ผนังก่ออิฐหรือผนังเบาเลือกใช้อย่างไรให้เข้ากับบ้าน

การเลือกวัสดุผนังบ้านที่เป็นวัสดุประเภทเดียวกันไม่ว่าจะเป็นผนังก่ออิฐ ซึ่งมีวัสดุก่อให้เลือกใช้ตั้งแต่ อิฐมอญ อิฐมวลเบา ซีเมนต์บล็อก อิฐประสาน หรือผนังเบา ที่มีวัสดุให้เลือกใช้ตั้งแต่ แผ่นยิปซัม แผ่นไม้อัด หรือแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ และการเลือกวัสดุผนังบ้านที่ต่างประเภทกัน จำเป็นต้องนำวัสดุนั้นมาเปรียบเทียบคุณสมบัติ ราคา และความเหมาะสมในการนำไปใช้งานเสียก่อน ดังนั้นบ้านหนึ่งหลังจึงสามารถเลือกใช้วัสดุผนังที่แตกต่างกันได้อย่างหลากหลาย

วัสดุผนังบ้านทั้งสองประเภท คือ ผนังก่ออิฐฉาบปูนกับผนังเบา มีข้อแตกต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจน นอกจากเรื่องของน้ำหนักที่ถ่ายเทลงโครงสร้างเสาคานคอนกรีตเสริมเหล็กของตัวบ้านแล้ว คือ การเลือกนำไปใช้งานอย่างเหมาะสม ผนังก่ออิฐฉาบปูนมักถูกนำไปใช้เป็นผนังภายนอกบ้าน เนื่องจากมีความมั่นคง ให้ความรู้สึกที่แข็งแรงปลอดภัย ทนทานต่อสภาพแดด ลมฝนได้ดี

ขณะที่ผนังเบาเหมาะกับการใช้งานเป็นผนังภายในบ้านมากกว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งผนังเบาด้วยแผ่นยิปซัม เนื่องจากติดตั้งง่าย สะดวก รวดเร็ว น้ำหนักเบา ไม่ต้องติดตั้งตามแนวคาน หากจะรื้อถอนก็ทำได้ง่าย การเก็บแนวรอยต่อระหว่างแผ่นวัสดุเรียบร้อยสวยงาม เพียงแค่กันเสียงรบกวนได้น้อย และจำเป็นต้องฝากโครงคร่าวไว้ล่วงหน้าตามตำแหน่งตู้แขวน กรอบรูป หรืออุปกรณ์แขวนโทรทัศน์จอแบน

แต่ปัจจุบันหลังจากมีการผลิตแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ ออกมาทดแทนการใช้ไม้ และกระเบื้องแผ่นเรียบ จนกระทั่งมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ด้วยสมบัติที่ทนทานต่อสภาพแดด ลมฝน ได้พอๆ กับผนังก่ออิฐฉาบปูน แต่เบากว่าผนังก่ออิฐมวลเบาเท่าตัว ผนังเบาจากแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์จึงถูกเลือกนำมาใช้เป็นผนังภายนอกบ้านกันบ้าง แต่ก็ใช่ว่าจะมาทดแทนผนังก่ออิฐได้อย่างเต็มตัว เนื่องจากยังคงป้องกันความร้อน และเสียงรบกวนได้น้อยกว่าค่อนข้างมาก

เรื่องของการป้องกันเสียงรบกวนนั้นถือเป็นประเด็นรอง เพราะเมื่อไรที่ผนังนั้นมีช่องเปิดเสียงรบกวนย่อมผ่านเข้ามาตามแนวรอยต่อระหว่างวงกบกับตัวบานเปิดได้ง่ายกว่าการผ่านทางผนังทึบ ประเด็นสำคัญคือเรื่องการป้องกันความร้อน ผนังโครงเบาจึงต้องได้รับการปรับปรุงด้วยการเสริมฉนวนกันความร้อนไว้ภายในช่องว่างระหว่างแผ่นวัสดุผนัง ทำให้ผนังเบาผืนนั้นมีสมบัติการป้องกันความร้อนดีกว่าผนังก่ออิฐฉาบปูนเสียอีก ขณะที่ราคาค่าก่อสร้างก็เพิ่มสูงขึ้นกว่าเท่าตัวเลยทีเดียว

ถ้าให้มองลึกลงไปถึงงานก่อสร้าง งานผนังก่ออิฐฉาบปูนใช้ช่างชุดเดียวกันกับงานโครงสร้างคอนกรีตของตัวบ้านได้ เนื่องจากเนื้องานใกล้เคียงกัน ส่วนผนังโครงเบาจำเป็นต้องหาช่างอีกชุดที่มีความชำนาญเฉพาะทางมาติดตั้ง และมีค่าแรงติดตั้งคิดต่อหน่วยสูงกว่างานผนังก่ออิฐ แต่ก็ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างน้อยกว่า ภาพรวมของค่าจ้างแรงงานในงานก่อสร้างทั้งสองประเภทจึงไม่ต่างกันมากนัก มาตรฐานงานก่อสร้างนั้นขึ้นอยู่กับทักษะฝีมือและความสามารถของช่างเป็นสำคัญ

ในส่วนมาตรฐานของวัสดุก่อสร้างสำหรับงานก่อสร้างผนังทั้งสองประเภทนั้น เรียกได้ว่ามีมาตรฐานที่เท่าเทียมกัน ทั้งอิฐมวลเบา หรือแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ ต่างก็ถูกผลิตออกมาจากโรงงานด้วยเครื่องจักร ดังนั้นวัสดุทุกชิ้นทุกหน่วยจึงมีขนาดความหนาที่เท่ากัน อีกทั้งยังต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพตามเกณฑ์ในระดับสากล จึงควรเลือกวัสดุที่มีตราสัญลักษณ์มาตรฐานอุตสาหกรรมกำกับเอาไว้เป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นผนังก่ออิฐฉาบปูน หรือผนังโครงเบาจากแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์เมื่อเลือกใช้เป็นผนังภายนอกบ้านควรทาสีเคลือบผิววัสดุเอาไว้ เพราะจะช่วยป้องกันความชื้น ทำให้ใช้งานวัสดุได้ยาวนานยิ่งขึ้น นอกเหนือจากการติดตั้งวัสดุตามมาตรฐานการติดตั้งที่ถูกต้องของผู้ผลิตแล้ว

สุดท้าย ผนังบ้านเป็นเพียงชิ้นส่วนที่ใช้กั้นขอบเขตแสดงความเป็นเจ้าของ ให้ความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยเช่นเดียวกับรั้วเท่านั้น ไม่ได้รองรับน้ำหนัก หรือเสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้างบ้านแต่อย่างใด ดังนั้นไม่ว่าจะเลือกใช้ผนังระบบไหน เจ้าของบ้านอยู่อย่างสุขใจได้ ถ้ารู้จัก เข้าใจ และใช้ให้เป็น