สั่งจับตา "ล้งจีน" กินรวบสวนยาง ซ้ำรอยซื้อผลไม้

“กฤษฎา” เล็งจัดระเบียบล้งจีนหลังพบขยายซื้อขายยาง หวั่นซ้ำรอยปัญหาผลไม้เอาเปรียบเกษตรกร

นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ไปตรวจสอบกรณีที่มีผู้รวบรวมจากจีน (ล้งจีน) ได้ร่วมมือกับเอกชนหรือกลุ่มเกษตรกรไทยในการทำสัญญาซื้อขายยางพาราระหว่างกัน โดยขณะนี้ยังไม่ทราบเรื่องว่ามีจริงหรือไม่ และอยู่ในพื้นที่ใดบ้าง เพราะนโยบายของรัฐบาลคือ ลดพื้นที่ปลูกยาง อีกทั้งกรณีจับมือซื้อขายยางระหว่างสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางกับเอกชนจีนนั้น อาจจะมีปัญหาซ้ำรอยกับล้งจีนที่เข้ามาซื้อผลไม้ในภาคตะวันออกได้ ดังนั้นจึงต้องมีการตรวจสอบเพื่อป้องกันปัญหา

“รัฐบาลไม่มีนโยบายส่งเสริมพื้นที่การปลูกยางพาราเพิ่มจากปัจจุบัน เพราะอยู่ระหว่างการลดพื้นที่ปลูกยาง ประกอบกับติดกฎหมายห้ามต่างชาติซื้อที่ดินทำการเกษตร ดังนั้นได้ให้ กยท.ลงไปดูรายละเอียดทั้งหมด” นายกฤษฎา กล่าว

ทั้งนี้ นโยบายการลดพื้นที่ปลูกยางที่ผ่านมา ผลการศึกษาพบว่าเกษตรกรชาวสวนยางพอใจกับมาตรการลดพื้นที่ปลูกและปลูกพืชอื่นแซม หรือพืชผสมผสาน เพราะทำให้มีรายได้เสริมจากการกรีดยาง ซึ่ง กยท.มีโครงการที่จะส่งเสริมการปลูกพืชอื่น โดยสนับสนุนงบประมาณ 3,000 ล้านบาท เพื่อให้เกษตรกรชาวสวนยางลดพื้นที่ปลูก หรือลดปริมาณจำนวนต้นยางในสวน ซึ่งจะช่วยลดปริมาณผลผลิตน้ำยางในตลาดได้   

สำหรับผลการสอบ นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการ กยท. ตามคำสั่งของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ อดีต รมว.เกษตรฯ สั่งสอบนั้นยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการ แต่เบื้องต้นทาง กยท.ได้รายงานว่าผลสอบไม่มีหลักฐานความผิด ซึ่งต้องรอผลทางการก่อน เพื่อชี้แจงประชาชนได้

“ยอมรับว่าไม่ค่อยมั่นใจตัวเลขรายงานผลการดำเนินงานของ กยท. จึงได้สั่งการให้ตรวจสอบผลการดำเนินการทั้งหมด โดเฉพาะนโยบายลดพื้นที่ปลูกยางทั้งโครงการโค่นยางเก่า ปลูกยางใหม่ ว่าโค่นจริงหรือไม่ โดยเฉพาะโครงการงดกรีดยางในสวนของรัฐ 1 แสนไร่ ช่วง 3 เดือน (ม.ค.-มี.ค.) ว่างดจริงหรือไม่ เพราะรัฐต้องจ่ายเงิน1,000 บาท/ไร่ หากพบว่าแจ้งเท็จจะจัดการขั้นเด็ดขาด โดยจะมีการตรวจสอบทั้งส่วนของ กยท.และกระทรวงซ้ำด้วย” นายกฤษฎา กล่าว