แบงก์รับภาระแทนคนซื้อบ้าน

กสิกรนัดคุยขาใหญ่เอาใจลูกค้าคาดมี.ค.พาเหรดออกหมัดเด็ด

อย่างไรก็ดี ในระยะสั้นจะประสานกับโครงการเพื่อช่วยลูกค้าให้โอนบ้านได้เร็วขึ้น ซึ่งการอนุมัติสินเชื่อลูกค้าจะรู้ผลในเวลา 3 วัน และจดจำนองได้อีก 2 วันถัดไป

นายชาติชาย กล่าวว่า เดิมคาดว่าไตรมาสแรกปีนี้จะปล่อยสินเชื่อบ้านได้ 1 หมื่นล้านบาท แต่ลูกค้าคงเร่งโอนก่อนมาตรการจะถูกยกเลิกในเดือน มี.ค. ทำให้ยอดสินเชื่อจะเพิ่มเป็น 1.3 หมื่นล้านบาท และเชื่อว่าทั้งปีจะปล่อยกู้ได้ไม่ต่ำกว่า 4 หมื่นล้านบาท

นายอภิชาติ อรรฆย์ฐากูร ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสินเชื่อเคหะ ธนาคารนครหลวงไทย กล่าวว่า กำลังประชุมหารือเพื่อรองรับปริมาณลูกค้าที่จะเข้ามามากกว่าปกติ ขั้นตอนการพิจารณาคงกินเวลาเท่าเดิม แต่ต้องเพิ่มช่องทางให้มากขึ้น

ทั้งนี้ เชื่อว่าหลังเดือน มี.ค.นี้ คงได้เห็นหลายธนาคารจับมือกับผู้ประกอบการออกโปรโมชันมาดูแลความรู้สึกของลูกค้า แต่เจ้าของโครงการยังไม่อยากให้เปิดเผยโปรโมชันตอนนี้ เพราะกลัวลูกค้าไม่เร่งโอนบ้านทำให้เป็นต้นทุนของผู้ประกอบการ

นางกาญจนา โรจวทัญญู ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทหารไทย กล่าวว่า คาดว่าช่วงเดือน มี.ค. เดือนเดียวปริมาณคำขอสินเชื่อจะเข้ามามากกว่าช่วงปกติ 23 เดือนรวมกัน ซึ่งใน 12 วันนี้จะออกโปรโมชันพิเศษมาดึงดูดลูกค้าที่กำลังตัดสินใจหันมากู้บ้านกับทหารไทย แนวคิดคือจะช่วยแบ่งเบาภาระลูกค้าในช่วง 3 ปีแรก ซึ่งเป็นช่วงผ่อนชำระที่หนัก

นายสุชาติ สักการโกศล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.จะติดตามดูว่าการไม่ต่ออายุมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์จะส่งผลต่อการเติบโตของสินเชื่อและภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างไรบ้าง แต่คาดว่า ไม่น่าจะทำให้เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น จากราคาบ้านที่เพิ่มสูงขึ้น

นายสุชาติ กล่าวว่า จะนำตัวเลขเศรษฐกิจมาทบทวนการประมาณการอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่ ในวันที่ 29 เม.ย. ปีนี้แน่นอน

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลลดหย่อนมาตรการทางภาษีให้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คือ ลดภาษีธุรกิจเฉพาะจากอัตราปกติ 3.3% เหลือ 0.11% และลดค่าค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิ รวมทั้งนิติกรรมการโอนอสังหาริมทรัพย์จากอัตราปกติ 2% และ 1% เหลือ 0.01% โดยให้สิ้นสุดในวันที่ 28 มี.ค.2553 นี้ โดยไม่มีการต่ออายุออกไปอีก