เพาเวอร์บายเผย4สินค้ายอดพุ่งหลังน้ำท่วม

เพาเวอร์บาย เผย4กลุ่มสินค้าขายดีหลังน้ำท่วม สั่งสินค้าเข้าสต็อก 100-150% ดันตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าปีหน้าโตพุ่ง10%

นางสอางทิพย์ อมรฉัตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัทเพาเวอร์บาย ผู้ทำตลาดร้านค้าปลีกพิเศษเครื่องใช้ไฟฟ้า ‘เพาเวอร์บาย’ เปิดเผยว่าในช่วงภาวะการณ์หลังน้ำลดในขณะนี้ คาดผู้บริโภคที่ประสบภัยน้ำท่วม จะมีความต้องการใน 4 กลุ่มสินค้าเครื่องใชไฟฟ้าหลัก คือ ตู้เย็น, เครื่องซักผ้า, เครื่องปรับอากาศ และโทรทัศน์แอลซีดี เทคโนโลยี ด้วยเป็นกลุ่มสินค้าชิ้นใหญ่เคลื่อนย้ายลำบากในช่วงน้ำท่วม และเมื่อเครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหาย ส่วนใหญ่จะซื้อชิ้นใหม่มากกว่านำไปซ่อมแซม

ทั้งนี้ บริษัทได้เจรจากับผู้ผลิตเจ้าของสินค้า(ซัพพลายเออร์) หลายราย ใช้วิธีการจัดซื้อขาด(เครดิต)สินค้า4กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าดังกล่าวมาสต็อกไว้เพิ่มขึ้นกว่า100-150% เทียบกับช่วงปกติ เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภคในช่วงนี้ อาทิ ตู้เย็น 2ประตู(ไซด์ บาย ไซด์)  จากโตชิบา, ฮิตาชิ หรือกลุ่มเครื่องปรับอากาศ และ เครื่องซักผ้า  ที่คาดว่าความต้องการสินค้ากลุ่มนี้จะยังมีสูงต่อเนื่องไปจนถึงต้นปีหน้า และอาจส่งผลให้สินค้ากลุ่มดังกล่าว บางรายการขาดตลาด

“สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทำให้บริษัทเองสูญเสียรายได้จากการขายสินค้าประมาณ 300 ล้านบาท หรือทำให้ช่วงปลายเดือน ต.ค.จนถึงกลางเดือนพ.ย บริษัทมียอดขายลดลง 20% จากซัพพลายเออร์บางรายที่ได้รับผลกระทบ อาทิ โตชิบา หรือ โซนี่ ในกลุ่มแอลซีดี ทีวี  และ ฮิตาชิ กลุ่มตู้เย็น 2 ประตู อาจทำให้หลังจากนี้สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มนี้ มีแนวโน้มขาดตลาด” นางสอางทิพย์ กล่าว

ล่าสุด บริษัทใช้งบกว่า 30 ล้านบาท พร้อมร่วมกับเซ็นทรัล เครดิตการ์ด และผู้ให้บริการบัตรเครดิตต่างๆ จัดแคมเปญ “เครื่องเก่า ทุกสภาพ มีค่า!...ที่เพาวเวอร์บาย” สำหรับซื้อเครื่องใหม่รับ 3 ต่อ ลด+รับสูงสุด 26% พร้ออัตราดอกเบี้ย 0% ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระผู้ประสบภัย  หรือเพื่อมอบให้ผู้บริโภค ที่มีความจำเป็นต้องซื้อเครื่องใหม่ทดแทนเครื่องเก่า รวมทั้งซื้อเพื่อมอบเป็นของขวัญในช่วงพิเศษ ในเดือนธ.ค.นี้ ตั้งแต่วันที่ 30พ.ย.-8ก.พ.54 ในร้านเพาเวอร์บายทั้ง 70 สาขาทั่วประเทศ

ขณะที่ในปีหน้า บริษัทมีแผนสร้างศูนย์กระจายสินค้า(ดีซี) แห่งใหม่ขึ้นใน อ.วังน้อย จังหวัดพระนครศรี อยุธยา บนพื้นที่ 40 ไร่ ซึ่งจะย้ายจากดีซีเดิมที่บางพูน รังสิต ไปยังดีซีแห่งใหม่ดังกล่าว ส่วนผลประกอบการในเดือน ธ.ค ปีนี้ บริษัทคาดว่าจะมีการเติบโตยอดขายเพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา หรือคิดเป็นมูลค่า 1,200 ล้านบาทส่งผลให้ผลประกอบการบริษัทในปี54 นี้มีการเติบโตขึ้น 15% หรือคิดเป็นรายได้ทั้งปี 1.6 หมื่นล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้ พร้อมคาดว่าจากความต้องการสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สูงขึ้นต่อเนื่องในช่วงผลายปีนี้ จะผลักดันให้ตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าในปีหน้ามีอัตราเติบโตไม่ต่ำกว่า 10%