เวทีถกกฎหมายลูกเดือด วิวาทะ ‘มีชัย-สมชัย’
กรธ. จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งและร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.โดยเปิดให้สปท. และตัวแทนจากพรรคการเมืองร่วมแสดงความคิดเห็น
โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์
กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งและร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.โดยเปิดให้สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และตัวแทนจากพรรคการเมืองร่วมแสดงความคิดเห็น
มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. กล่าวเปิดการสัมมนาว่า กรธ.ต้องเปิดใจกว้างรับฟังความคิดเห็นเพราะบางเรื่องก็คิดไม่ครบถ้วน ต้องรับฟังเสียงติติง อีกทั้ง กรธ.ไม่เคยจัดการเลือกตั้งจึงต้องฟังฝ่ายต่างๆ อย่างเช่น ประเด็น กกต.จังหวัดนั้น บางคนอยู่ในพื้นที่นานๆ มีความคุ้นเคยก็อาจเกรงใจบ้างไม่กล้าบ้าง ต้องอาศัยประชาชน เป็นคนชี้เบาะแส แต่อันตรายตรงที่หากมีการกลั่นแกล้งกัน ดังนั้นจึงต้องเขียนบทลงโทษให้แรง ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร สมาชิกพรรค หากไปกลั่นแกล้งกันก็ต้องรับโทษรุนแรง
อย่างไรก็ตาม ประเด็นการเพิ่มจำนวน กกต.จาก 5 เป็น 7 คนนั้น เพื่อประสิทธิภาพรับการเลือกตั้ง ให้มีผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเฉพาะ อีกทั้งไม่ใช่แค่เปิดรับสมัครเท่านั้นเพราะบางทีมือเจ๋งๆ ไม่อยากสมัครก็ได้ ต้องทำตัวแมวมองแล้วนำมาดูข้อดีข้อเสียแต่ละคน
“กรธ.ไม่เคยคิดฟุ้งเฟ้อเพ้อเจ้อตามอารมณ์ แต่เขียนกฎหมายลูกให้สอดคล้องไปตามหลักการสำคัญของรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติเพื่อสร้างการปฏิรูป ขจัดการทุจริตอย่างจริงจัง บางท่านที่ตามไม่ทันรับไม่ได้ คิดว่าเป็นการกลั่นแกล้งเฉพาะตัว แต่ยืนยันว่า ข้อกำหนดที่ใช้กับกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็จะนำไปใช้กับองค์กรอิสระอื่น” มีชัย กล่าว
รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. กล่าวว่า ไม่อยากให้การรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้เป็นเพียงแค่พิธีกรรม แต่อยากให้นำข้อคิดเห็นที่ได้นำไปใช้ประกอบการพิจารณาอย่างแท้จริง ทั้งนี้ การออกกฎหมาย กกต.มีความสำคัญเพราะจะทำให้มีการจัดการเลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรม ซึ่งมีหลักการสำคัญ 3 ข้อ คือ 1.ทำให้ประชาชนสะดวกและเข้าถึงการเลือกตั้ง 2.ให้การใช้สิทธิของประชาชนอยู่บนพื้นฐานความรู้อย่างมีคุณภาพ 3.ออกแบบกลไกให้การทุจริตซื้อเสียงหมดไปหรือน้อยลง
ทั้งนี้ จากหลัก 3 ข้อ สิ่งที่หนักใจที่สุดก็คือประเด็นจัดการเลือกตั้งให้การทุจริตหมดไป ที่ผ่านมามีหลายคนพยายามคิด แต่ก็มีความพยายามหาแพะ ไล่มาตั้งแต่ กกต.กลาง กกต.จังหวัด รวมถึงไปโทษประชาชนที่เป็นคนไปรับเงินเสียเอง อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างต้องวิเคราะห์รายละเอียด แต่จะเห็นว่า ร่าง พ.ร.บ.ที่ กกต.เสนอ กับที่ กรธ.เขียนนั้นเป็นคนละเรื่องกัน เช่น ร่างของ กรธ.ไม่มีการกำหนดเรื่อง กกต.จังหวัด ให้มีผู้ตรวจ 500 คนในถัง และจับสลากว่าจะอยู่ในจังหวัดใดก็ได้ 2 เดือน
“เป็นหน้าที่ที่ กกต.เสนอ รวมทั้งเปิดให้มีการวิจารณ์ เช่นเดียวกับ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย สว.ที่อยู่ระหว่างการเสนอ ซึ่งเป็นเรื่องของการพูดคุยกันวันนี้ที่เราพยายามหาหนทางที่ดีที่สุดให้กับบ้านเมือง ไม่ได้เป็นการรักษาหน้าใคร หาก กกต.ทำผิดก็ต่อว่าได้เลยเต็มที่ ซึ่งจะได้รับไปปรับปรุงเแก้ไข หรือหากร่างของ กรธ. มีจุดอ่อนก็ต้องช่วยกันวิจารณ์เพื่อให้ดีขึ้น นี่คือสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ไม่ใช่ร่างกฎหมายมาหลายฉบับกว่า แล้วต้องเก่งกว่า” รศ.สมชัย กล่าว
บรรยากาศเคร่งเครียดขึ้นเมื่อ รศ.สมชัย ระบุว่า อยากให้ทาง กรธ.เป็นคนนำเสนอเนื้อหาในร่าง พ.ร.บ.กกต. เพราะเนื้อหาไม่ตรงกับทางร่างของ กรธ.เหมือนกับร่างของ กกต.ไปทางเหนือ แต่ร่างของ กรธ.ไปทางใต้ หากมัวแต่ไปพิจารณาร่างของ กกต.ก็จะไปผิดทางได้ ทำให้ ชาติชาย ณ เชียงใหม่ กรธ. อธิบายว่า ขณะนี้ทาง กรธ.ยังไม่มีข้อสรุปในรายละเอียดแต่ละมาตรา ที่ผ่านมาเป็นเพียงแค่การรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานต่างๆ จากนั้นจึงเป็นการนำเสนอร่าง พ.ร.บ.การได้มาซึ่ง สว.
จากนั้นตัวแทนจากสำนักงานกกต.ชี้แจงเนื้อหาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.ที่มีเนื้อหาสอดรับกับร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติ โดยจะมี สว. 200 คน ผ่านการคัดเลือกกันเองของบุคคลที่มีความรู้เชี่ยวชาญแต่ละด้าน อาทิ การบริหาร ความมั่นคง การต่างประเทศ กฎหมาย ยุติธรรม กสิกร ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง สำหรับผู้ที่ไม่เข้าด้านใดก็ยังสามารถลงสมัครด้านอื่นๆ
ผู้สมัครจะสมัครได้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหากฝ่าฝืน กกต.พบสามารถร้องศาลให้เพิกถอนสิทธิ กรณีการหาเสียงนั้นไม่สามารถทำได้ แต่สามารถแนะนำตัวได้ โดย กกต.จะเป็นคนจัดทำเอกสารเผยแพร่ ส่วนการคัดเลือกจะแบ่งเป็นสามระดับ อำเภอ จังหวัด ประเทศ การเลือกระดับอำเภอ โดยจะเลือกแบบไขว้ตามลำดับจนได้ 200 คน หากจะมีการยื่นคำร้องคัดค้านสามารถทำได้ 48 ชม. หลังจากประกาศรายชื่อในแต่ละระดับ
ช่วงการแสดงความคิดเห็น โดย เสรี สุวรรณภานนท์ ประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง (สปท.) กล่าวว่า ในส่วนของ สว.ที่มาจาก 20 กลุ่มนั้น ทาง กมธ.สปท. เคยเสนอความคิดเห็นไปแล้วว่า 20 กลุ่ม อาจไม่ครบถ้วน รวมทั้งระบบการเลือกไขว้อาจเปิดให้เกิดการบล็อกโหวตไม่สะท้อนอาชีพเพราะการเลือกไขว้
ส่วนเรื่อง กกต.จังหวัด ที่ผ่านมา กกต.จังหวัดกลายเป็นพวกใครพวกมัน สร้างสัมพันธ์ สนิทเชิดเชื้อทำให้เกิดการเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม ดังนั้น แนวคิดเรื่องผู้ตรวจก็เป็นแนวทางหนึ่งหรือหากจะมี กกต.จังหวัดอยู่ก็ควรมาดูอำนาจหน้าที่ เพราะ กกต.จังหวัด ก็ไม่ได้เป็นเหมือนกันทุกคน ซึ่ง กมธ.สปท.เคยเสนอ อาทิ ให้ กกต.จังหวัดไม่มีอำนาจวินิจฉัยลงโทษผู้ใด
ขณะที่ตัวแทนจากพรรคการเมือง อื่นๆ มีความเห็นหลากหลาย อาทิ ต้องการให้ตั้งพรรคการเมืองยาก และหากตั้งพรรคแล้วควรได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ขณะที่ตัวแทนบางคนเห็นว่าเวลานี้มีพรรคที่เป็นของประชาชนอยู่แล้ว 60-70 พรรค หากต้องให้สมาชิกร่วมจ่ายเงินอาจทำให้สุดท้ายพรรคต่างๆ ต้องกลายเป็นของนายทุน บางส่วนเห็นว่า ค่าสมัคร สว.แค่ 500 บาท แต่ค่าสมัคร สส.เกือบ 1 หมื่นบาท เห็นว่าควรจะลดค่าสมัคร สส.เพื่อเปิดกว้างให้คนทั่วไปได้สมัคร