ชาพร้อมดื่มแข่งดุรับน้องใหม่เพียวริคุจัดหนัก-โออิชิลุ้นล้าน

จากข้อมูลของ นีลเส็น บริษัทผู้วิจัยตลาด ที่ระบุว่า ตลาดรวมชาพร้อมดื่มในปีที่ผ่านมามีมูลค่า 7,800 ล้านบาท

โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล

จากข้อมูลของ นีลเส็น บริษัทผู้วิจัยตลาด ที่ระบุว่า ตลาดรวมชาพร้อมดื่มในปีที่ผ่านมามีมูลค่า 7,800 ล้านบาท โดยในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา พบว่าตลาดรวมโตเฉลี่ย 14% และจนถึงสิ้นปีคาดเติบโตได้ 17%

ขณะที่ตลาดรวมชาพร้อมดื่มในปัจจุบันมีแบรนด์โออิชิครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 อย่างเหนียวแน่นที่ 54% ตามด้วยแบรนด์เพียวริคุ อันดับ 2 ส่วนแบ่ง 18% ลิปตัน อันดับ 3 ส่วนแบ่งตลาด 9.3% อิชิตันครองส่วนแบ่ง 4.9% และอันดับ 5 ในตลาด ยูนิฟ ส่วนแบ่ง 3.5%

 

“ปีนี้ตลาดเครื่องดื่มชาพร้อมดื่มกลับมาแข่งขันรุนแรงเหมือนเมื่อ 7 ปีก่อน จากการที่เจ้าของสินค้ารายใหญ่ในตลาดหันมาใช้กลยุทธ์ราคาและกิจกรรมส่งเสริมการขาย (โปรโมชัน) สินค้ามากขึ้น และการเข้ามาของผู้ประกอบการสินค้าชาพร้อมดื่มอีก 2 รายใหม่” สุวรรณดี ไชยวรุตม์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ทีซี ฟาร์ มาซูติคอล อุตสาหกรรม ผู้ผลิตและทำตลาดเครื่องดื่มชาขาวพร้อมดื่ม “เพียวริคุ” กล่าว

จากการแข่งขันรุนแรงนี้เอง ทำให้ผู้ประกอบการรายเดิมในตลาดหันมาจัดกิจกรรมการตลาดเชิงรุก โดยการเพิ่มแคมเปญการตลาดเพื่อกระตุ้นการขายในช่วงปลายปีนี้มากขึ้น

ในส่วนของ เพียวริคุ ก็เตรียมงบการตลาดเพิ่มอีก 10% จากปีที่ผ่านมา และเลื่อนแผนกิจกรรมการตลาดภายใต้แคมเปญที่ 2 ให้เร็วขึ้น จากเดิมอยู่ในช่วงเดือน พ.ย.ทุกปี

ล่าสุด ยังได้เปิดตัวทูตสินค้า (แบรนด์แอมบาสซาเดอร์) คนใหม่ คือ เป้ อารักษ์ ศิลปินนักแสดงคนรุ่นใหม่ พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ “เสียดาย” โดยจะออกอากาศในวันที่ 2 ต.ค.นี้ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดชาพร้อมดื่มรสเก๊กฮวยขาว เพื่อกระตุ้นการรับรู้ (แบรนด์อะแวร์เนส) และผลักดันยอดขายสินค้าชาพร้อมดื่มเพียวริคุ คูล เก๊กฮวยขาว ให้เติบโตขึ้น 20%

กิจกรรมดังกล่าวของบริษัทถือเป็นแคมเปญที่ 2 ตามปกติของทุกปี ต่างจากเจ้าของสินค้ารายอื่น โดยเฉพาะรายใหญ่ในตลาดที่พบว่าหันมาจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดผ่านแคมเปญโปรโมชันใหญ่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จากเดิมจะมีเพียง 1 แคมเปญใหญ่อย่างเดียวที่เปิดตัวในช่วงฤดูร้อน

แต่เนื่องจากในปีนี้อากาศแปรปรวนในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดขายสินค้าเครื่องดื่มชาพร้อมดื่มไม่มีอัตราเติบโตเป็นครั้งแรก ทำให้เจ้าของสินค้าหันมาทำตลาดในปลายปีนี้มากขึ้น

สำหรับแนวทางการทำตลาดของบริษัทนับจากนี้จะมุ่งสื่อสารผลิตภัณฑ์ชาขาวพร้อมดื่มเพียวริคุกับกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคมากขึ้น จากเดิมบริษัทใช้ผลิตภัณฑ์ชาขาวเป็นตัวนำตลาด โดยเฉพาะเพียวริคุ คูล เก๊กฮวยขาว ที่ใช้วัตถุดิบจริงมาเป็นส่วนผสม แตกต่างไปจากชาพร้อมดื่มรายอื่นในปัจจุบัน ที่ใช้ทั้งวัตุดิบจริงและการแต่งกลิ่นเก๊กฮวย เป็นต้น

ปัจจุบันเพียวริคุ ทำตลาด 5 รสชาติ คือ ชาขาวเพียวริคุ เพียว, เพียวริคุ คูล เก๊กฮวยขาว, รสซิซีลี เลมอน, เพียวริคุ ฟรุ้ต ไวท์ที มิกซ์เบอร์รี และเพียวริคุ ฟรุ้ต ไวท์ที พิงค์เลมอเนด และเพียวริคุ โกจิเบอร์รี มีขนาด 350 ซีซี ราคา 23 บาท โดยทำตลาดผ่านช่องทางร้านค้าปลีกสมัยใหม่และร้านค้าทั่วไปในสัดส่วน 50% เท่ากัน

 

ขณะที่แนวโน้มตลาดชาพร้อมดื่มนับจากปลายปีนี้จนถึงปีหน้า คาดว่าเจ้าของสินค้าแต่ละรายจะเลือกใช้เครื่องมือการทำตลาดภายใต้กลยุทธ์ 4พี (4Ps) ต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในปีนี้ที่พบว่าเจ้าของสินค้ารายใหญ่อย่างแบรนด์โออิชิและรายใหม่ในตลาดทั้งอิชิตันและมิเรอิ ต่างเลือกใช้กลยุทธ์ราคา (ไพรซ์) มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทั้งสองรายใหม่จะเลือกใช้กลยุทธ์ราคาเพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ในช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ซึ่งในปีหน้ายังต้องจับตาตลาดชาพร้อมดื่มอย่างใกล้ชิด ด้วยเชื่อว่าจะยังแข่งขันรุนแรงมากขึ้น

ด้านผู้นำตลาดอย่างโออิชิ ก็ได้ขับเคลื่อนแคมเปญใหญ่ออกมาส่งท้ายปี โดยอนิรุทธิ์ มหธร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท โออิชิ กรุ๊ป ผู้บริหารผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มตราโออิชิ กล่าวว่า ในไตรมาสสุดท้ายนี้ บริษัทได้ทุ่มงบ 150 ล้านบาท เพื่อทำตลาดครั้งใหญ่ ถือเป็นครั้งแรกที่ได้ใช้งบทำตลาดและเปิดตัวสินค้าในช่วงปลายปี

ทั้งนี้ เพราะเห็นว่าในปัจจุบันตลาดชาเขียวพร้อมดื่มแข่งขันรุนแรงมากขึ้น และโออิชิต้องการรักษาความเป็นผู้นำด้วยส่วนแบ่งการตลาด 60-65% ต่อไป โดยล่าสุดได้เปิดตัวสินค้าใหม่เพื่อทำตลาดในปลายปีนี้ ได้แก่ โออิชิกรีนที ขวดพีอีที ขนาด 1 ลิตร ราคา 30 บาท ถือว่าปรับลดราคาลงมาจากเดิมขนาด 1 ลิตร เป็นกล่องยูเอชทีจำหน่ายราคา 35 บาท

ขณะเดียวกันได้เปิดตัวเครื่องดื่ม โออิชิ คิคุชะ น้ำชาเขียวผสมเก๊กฮวยรสชาติใหม่ ขนาด 350 มิลลิลิตร ราคา 13 บาท และโออิชิ ฟรุตโตะ 2 รสชาติใหม่ ได้แก่ โกจิเบอร์รีและสตรอเบอร์รี ขนาด 350 มิลลิลิตร ราคา 13 บาท

นอกจากนี้ ยังได้ทุ่มงบ 80 ล้านบาท จัดโปรโมชัน “รวยฝาประทาน ฝันเป็นล้าน” เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าร่วมส่งฝาเครื่องดื่มของโออิชิทุกแบบ ทั้ง ฟรุตโตะ, ชาคูลล์ซ่า, คอฟฟิโอ และอะมิโน พลัส ร่วมชิงโชค มูลค่ารางวัลละ 1 ล้านบาท รวม 6 รางวัล เริ่มจับรางวัลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.-20 ธ.ค.นี้ เชื่อมั่นว่าแคมเปญนี้จะกระตุ้นยอดขายในไตรมาสสุดท้ายให้เติบโตต่อเนื่อง และทำให้ยอดขายปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่ 6,300 ล้านบาท เติบโต 25%

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทางการตลาดของโออิชิกลับต่างจากเพียวริคุ โดยระบุว่า ตลาดชาพร้อมดื่มปีนี้มีมูลค่า 8,000 ล้านบาท เทียบกับช่วงปีที่ผ่านมาเติบโต 15% โดยโออิชิเป็นผู้นำส่วนแบ่ง 60-65% ส่วนอันดับ 2 คือ เพียวริคุ 15% ลิปตัน 10% และอิชิตัน 67%

แต่สิ่งที่ทั้งผู้นำและผู้ตามเห็นตรงกันคือ การแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น และจะเพิ่มความดุเดือดทุกขณะ จากการที่รายใหม่เข้ามาในตลาด ไม่ว่าจะเป็นอิชิตันหรือมิเรอิ ซึ่งย่อมทำให้รายเดิมต้องทำทุกวิถีทางที่จะปกป้องส่วนแบ่งตลาด ขณะที่รายใหม่ก็ทำทุกวิถีทางเช่นกันเพื่อหาพื้นที่มั่นและชิงส่วนแบ่งในตลาดนี้