มี้ด จอห์นสันอัดงบ500ล้านดึงส่วนแบ่งตลาดนมผง

มี้ด จอห์นสัน อัดงบ 500 ล้านบาท ตอกย้ำพ่อแม่ยุคใหม่เลือกนมผงพรีเมี่ยมให้ลูก โหมงานเอนฟา เบรน เอ็กซ์โป ดึงส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 28% ลั่นตรึงราคาถึงกลางปีหน้า

นายศรันย์ จุฑารัตนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัทมี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน ผู้ผลิตและจำหน่ายนมผงแบรนด์เอนฟาโกร เอนฟาโกร เอพลัส ฯลฯ เปิดเผยว่า  บริษัทได้ใช้งบประมาณการจัดงาน จำนวน 250 ล้านบาท จากงบการโฆษณาประชาสัมพันธ์ตลอดปี 2555 จำนวน 500 ล้านบาท จัดงาน เอนฟา เบรน เอ็กซ์โป ระหว่างวันที่ 31 ส.ค.- 9 ก.ย.นี้ บริเวณ รอยัล พารากอน ฮออล์ เพื่อเปิดประสบการณ์การเรียนรู้ด้านสมองในเชิงลึกให้กับผู้ที่สนใจ สร้างการรับรู้ให้พ่อแม่ยุคใหม่ ตระหนักถึงการเลือกใช้นมผงที่มีที่มีคุณภาพมากขึ้น รวมถึงตอกย้ำแบรนด์สินค้าในตราเอนฟาโกร และเอนฟาโกร เอพลัส ให้เกิดการรับรู้ในวงกว้าง

ทั้งนี้ ได้เตรียมแผนการจัดงานดังกล่าวไปยังพื้นที่ต่างจังหวัด เช่น ขอนแก่น หาดใหญ่  เชียงใหม่ ฯลฯ ซึ่งช่วยตอกย้ำให้แบรนด์เอนฟาโกร เอพลัส มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านสมอง โดยปัจจุบันพ่อแม่คนรุ่นใหม่ ได้คัดเลือกผลิตภัณฑ์นมผงระดับพรีเมี่ยมให้กับลูก โดยกลุ่มพรีเมี่ยมมีสัดส่วนการตลาดเฉลี่ย 55% นมผงระดับปานกลาง 33% และระดับล่างอีก 12% จากมูลค่าการตลาดรวม 1.3 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทได้ใช้งบระมาณกว่า 100 ล้านบาท จัดทำสินค้าพรีเมี่ยม แจกให้กับลูกค้า โดยเฉพาะการแนะนำนมผลสูตรใหม่ เพื่อสร้างการรับรู้ถึงนวัตกรรมและการพัฒนาสูตรนม

“การจัดทำแคมเปญต่างๆ บริษัทไม่ได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตทางตัวเลข แต่ต้องการให้พ่อแม่คนรุ่นใหม่ตระหนักถึงนมผงที่มีคุณภาพ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีให้กับลูก เพราะเด็กถือเป็นอนาคตของชาติ ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ทำตลาดในประเทศไทย จะมุ่งการเพิ่มคุณค่าสารอาหารให้กับนมผง”นายศรันย์ กล่าว

สำหรับภาพรวมการตลาดในปีนี้ คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 4-5% จากมูลค่าตลาดรวม 1.3 หมื่นล้านบาท โดยมองว่าตลาดที่มีสัดส่วนการเติบโตจะเป็นนมผงตลาดพรีเมี่ยม เนื่องจากผู้ประกอบการมีการพัฒนาสูตรนมผงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่พ่อแม่คนรุ่นใหม่จะศึกษาและเรียนรู้การเลือกใช้อย่างถี่ถ้วน ในการเลือกสิ่งที่ดีที่สุด

นายศรันย์ กล่าวว่า การทำตลาดอย่างต่อเนื่องในครั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ามีส่วนแบ่งทางตลาดของนมผงเติบโต 2% เป็น 28% เทียบจากปีที่ผ่านมา 26% มียอดขาย 6.200 ล้านบาท ขณะที่ตลาดนมผลพรีเมี่ยม บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดเฉลี่ย 40%  ซึ่งมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มพรีเมี่ยม    

ด้านแนวโน้มการปรับขึ้นราคานมผง ขณะนี้บริษัทไม่มีแผนปรับราคาแต่อย่างใด โดยคาดว่าตลอดปีนี้จนถึงปีหน้า จะไม่มีการขึ้นราคา เนื่องจากสามารถบริหารจัดการต้นทุนที่เหมาะสมได้ ขณะที่นมผงเป็นผลิตภัณฑ์ที่กระทรวงการพาณิชย์ขอความร่วมมือในการขึ้นราคาในแต่ละครั้ง

นายศรันย์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมียอดขายจากตลาดในประเทศ 55% และส่งออกไปยังเวียดนาม อินเดีย ศรีลังกา 45% ซึ่งการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ปี 2558 ไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดนมผง เพราะปัจจุบันมีการนำเข้าและส่งออกอย่างเสรี