posttoday

เวทีถกกฎหมายลูกเดือด วิวาทะ ‘มีชัย-สมชัย’

17 พฤศจิกายน 2559

กรธ. จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งและร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.โดยเปิดให้สปท. ​และตัวแทนจากพรรคการเมืองร่วมแสดงความคิดเห็น

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งและร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.โดยเปิดให้สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ​และตัวแทนจากพรรคการเมืองร่วมแสดงความคิดเห็น

มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. กล่าวเปิดการสัมมนา​ว่า ​กรธ.ต้องเปิดใจกว้างรับฟังความคิดเห็นเพราะบางเรื่องก็คิดไม่ครบถ้วน ต้องรับฟังเสียงติติง อีกทั้ง กรธ.ไม่เคยจัดการเลือกตั้งจึงต้องฟังฝ่ายต่างๆ อย่างเช่น ประเด็น กกต.จังหวัดนั้น ​บางคนอยู่ในพื้นที่นานๆ มีความคุ้นเคยก็อาจเกรงใจบ้าง​ไม่กล้าบ้าง ต้องอาศัยประชาชน เป็นคนชี้เบาะแส แต่อันตรายตรงที่หากมีการกลั่นแกล้งกัน ดังนั้นจึงต้องเขียนบทลงโทษให้แรง ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร สมาชิกพรรค หากไปกลั่นแกล้งกันก็ต้องรับโทษรุนแรง

อย่างไรก็ตาม ​ประเด็นการเพิ่มจำนวน กกต.จาก 5 เป็น 7 คนนั้น เพื่อประสิทธิภาพรับการเลือกตั้ง ให้มีผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเฉพาะ ​​อีกทั้งไม่ใช่แค่เปิดรับสมัครเท่านั้นเพราะบางทีมือเจ๋งๆ ไม่อยากสมัคร​ก็ได้ ต้องทำตัวแมวมองแล้วนำมาดูข้อดีข้อเสียแต่ละคน

“กรธ.​​ไม่เคยคิดฟุ้งเฟ้อเพ้อเจ้อตามอารมณ์ แต่เขียนกฎหมายลูกให้สอดคล้องไปตามหลักการสำคัญของรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติเพื่อสร้างการปฏิรูป ขจัดการทุจริตอย่างจริงจัง​ บางท่านที่ตามไม่ทันรับไม่ได้ คิดว่าเป็นการกลั่นแกล้งเฉพาะตัว แต่ยืนยันว่า ข้อกำหนดที่ใช้กับกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็จะนำไปใช้กับองค์กรอิสระอื่น” มีชัย กล่าว

รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.​ กล่าวว่า ไม่อยากให้การรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้เป็นเพียงแค่พิธีกรรม แต่อยากให้นำข้อคิดเห็นที่ได้นำไปใช้ประกอบการพิจารณาอย่างแท้จริง ​ทั้งนี้ การออกกฎหมาย กกต.​มีความสำคัญเพราะจะทำให้มีการจัดการเลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรม ซึ่งมีหลักการสำคัญ 3 ข้อ คือ 1.ทำให้ประชาชนสะดวกและเข้าถึงการเลือกตั้ง 2.ให้การใช้สิทธิของประชาชนอยู่บนพื้นฐานความรู้อย่างมีคุณภาพ 3.ออกแบบกลไกให้การทุจริตซื้อเสียงหมดไปหรือน้อยลง

ทั้งนี้ จากหลัก 3 ข้อ สิ่งที่หนักใจที่สุดก็คือประเด็นจัดการเลือกตั้งให้การทุจริตหมดไป ที่ผ่านมามีหลายคนพยายามคิด แต่ก็มีความพยายามหาแพะ ไล่มาตั้งแต่ กกต.กลาง กกต.จังหวัด รวมถึงไปโทษประชาชนที่เป็นคนไปรับเงินเสียเอง อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างต้องวิเคราะห์รายละเอียด แต่จะเห็นว่า ร่าง พ.ร.บ.ที่ กกต.เสนอ กับที่ กรธ.เขียนนั้นเป็นคนละเรื่องกัน เช่น ร่างของ กรธ.ไม่มีการกำหนดเรื่อง กกต.จังหวัด ให้มีผู้ตรวจ 500 คนในถัง และจับสลากว่าจะอยู่ในจังหวัดใดก็ได้ 2 เดือน

“เป็นหน้าที่ที่ กกต.เสนอ รวมทั้งเปิดให้มีการวิจารณ์​ เช่นเดียวกับ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย สว.ที่อยู่ระหว่างการเสนอ ​ซึ่งเป็นเรื่องของการพูดคุยกันวันนี้ที่เราพยายามหาหนทางที่ดีที่สุดให้กับบ้านเมือง ไม่ได้เป็นการรักษาหน้าใคร หาก กกต.​ทำผิดก็ต่อว่าได้เลยเต็มที่ ซึ่งจะได้รับไปปรับปรุงเแก้ไข หรือหากร่างของ กรธ. มีจุดอ่อนก็ต้องช่วยกันวิจารณ์เพื่อให้ดีขึ้น นี่คือสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ไม่ใช่ร่างกฎหมายมาหลายฉบับกว่า แล้วต้องเก่งกว่า” รศ.สมชัย กล่าว

บรรยากาศเคร่งเครียดขึ้นเมื่อ รศ.สมชัย ระบุว่า อยากให้ทาง กรธ.เป็นคนนำเสนอเนื้อหาในร่าง พ.ร.บ.กกต. เพราะเนื้อหาไม่ตรงกับทางร่างของ กรธ.เหมือนกับร่างของ กกต.ไปทางเหนือ แต่ร่างของ กรธ.​ไปทางใต้ หากมัวแต่ไปพิจารณาร่างของ กกต.ก็จะไปผิดทางได้ ทำให้ ชาติชาย ณ​ เชียงใหม่ กรธ. อธิบายว่า ขณะนี้ทาง กรธ.ยังไม่มีข้อสรุปในรายละเอียดแต่ละมาตรา ที่ผ่านมาเป็นเพียงแค่การรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานต่างๆ จากนั้นจึงเป็นการนำเสนอร่าง พ.ร.บ.การได้มาซึ่ง สว.

จากนั้นตัวแทนจากสำนักงานกกต.ชี้แจงเนื้อหาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.ที่มีเนื้อหาสอดรับกับร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติ โดยจะมี สว. 200 คน ผ่านการคัดเลือกกันเองของบุคคลที่มีความรู้เชี่ยวชาญแต่ละด้าน อาทิ การ​​บริหาร ความมั่นคง การต่างประเทศ กฎหมาย ยุติธรรม กสิกร ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง สำหรับผู้ที่ไม่เข้าด้านใดก็ยังสามารถลงสมัครด้านอื่นๆ

ผู้สมัครจะสมัครได้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหากฝ่าฝืน กกต.พบสามารถร้องศาลให้เพิกถอนสิทธิ กรณีการหาเสียงนั้นไม่สามารถทำได้ แต่สามารถแนะนำตัวได้ โดย กกต.จะเป็นคนจัดทำเอกสารเผยแพร่ ส่วนการคัดเลือกจะแบ่งเป็นสามระดับ​ อำเภอ ​จังหวัด ประเทศ การเลือกระดับอำเภอ โดยจะเลือกแบบไขว้​ตามลำดับจนได้  200 คน หากจะมีการยื่นคำร้องคัดค้านสามารถทำได้ 48 ชม. หลังจากประกาศรายชื่อในแต่ละระดับ

ช่วงการแสดงความคิดเห็น โดย เสรี สุวรรณภานนท์ ประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง (สปท.)​ กล่าวว่า ในส่วนของ สว.​ที่มาจาก 20 กลุ่มนั้น ทาง กมธ.สปท. เคยเสนอความคิดเห็นไปแล้วว่า 20 กลุ่ม อาจไม่ครบถ้วน รวมทั้งระบบการเลือกไขว้อาจเปิดให้เกิดการบล็อกโหวตไม่สะท้อนอาชีพเพราะการเลือกไขว้

ส่วนเรื่อง กกต.จังหวัด ที่ผ่านมา กกต.จังหวัดกลายเป็นพวกใครพวกมัน สร้างสัมพันธ์ สนิทเชิดเชื้อทำให้เกิดการเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม ดังนั้น แนวคิดเรื่องผู้ตรวจก็เป็นแนวทางหนึ่งหรือหาก​จะมี กกต.จังหวัดอยู่ก็ควรมาดูอำนาจหน้าที่ เพราะ กกต.จังหวัด ก็ไม่ได้เป็นเหมือนกันทุกคน ​ซึ่ง กมธ.สปท.เคยเสนอ อาทิ ให้ กกต.จังหวัดไม่มีอำนาจวินิจฉัยลงโทษผู้ใด

ขณะที่ตัวแทนจากพรรคการเมือง อื่นๆ มีความเห็นหลากหลาย อาทิ ต้องการให้ตั้งพรรคการเมืองยาก และหากตั้งพรรคแล้วควรได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ขณะที่ตัวแทนบางคนเห็นว่าเวลานี้มีพรรคที่เป็นของประชาชนอยู่แล้ว 60-70 พรรค หากต้องให้สมาชิกร่วมจ่ายเงินอาจทำให้สุดท้ายพรรคต่างๆ ต้องกลายเป็นของนายทุน  บางส่วนเห็นว่า ค่าสมัคร สว.​แค่ 500 บาท แต่ค่าสมัคร สส.เกือบ 1 หมื่นบาท เห็นว่าควรจะลดค่าสมัคร สส.เพื่อเปิดกว้างให้คนทั่วไปได้สมัคร