คู่คิดธุรกิจ : ฮัค ไอศกรีมเกล็ดหิมะ

แฟรนไชส์ไอศกรีมเกล็ดหิมะสูตรเด็ด ชูกระแสสุขภาพเจาะตลาด เปิดตัวแค่ 14 เดือน แต่มีสาขาทั่วประเทศแล้วกว่า 20 สาขา

โดย...อรวรรณ จันทร์ธิวัตรกุล

กระแสเทรนด์รักสุขภาพยังคงมาแรงในบ้านเรา ทำให้ธุรกิจที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ มีช่องทางประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก เหมือนอย่าง ไอศกรีมเกล็ดหิมะ ฮัค ไอศกรีม (Huck Ice Cream) ที่แม้จะเปิดตัวได้เพียง 14 เดือน แต่ก็มีสาขาทั่วประเทศแล้ว 20 กว่าสาขา

ศรีไพร สุพจน์รุ่งเรือง

แนวคิดการทำธุรกิจไอศกรีมเกล็ดหิมะ ศรีไพร สุพจน์รุ่งเรือง เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ ฮัค ไอศกรีม เล่าว่า เป็นเพราะมองช่องทางการตลาด คือ เมืองไทยอากาศร้อนเกือบทั้งปี ดังนั้นธุรกิจไอศกรีมน่าจะไปได้ดี เพราะสามารถขายได้ตลอดปี จึงคิดสูตรและเปิดร้านไอศกรีมเกล็ดหิมะขึ้นมา

จุดเด่นไอศกรีมเกล็ดหิมะ อยู่ที่รสชาติของผลไม้ เพราะวัตถุดิบทุกอย่างใช้ผลไม้แท้ๆ มาทำ โดยรสชาติของไอศกรีมจะขึ้นอยู่ตามฤดูกาลของผลไม้ไทย ส่วนเกล็ดหิมะใช้วัตถุดิบชั้นดีเช่นกัน เพราะร้านนำเข้านมผงจากประเทศนิวซีแลนด์ มาทำเป็นน้ำแข็งก้อน เพื่อทำเป็นเกล็ดหิมะ และโรยหน้าด้วยผลไม้ของไทยอีกชั้นหนึ่ง

ส่วนสีของไอศกรีมก็เป็นสีธรรมชาติแท้ๆ ไม่มีการแต่งสีธรรมชาติ อย่างไอศกรีมรสทุเรียนของทางร้านจะเป็นสีขาว ไม่มีการแต่งเป็นสีเหลือง เพราะคอนเซปต์ คือ ไอศกรีมเพื่อสุขภาพจากธรรมชาติ

“ทางร้านมีรสชาติไอศกรีมให้เลือกมากมาย เช่น นมวัว วานิลลา ชาเขียว แตงโม ถั่วแดง เมล็ดงา เผือก มะม่วง ผลกีวี ลำไย ลิ้นจี่ องุ่น กล้วยหอม ช็อกโกแลต มะละกอ มะพร้าว สับปะรด ส้ม ข้าวโพด เป็นต้น ราคาขายจะมีตั้งแต่ 2535 บาทต่อถ้วย”

อย่างไรก็ดี แนวโน้มการแข่งขันตลาดไอศกรีมเกล็ดหิมะ ศรีไพร ยอมรับว่า ไม่ใช่เจ้าแรกในตลาดที่ทำธุรกิจ แต่ยังมองว่ามีโอกาสอยู่ เพราะการแข่งขันยังน้อย มีผู้ประกอบการไม่กี่ราย แม้บางรายจะเป็นแบรนด์ใหญ่เป็นที่รู้จัก แต่เชื่อว่าด้วยการใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ เมื่อเทียบกับราคาที่จำหน่ายกับแบรนด์คู่แข่ง จะสามารถแข่งขันได้ไม่ยาก ซึ่งธุรกิจไอศกรีมมองว่าทำการตลาดได้ไม่ยาก เพราะคนนิยมรับประทานไม่ว่าจะเป็นโอกาสไหน ยิ่งเมืองไทยอากาศร้อนแล้ว สินค้าจะขายง่ายมากขึ้น

“การตั้งราคาขายต่ำกว่าแบรนด์คู่แข่งในตลาด แต่ใช้วัตถุดิบเกรดเอ เพราะเรามองที่ปริมาณการขายมากกว่ากำไรต่อถ้วย จุดนี้จะทำให้เราแข่งขันได้ในตลาด”

ส่วนสาเหตุของการขยายธุรกิจผ่านระบบแฟรนไชส์ เพราะได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ โดยสนใจอยากทำธุรกิจไอศกรีมลักษณะนี้บ้าง จึงได้เปิดให้ผู้สนใจเข้ามาลงทุนผ่านระบบแฟรนไชส์ มาได้ 10 เดือนแล้ว ปัจจุบันมีสาขาทั่วประเทศกว่า 20 สาขา เช่น ขอนแก่น หาดใหญ่ พัทยา บางแสน ระยอง และเวียงจันทน์ เป็นต้น

ตั้งเป้าหมายขยายสาขาปี 2553 คาดว่าจะมีทั้งหมดไม่น้อยกว่า 30 สาขา เพราะขณะนี้มีติดต่อจองแฟรนไชส์เข้ามาประมาณ 10 กว่าราย โดยจุดเด่นของแฟรนไชส์ ฮัค ไอศกรีมเกล็ดหิมะ อยู่ที่การใช้เงินลงทุนต่ำ ถ้าเทียบกับแบรนด์แฟรนไชส์อื่น มองว่าแฟรนไชส์ของเธอเปิดโอกาสให้แก่ผู้ที่ต้องการมีธุรกิจเป็นของตัวเองได้

“มีผู้สนใจเข้ามาสอบถามทุกวัน ซึ่งก็น่าจะเป็นโอกาสให้สำหรับผู้อยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง เพราะแฟรนไชส์ของเราราคาไม่แพง อีกทั้งรสชาติของสินค้าที่มีคุณภาพ ขายได้ไม่ยากอยู่แล้ว”

ศรีไพร กล่าวว่า หลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้ลงทุนแฟรนไชส์ฮัค ไอศกรีมเกล็ดหิมะ จะพิจารณาจากความสนใจในการทำธุรกิจ รวมถึงพื้นที่ในการเปิดกิจการ เพราะเรื่องทำเลสำคัญมาก จะคืนทุนช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งร้านเป็นหลัก โดยทำเลที่ดีในการเปิดธุรกิจไอศกรีมเกล็ดหิมะควรเป็นแหล่งชุมชน อยู่ตามพื้นที่หน้ามหาวิทยาลัย ซึ่งจะมีปริมาณการซื้อสูงกว่าทำเลอื่นๆ

หลักเกณฑ์การลงทุนแฟรนไชส์ มี 2 รูปแบบ รูปแบบแรกใช้เงินลงทุน 3.8 หมื่นบาท และรูปแบบที่สอง ใช้เงินลงทุน 7.8 หมื่นบาท ทั้งสองรูปแบบ (ยังไม่รวมค่าอุปกรณ์) ต่างกันตรงที่ราคาจัดส่งน้ำแข็งนมให้ โดยรูปแบบแรกใช้เงินลงทุนน้อยกว่าจะจัดส่งน้ำแข็งนมให้ก้อนละ 200 บาท แต่รูปแบบสองจะจัดส่งน้ำแข็งนมให้ก้อนละ 160 บาท คือ ถ้าลงทุนสูงก็มีการจำหน่ายวัตถุดิบไปใช้ผลิตในราคาที่ถูกลง 20%

สิ่งที่ผู้ลงทุนจะได้รับจากการลงทุนทั้งสองแบบ คือ การฝึกอบรมครบกระบวนการเป็นเจ้าของร้าน การประเมินพื้นที่ขาย การบริการหลังเข้าร่วมแบบครบวงจร และการวิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่ๆ

น้ำแข็งนมที่ใช้ทำเกล็ดหิมะ สาขาแฟรนไชส์จะต้องซื้อจากร้านแม่ ส่วนท็อปปิงที่ใช้ราดหน้าไอศกรีมจะมีการสอนทำ เมื่อสาขาแฟรนไชส์ทำเป็นแล้ว จะให้สิทธิในการซื้อวัตถุดิบมาจัดทำเอง

ทางด้านการตกแต่งร้าน ให้สิทธิกับผู้ลงทุนแฟรนไชส์ เพราะทางร้านไม่ได้จำกัดว่าจะต้องใช้แบรนด์ของฮัคหรือไม่ หากผู้สนใจต้องการที่จะใช้แบรนด์ของตนเองสามารถทำได้ แต่ต้องซื้อวัตถุดิบจาก ร้านเท่านั้น ส่วนผู้ลงทุนที่อยากใช้แบรนด์ฮัค จะมีมาตรฐานกฎเกณฑ์กำหนดไว้คือ การตกแต่งร้านจะต้องเป็นไปตามแบบที่กำหนดไว้ทุกอย่าง เพื่อให้มาตรฐานของแบรนด์ฮัคเป็นแบบเดียวกัน อย่างสาขาแฟรนไชส์ที่เปิด 20 กว่าสาขา ก็มีที่จะใช้แบรนด์ฮัค 10 กว่าสาขา อีก 10 สาขาใช้แบรนด์ของตนเอง

“ถ้าใช้แบรนด์ฮัคและมีการลงทุนเปิดหน้าร้านตกแต่งจริงๆ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 1.5 แสนบาท เป็นอย่างต่ำ แต่หากรายใดอยากลดต้นทุน ก็ไม่ต้องใช้แบรนด์ คือไปดำเนินการเองในอนาคต ทางร้านแม่มีแผนจะบังคับให้สาขาแฟรนไชส์ใช้แบรนด์ฮัคทั้งหมด ซึ่งจะเป็นการโปรโมตแบรนด์ต่อไป”

ขณะที่การควบคุมมาตรฐานแฟรนไชส์ นั้น มีการควบคุมผ่านการจัดซื้อวัตถุดิบจากทางร้านอยู่แล้ว คือ น้ำแข็งนม นอกจากนี้จะจัดส่งพนักงานไปตรวจสอบตามสาขาต่างๆ ว่ามีการดูแลร้านเป็นอย่างไร รวมถึงให้คำปรึกษาแก่ผู้ลงทุนแฟรนไชส์ที่ยังทำตลาดได้ไม่คล่องเท่าไหร่

ศรีไพร ย้ำว่า การลงทุนแฟรนไชส์ฮัค ไอศกรีมเกล็ดหิมะ จะใช้ระยะเวลาคืนทุนประมาณ 6 เดือน คำนวณจากการขาย 1 วัน สามารถขายสินค้าได้ 100 ถ้วย/วัน ในราคาถ้วยละ 35 บาท/1 ท็อปปิง

ใครสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 081-901-7589