เด็นโซ่ทุ่ม600ล.ขยายกำลังผลิต
เด็นโซ่ ทุ่ม 600 ล้านบาทขยายกำลังการผลิต พร้อมเผยแผนบุกตลาดอาเซียนรับเออีซี เล็งตั้งโรงงานย่อยในหลายประเทศ
เด็นโซ่ ทุ่ม 600 ล้านบาทขยายกำลังการผลิต พร้อมเผยแผนบุกตลาดอาเซียนรับเออีซี เล็งตั้งโรงงานย่อยในหลายประเทศ
นายชิเงฮิโระ นิชิมูระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เด็นโซ่ อินเตอร์เนชั่นแนล เอเชีย เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมใช้เงินลงทุนมูลค่า 600 ล้านบาท ในการขยายกำลังการผลิต โรงงานที่นิคมอุตสาหกรรม เวลโกรว์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ในการยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนาและฐานการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาครวมถึงเอเชียและโอเชียเนียเพื่อตอบสนองความต้องการของภูมิภาคเป็นหลัก
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทได้ลงทุนมูลค่า 3,200 ล้านบาท ในการเพิ่มกำลังการผลิต ที่โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี และโรงงานที่สำโรง จังหวัดสมุทรปราการ และเพื่อรองรับการย้ายฐานการผลิตจากประเทศญี่ปุ่นในชิ้นส่วนบางประเภท อาทิ ระบบปรับอากาศรถยนต์ (แอร์), หัวฉีดคอมมอนเรล, และหัวฉีดไอเรคอินเจคชั่น มายังประเทศไทย เพื่อให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออกที่สำคัญที่สุดในภูมิภาค
“เป้าหมายของเด็นโซ่ ประเทศไทย ในอนาคตจะเป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่เป็นเทคโนโลยีชั้นสูงแทนญี่ปุ่น และถือเป็นฐานการผลิตนอกญี่ปุ่นที่มีขนาดใหญ่และสำคัญแห่งหนึ่งของกลุ่มเด็นโซ่ ซึ่งอนาคตอันใกล้นี้ศักยภาพของประเทศไทยจะสามารถผลิตเครื่องจักรได้เองด้วย ส่วนบริษัทแม่ในญี่ปุ่นก็จะปรับบทบาทไปดูงานในเชิงวิจัยและพัฒนาเป็นหลัก”นายนิชิมูระกล่าว
นอกจากนี้ สำหรับแผนการดำเนินงานเพื่อรองรับการเปิดเออีซีรวมถึงแผนระยะยาว (3 - 5ปี) บริษัทเตรียมแผนการลงทุนในประเทศต่างๆในภูมิภาคอาทิ อินโดนีเซีย, พม่า, กัมพูชา ในการตั้งโรงงานย่อยเพื่อรองรับการจำหน่ายในประเทศนั้นๆและการลดต้นทุนในการผลิต พร้อมการทำการตลาดในตลาดสินค้าทดแทน (อาฟเตอร์มาร์เก็ต) ในประเทศพม่าและกัมพูชา
“ขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปผลการศึกษาซึ่งคาดว่าจะมีข้อสรุปด้านการเริ่มลงทุนในช่วง เม.ย. 2556 ซึ่งแผนการดังกล่าวได้มีการประมาณการจากการคาดการณ์อัตราการเติบโตของรถในภูมิภาคที่คาดว่าจะสูงในระดับ 1.68 หมื่นล้านคันในปี 2563 และจำนวนรถยนต์ในอินโดนีเเชียและอินเดียที่คาดว่าจะมีปริมาณมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง”นายนิชิมูระกล่าว
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวห้องทดลองในรูปแบบห้องทดสอบอุโมงค์ลม ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเพื่อการทดสอบสมรรถนะของเครื่องปรับอากาศรถยนต์ภายใต้การจำลองสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม โดยใช้เงินลงทุนมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ซึ่งถือได้ว่าทันสมัยที่สุดในภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับการทดสอบรถยนต์จากทั่วโลก


