนเจอร์ทัช” กล่าวถึงที่มาของธุรกิจที่ปัจจุบันทำตลาดทั้งในและต่างประเทศมานานถึง 14 ปี มีสินค้ากว่า 240 รายการ ในกลุ่มดูแลผิวและของใช้ส่วนตัว ภายใต้แบรนด์เนเจอร์ทัช และที่อยู่ภายใต้การผลิตของบริษัทจำนวน 18 คอลเล็กชัน และมีสินค้ากว่า 240 รายการ(เอสเคยู)
จุดเด่นสำคัญของ เนเจอร์ทัช ที่แตกต่างและโดดเด่นกว่าแบรนด์อื่นๆ ทั้งในและจากต่างประเทศ อยู่ตรงที่การเลือกใช้ส่วนผสม (Ingredient) ที่มาจากวัตถุดิบธรรมชาติ ตามสัดส่วนมาตรฐานการผลิตระดับสากลในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท หากเป็นสินค้าออร์แกนิกจะต้องมีส่วนผสมวัตถุดิบจากออร์แกนิกสัดส่วน 60% ขณะที่ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ (เนเชอรัล) จะต้องมีส่วนผสมวัตถุดิบธรรมชาติ 75%
จากมาตรฐานการผลิตดังกล่าวนี่เอง ที่ต่อยอดให้แบรนด์ เนเจอร์ทัช มีโอกาสเข้าไปทำตลาดในต่างประเทศและได้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยอาศัยช่องทางการทำตลาดที่แตกต่างไปจากเจ้าของสินค้าประเภทเดียวกันรายอื่นๆ คือ เชนโรงแรมดังระดับ 5 ดาว โดยบริษัท จะเป็นผู้จัดหา(ซัพพลาย) ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว ทั้ง สบู่ เจลอาบน้ำ ยาสระ ครีมนวดผม และโลชันบำรุงผิวลูกค้าของบริษัท เช่น โรงแรมรถไฟระดับหรูในอังกฤษ “โอเรียนทัล เอกซ์เพรส” ที่ใช้ผลิตภัณฑ์แบรนด์ เนเจอร์ทัช ในคอลเลกชันยูโฟเรีย (Euphoria)
ทั้งนี้ วิริยะ จะเป็นผู้คัดเลือกกลิ่นด้วยตัวเอง ว่ากลิ่นความหอมแบบใดจะเหมาะกับคาแรกเตอร์ของสถานที่พักโรงแรมแต่ละแห่ง เพื่อต้องการแสดงความเป็น “ยูนีค” ให้กับสถานที่นั้นๆ
“ขั้นตอนการเลือกกลิ่นแต่ละกลิ่นให้เข้ากับสถานที่นั้น อย่าง คอลเล็กชันยูโฟเรีย ให้กับเชนโรงแรมดังกล่าว เริ่มแรกเลยจะต้องวางคอนเซปต์กลิ่นที่สอดคล้องกับคาแรกเตอร์ของสถานที่ ซึ่งคอลเลกชันยูโฟเรียจะสะท้อนกลิ่นอายความอิ่มเอมใจ ให้ความรู้สึกของดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิที่สดชื่น พร้อมกับการสำรวจตลาดในกลุ่มผู้บริโภคชาวยุโรป ซึ่งพบว่า 99% ชื่นชอบกลิ่นดังกล่าว” วิริยะ ระบุ
นอกจากนี้ ยังมีคอลเลกชัน โบทานิกา (Botanica) ที่ถูกนำไปให้บริการเป็นของใช้ส่วนตัวให้กับแขกที่เข้ามาพักในเครือโรงแรมดุสิต ภายใต้แบรนด์ปริ๊นเซส กว่า 20 แห่งทั่วโลก รวมถึงโรงแรมระดับ 5 ดาวในไทย ที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์จาก เนเจอร์ทัช เช่นกัน
วิริยะ บอกว่า กลิ่นหอมต่างๆเหล่านี้ จะสะท้อนประสบการณ์ให้กับผู้ที่ได้รับกลิ่นในสถานที่นั้นๆให้จดจำได้ ที่สำคัญเมื่อเกิดความพึงพอใจกับผลิตภัณฑ์ของเนเจอร์ทัช ก็สามารถออกมาหาซื้อได้ที่ร้านค้าปลีกข้างนอกได้ด้วย เช่นกัน
สำหรับการออกแบบกลิ่นในแต่ละคอลเลกชันของ เนเจอร์ทัช นั้น ส่วนใหญ่แล้ว วิริยะ จะเป็นผู้สร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยตัวเอง โดยใช้ความรู้เมื่อครั้งที่มีโอกาสไปเรียนที่โรงงานน้ำหอม Charabot อันเก่าแก่กว่า 200 ปี ในฝรั่งเศส ในหลักสูตร 1 ปี โดยช่วง 6 เดือนแรก จะสอนหลักพื้นฐานน้ำหอม (เบสิก เพอร์ฟูม) และ 6 เดือนหลังในหลักสูตรระดับกลาง หรือมิดเดิลคลาส จนปัจจุบันขึ้นสู่หลักสูตรเร่งรัด (แอดวานซ์) ด้านการผสมผสาน (เบลนด์) น้ำหอม และสร้างคาแรกเตอร์กลิ่นต่างๆ ซึ่งในสถาบันแห่งนี้ถือเป็นแหล่งรวมของนักสร้างสรรค์กลิ่นน้ำหอม “เพอร์ฟูเมอร์” ที่โด่งดังทั่วโลกในปัจจุบันด้วย
“ในการทำตลาดของใช้ส่วนตัวที่มีส่วนผสมของกลิ่นหอม จะใช้เทสต์ส่วนตัวที่เราชอบไม่ได้ เพราะบางครั้งกลิ่นที่เราชอบ แต่ตลาดไม่ชอบ ก็ทำขายไม่ได้เหมือนกัน” วิริยะ ย้ำ
สำหรับหลักการสร้างผลิตภัณฑ์แบรนด์ เนเจอร์ทัช คือ แนะนำตัวเองให้ตลาดต่างประเทศทั่วโลกได้รู้จักเป็นอย่างดีก่อน โดยวางเป้าหมายใน 4 ปีจากนี้จะเปิดหน้าร้านค้าปลีกได้ไม่ต่ำกว่า 200 แห่ง โดยเฉพาะตลาดในยุโรป อย่างในฝรั่งเศส ไอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร (ยูเค) รวมถึงในญี่ปุ่น จากนั้นจึงจะหันมารุกตลาดในไทยอย่างจริงจัง
ปัจจุบัน บริษัทมีโรงงานผลิต 1แห่ง ย่านสมุทรปราการ ซึ่งมีกำลังการผลิตเพียงพอรวมถึงใช้วิธีบริหารจัดการภายในเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด และไม่ได้รับผลกระทบด้านต้นทุนแรงงานขั้นต่ำที่ปรับอัตราใหม่ 300บาทไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทำให้ผลิตภัณฑ์เนเจอร์ทัช ไม่มีการปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นมานานถึง10ปีแล้ว
ปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ 120 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ต่างประเทศ 60% และในประเทศ 40% ขณะที่เป้าหมายยอดขายภายใน 45 ปีนับจากนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 500 ล้านบาท และมีโอกาสที่คนไทยจะได้สัมผัสกลิ่นจาก เนเจอร์ทัช อีกไม่นานนี้


