อุตฯของเล่นช้ำโตน้อย-พิษ300บาท

ตลาดของเล่นเด็กไทย 7,000 ล้านบาท โตหลักเดียว กลุ่มผู้ปกครองสนใจซื้อของเล่นเด็กน้อย เอสเอ็มอีกระเทือนค่าแรง

น.ส.แคทลียา พิรุณเกียรติ ผู้จัดการฝ่ายตลาดและขาย บริษัท วันเดอร์ เวิร์ล โปรดักส์ ผู้ทำตลาดของเล่นเด็กแบรนด์ วันเดอร์ เวิร์ล เปิดเผยว่า ตลาดรวมของเล่นเด็กในไทยปีนี้มีมูลค่า 6,000-7,000 ล้านบาท คาดว่าจะเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวต่อเนื่องจากปีก่อน เพราะผู้ปกครองซื้อของเล่นให้เด็กไทยไม่สูงมากนัก โดยส่วนใหญ่นิยมซื้อของเล่นเป็นตุ๊กตามากกว่า และจำนวนชิ้นที่ซื้อให้ต่อปีก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ กลุ่มของเล่นเด็กที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ จะถูกคิดภาษีนำเข้าสูงถึง 20% ในอัตราเดียวกับสินค้าฟุ่มเฟือย หากไม่มีการเก็บภาษีนำเข้าสูงในอัตราดังกล่าว ตลาดของเล่นเด็กก็มีโอกาสเติบโตได้ดีในอนาคต ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ในอุตสาหกรรมของเล่น บางส่วนได้รับผลกระทบจากปัญหาต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น 3040% จากค่าแรง 300 บาท ทำให้เอสเอ็มอีไม่สามารถประกอบธุรกิจได้ต่อไป และมีปิดตัวไปบางส่วน

“อยากให้เอสเอ็มอีไทยเร่งปรับตัวด้วยการสร้างแบรนด์และมุ่งทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพราะมีความสำคัญกับการทำให้แบรนด์เข้าสู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากที่สุด ที่ผ่านมาเอสเอ็มอีไทยจำนวนมากที่มีผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น แต่ไม่สามารถผลิตสินค้าตรงกับความต้องการของลูกค้า” น.ส.แคทลียา กล่าว

ขณะเดียวกัน เอสเอ็มอีไทยควรเดินหน้าร่วมงานแสดงสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างแบรนด์และใกล้ชิดกับคู่ค้ามากขึ้น

ขณะเดียวกัน ในตลาดของเล่นเด็กของไทย จะเป็นของเล่นเด็กผู้ชายมากที่สุด รองลงมาเป็น ตลาดของเล่นเด็กผู้หญิง และตลาดของเล่นเด็ก เพื่อการศึกษา ส่วนตลาดของเล่นเด็กที่ทำจากไม้ จะมีสัดส่วน 510% ของตลาดของเล่นเด็กโดยรวม และแบรนด์วันเดอร์ เวิร์ล เป็นผู้นำในตลาดและไม่มีคู่แข่ง เนื่องจากในไทยของเล่นส่วนใหญ่จะผลิตจากวัสดุประเภทอื่น

สหรสำหรับแผนการตลาดของวันเดอร์ เวิร์ล ในปีนี้จะมุ่งทำตลาดในประเทศผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่และผู้ปกครองสนใจซื้อสินค้าในช่องทางออนไลน์ รวมทั้งจะเปิดช็อปในห้างสรรพสินค้าประมาณ 34 สาขาต่อปี ทั้งใน กทม. และต่างจังหวัด ส่วนตลาดต่างประเทศจะขยายตลาดใหม่ไปในประเทศรัสเซียและอเมริกาใต้ เพราะเป็นตลาดที่ยอดขายกำลังเติบโตดีจากปัจจุบันส่งออกไป 40 ประเทศทั่วโลก

สำหรับยอดรวมยอดขายในสิ้นปีนี้จะเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักจากปีก่อน แบ่งเป็นยอดขายในประเทศเติบโต 20-30% และยอดขายต่างประเทศเติบโต 20%