posttoday

อนาคตของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน

10 กันยายน 2555

สถาบันอุดมศึกษาเอกชนเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับนักเรียนที่ผิดหวังจากการเข้าเรียนในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ค่านิยมในการศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐมีมาช้านาน สถาบันอุดมศึกษาเอกชนต่างๆ จึงมีความพยายามที่จะพัฒนาด้านการเรียนการสอน กำหนดหรือเปลี่ยนแปลง หรือปรับปรุงหลักสูตรใหม่ๆ เพื่อให้เท่าเทียมกันกับหลักสูตรของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ สถาบันอุดมศึกษาเอกชนบางแห่งก็มีหลักสูตรที่มีความโดดเด่นแตกต่างจากสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ และเป็นที่ยอมรับทั้งในภาคเอกชนและภาครัฐบาล แต่กระนั้นก็ดี ค่านิยมในการเลือกเรียนสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ โดยเฉพาะสถาบันที่เก่าแก่ และมีชื่อเสียงก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด แม้บางครั้งนักเรียนสอบติดคณะที่ตนเองไม่ชอบ หรือไม่มีความถนัด แต่เมื่อขึ้นชื่อว่าสอบได้สถาบันอุดมศึกษาของรัฐก็ฝืนใจเรียนต่อไป

สถาบันอุดมศึกษาเอกชนเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับนักเรียนที่ผิดหวังจากการเข้าเรียนในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ค่านิยมในการศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐมีมาช้านาน สถาบันอุดมศึกษาเอกชนต่างๆ จึงมีความพยายามที่จะพัฒนาด้านการเรียนการสอน กำหนดหรือเปลี่ยนแปลง หรือปรับปรุงหลักสูตรใหม่ๆ เพื่อให้เท่าเทียมกันกับหลักสูตรของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ สถาบันอุดมศึกษาเอกชนบางแห่งก็มีหลักสูตรที่มีความโดดเด่นแตกต่างจากสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ และเป็นที่ยอมรับทั้งในภาคเอกชนและภาครัฐบาล แต่กระนั้นก็ดี ค่านิยมในการเลือกเรียนสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ โดยเฉพาะสถาบันที่เก่าแก่ และมีชื่อเสียงก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด แม้บางครั้งนักเรียนสอบติดคณะที่ตนเองไม่ชอบ หรือไม่มีความถนัด แต่เมื่อขึ้นชื่อว่าสอบได้สถาบันอุดมศึกษาของรัฐก็ฝืนใจเรียนต่อไป

ในต่างประเทศอย่างเช่นประเทศสหรัฐอเมริกา มหาวิทยาลัยที่ติดอันดับต้นๆ ที่เรียกว่า Top 10 สิบอันดับแรก ล้วนแต่เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนเกือบทั้งหมด

การแข่งขันระหว่างสถาบันอุดมศึกษาเอกชนในประเทศไทยด้วยกันเอง เพื่อดึงดูดนักศึกษาให้เข้าเรียน ถือว่ามีการแข่งขันสูง สถาบันอุดมศึกษาเอกชนจะต้องพึ่งพาและดำรงอยู่ด้วยตนเองมากกว่าสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ต่างทำการประชาสัมพันธ์โดยช่องทางที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่ามีงบที่จะทำการตลาดเพียงใด หรืออาศัยชื่อเสียงที่มีอยู่แล้วเพื่อให้เป็นที่สนใจแก่ผู้ที่ผิดหวังจากการเข้าเรียนสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ เช่น การโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางวิทยุและโทรทัศน์ การทำป้ายโฆษณาใหญ่โต การเปิดหลักสูตรที่รองรับต่อตลาดแรงงาน หรือแม้กระทั่งการจัดงานเข้าไปยังโรงเรียนมัธยมต่างๆ โดยนำนักร้อง นักแสดง ที่เป็นนักศึกษามาทำการประชาสัมพันธ์

ปัจจัยที่ทำให้สถาบันอุดมศึกษาเอกชนมีการแข่งขันกันมาก เพราะสถาบันอุดมศึกษาของรัฐรับนักศึกษาเข้าเรียนเพิ่มขึ้นหลายช่องทาง ทำให้สถาบันอุดมศึกษาเอกชนต้องสูญเสียโอกาสที่นักศึกษาที่จะเข้าศึกษาต่อ

ดร.ชวลิต หมื่นนุช รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) ในฐานะเลขาธิการสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย (สสอท.) ได้เคยให้สัมภาษณ์ว่า สถาบันอุดมศึกษาของรัฐเพิ่มช่องทางในการเข้าศึกษามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรับตรง โควตา การคัดเลือกในระบบรับตรงผ่านเคลียริงเฮาส์ การคัดเลือกด้วยระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษา หรือแอดมิชชันกลาง การเปิดสอนภาคพิเศษ หรือการเปิดศูนย์การศึกษานอกสถานที่ตั้งในจังหวัดต่างๆ ทำให้มีผลกระทบสถาบันอุดมศึกษาเอกชนเป็นอย่างมาก เพราะค่านิยมในการศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ

อนาคตของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน

 

ในสภาพที่เป็นจริง ขณะนี้สถาบันอุดมศึกษาเอกชน เช่น มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ หรือเอแบค เป็นผู้เริ่มการเรียนการสอนโดยใช้ภาษาอังกฤษ ทำให้สถาบันอุดมศึกษาของรัฐหลายแห่งเห็นช่องทางในการดึงดูดนักศึกษา จึงเปิดการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ ยิ่งทำให้ช่องทางการศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐเพิ่มมากขึ้น

สถาบันอุดมศึกษาเอกชนหลายสถาบันที่เปิดมาเป็นเวลานานจนมีชื่อเสียง บางสถาบันมีหลักสูตรการเรียนการสอนไม่แตกต่างไปจากสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ เพราะมีการจ้างอาจารย์จากสถาบันอุดมศึกษาของรัฐมาเป็นอาจารย์พิเศษ ย่อมทำให้นักศึกษามีความคิดว่าได้รับความรู้เทียบเท่ากับสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ และสถาบันอุดมศึกษาเอกชนหลายๆ สถาบันที่มีชื่อเสียงจนเป็นที่ยอมรับของตลาดแรงงาน เพราะมีบัณฑิตที่จบออกไปสามารถทำงานและสร้างชื่อเสียงให้แก่สถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่ตนจบออกมา สถาบันอุดมศึกษาเอกชนเหล่านี้อาจไม่ได้รับผลกระทบจากการที่สถาบันอุดมศึกษาของรัฐผ่อนปรนในการรับนักศึกษาใหม่ๆ หรือได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย

แต่สำหรับสถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่มีรากฐานไม่แกร่งพอหรือที่เพิ่งเปิดตัว แม้หลักสูตรการเรียนการสอนจะตอบสนองกับความต้องการตลาดแรงงานได้ คงได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย เพราะนักศึกษาอาจเข้าเรียนในจำนวนไม่เพียงพอกับเป้าหมาย ย่อมทำให้แบกภาระในเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งอาจทำให้ต้องปิดกิจการ หรือขายกิจการให้กับสถาบันอุดมศึกษาต่างชาติได้ นอกจากนี้ ในปี พ.ศ. 2556 จะมีการเปิดหลักสูตรอาชีวศึกษาถึงระดับปริญญาตรี ยิ่งทำให้ยอดนักศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาเอกชนมียอดลดลง

การศึกษาถือว่ามีส่วนสำคัญในการกำหนดอนาคตของประเทศ รัฐบาลควรเร่งหาทางแก้ไขในเรื่องนี้ กระทรวงศึกษาธิการควรที่จะกำหนดนโยบาย และจัดระเบียบการรับนักศึกษาเข้าเรียนทั้งในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ และสถาบันอุดมศึกษาของเอกชนให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยแบบบูรณาการ ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ และควรแนะแนวสร้างค่านิยม สร้างวิสัยทัศน์ให้นักเรียนตระหนักถึงว่าควรเรียนในสิ่งที่ตนเองถนัดและมีใจรัก เพื่อการสร้างอาชีพที่มั่นคงในอนาคต หาแนวทางแก้ไขไม่ให้สถาบันอุดมศึกษาสถาบันหนึ่งหรือสถาบันใดต้องปิดกิจการลง ตลอดจนให้การสนับสนุนและช่วยเหลือสถาบันอุดมศึกษาเอกชน เช่น สนับสนุนการเปิดหลักสูตรใหม่ หรือหลักสูตรที่มีความสำคัญเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน อีกทั้งควรส่งเสริมให้หน่วยงานกำกับดูแลหรือองค์กรอิสระในด้านต่างๆ เช่น การเงิน การพลังงาน การท่องเที่ยว โทรคมนาคม โทรทัศน์ วิทยุ ให้การสนับสนุน โดยมีกองทุนจากรายได้ขององค์กรนำมาช่วยสนับสนุนการศึกษา เพื่อส่งเสริมวิชาชีพในแต่ละด้านดังกล่าวให้แก่เยาวชนที่สนใจในแต่ละสายอาชีพ ในรูปแบบต่างๆ ตามความเหมาะสม ทั้งนี้จะพิจารณาจากความต้องการภายในประเทศอย่างเดียวไม่ได้ เพราะในปี พ.ศ. 2558 ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะรวมตัวเสร็จสมบูรณ์ ประเทศสมาชิกอื่นๆ และประเทศไทยจะรวมเป็น “ประชาคม” เปรียบเสมือนเป็นประเทศเดียวกัน การเคลื่อนย้ายแรงงานก็เป็นไปอย่างเสรี ซึ่งจะถือว่าเป็นโอกาสที่ดีแก่การศึกษาในประเทศไทย เพราะจะมีการเคลื่อนย้ายนักศึกษาจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทย จากเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีจำนวนมากขึ้น จนเป็นศูนย์กลางการศึกษาของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอนาคต

หากรัฐบาลยังไม่กำหนดนโยบายเกี่ยวกับการศึกษาในระดับสถาบันอุดมศึกษาหรือมหาวิทยาลัยให้ชัดเจน ในอนาคตอันใกล้สถาบันอุดมศึกษาเอกชนในประเทศไทยที่มีอยู่ในปัจจุบันอาจถูกเปลี่ยนมือเป็นของมหาวิทยาลัยต่างชาติที่มีกำลังทุนมากกว่า ที่จะสามารถซื้อกิจการ แต่ก็ยังไม่มีความเข้าใจในเรื่องหลักสูตรแรงงาน และตลาดของประเทศไทย และอาจเป็นหนึ่งในหลายกิจการที่กำลังจะถูกทุนต่างชาติกลืน หากรัฐบาลไม่ได้ให้ความสนใจในเรื่องนี้อย่างจริงจัง

ข่าวล่าสุด

จับตาประชุมอาเซียน ชี้ชะตาสงครามไทย–กัมพูชา จบหรือยืดเยื้อ