posttoday

ธุรกิจใหม่มาแรง "แอปฯ AI เที่ยวทิพย์" เจาะตลาดคนอยากมีชีวิตหรู

28 ตุลาคม 2568

"เที่ยวทิพย์" ก็ยังต้องจ่าย! สำรวจธุรกิจแอป AI สร้างภาพชีวิตหรู ที่กำลังฮิตในกลุ่มคนที่ต้องการ "หนีโลกความจริง"

 

ในยุคที่โซเชียลมีเดียกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต การสร้างภาพลักษณ์ความมั่งคั่งไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด ตั้งแต่การซื้อของก๊อปแบรนด์เนมไปจนถึงการเช่าฉากเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวเพื่อถ่ายรูป

 

แต่ในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่กำลังใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) สร้างภาพลักษณ์ของตัวเองในเวอร์ชันที่ "เฉพาะตัว" ยิ่งขึ้น 

 

กล่าวคือการสร้างภาพถ่ายของตนเองที่กำลังใช้ชีวิตอย่างหรูหราสุขสบาย ไม่ใช่เพียงเพื่อสร้างกระแสหรือเรียกยอดไลก์

 

แต่เป็น "การหลีกหนีจากความเป็นจริง" (escapism) หรือกระทั่งเป็นความพยายามในการ "ดึงดูด" (manifest) ชีวิตที่พวกเขาใฝ่ฝัน

 

ธุรกิจใหม่มาแรง "แอปฯ AI เที่ยวทิพย์" เจาะตลาดคนอยากมีชีวิตหรู

 

ปรากฏการณ์ "หนีความจริง" สู่ "ชีวิตหรูด้วย AI"

 

ทิม วิจายา (Tim Wijaya) นักพัฒนาแอปชาวอินโดนีเซีย เขาโพสต์เล่าผ่านแพลตฟอร์ม X โดยระบุว่าได้ไปเป็นที่ปรึกษาให้ OpenAI เมื่อต้นปี เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้ ChatGPT ของคนในประเทศ และสิ่งที่เขาพบก็น่าทึ่งมาก

 

วิจายาเจอกลุ่ม Facebook หลายกลุ่ม บางกลุ่มมีสมาชิกทะลุ 30,000 คน ในกลุ่มนั้นเต็มไปด้วยภาพที่ AI สร้างขึ้น

 

ซึ่งเป็นภาพของสมาชิกกลุ่มเองกำลังใช้ชีวิตหรูหรา ตั้งแต่ยืนโพสท่าคู่กับรถลัมโบร์กินี ไปจนถึงเดินชอปปิงในร้าน Gucci

 

ธุรกิจใหม่มาแรง "แอปฯ AI เที่ยวทิพย์" เจาะตลาดคนอยากมีชีวิตหรู

 

"ผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางที่อาศัยในเมืองรอง มีรายได้ต่ำกว่า 400 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน (ราว 13,000 บาท)" วิจายาเขียน

 

 "มันเป็นเรื่องที่ทั้งน่าเศร้าและน่าทึ่งในเวลาเดียวกัน ที่การใช้ AI ได้กลายเป็นรูปแบบหนึ่งของการหลีกหนีจากความเป็นจริง ช่วยให้ผู้คนได้สัมผัสกับชีวิตที่พวกเขาอาจไม่มีวันได้สัมผัสจริงๆ"

 

 

ธุรกิจใหม่มาแรง "แอปฯ AI เที่ยวทิพย์" เจาะตลาดคนอยากมีชีวิตหรู

 

สู่ธุรกิจ "สายมู" ผ่านแอป

 

เทรนด์นี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่การหลบหนีความจริง (Escapism) เท่านั้น แต่ยังถูกนำไปผนวกรวมเข้ากับกระแส "การดึงดูด" หรือ "Manifestation" หรือการใช้พลังความคิดดึงดูดสิ่งที่ต้องการ

 

และดูเหมือนว่า เทคโนโลยี AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเทรนด์นี้อย่างเต็มตัว

 

เราจะเห็นปรากฏการณ์นี้ได้จากหลายที่ ตัวอย่างหนึ่งคือโปรเจกต์ส่วนตัวของ โลรองต์ เดล เรย์ (Laurent Del Rey) นักออกแบบผลิตภัณฑ์จาก Meta

 

ในโครงการที่ชื่อ "Endless Summer" ซึ่งเขาอธิบายว่ามันคือแอปโซเชียลมีเดีย "สำหรับคนที่กำลังหมดไฟ และอยาก 'มู' ให้ได้ชีวิตดีๆ สบายๆ ด้วยภาพพักร้อนปลอมๆ ของผู้ใช้เอง"

 

 

ในทำนองเดียวกัน หากเราไปดูบน App Store และ Play Store ก็จะพบว่ามีแอปสาย "Manifest" ที่ใช้ AI ผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ดเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็น

 

  • Manifest AI Coach: Dreams Made: ที่อ้างว่าจะใช้ AI ช่วยสร้าง "ภาพพื้นหลังแห่งวิสัยทัศน์" (Vision Board) เพื่อช่วยให้ผู้ใช้จินตนาการและดึงดูดเป้าหมายได้ง่ายขึ้น

 

  • Manifestar AI และ ManifestMe: ที่โฆษณาว่าสามารถ "สร้างภาพที่สอดคล้องกับเป้าหมายและพลังงานการดึงดูด" ของแต่ละคน

 

  • Manifest AI: Bye Broke Brain: แอปนี้ถึงกับสัญญาว่าจะช่วย "ฟื้นฟูสมองในไม่กี่วินาที"

 

ขายฝัน หรือแค่ขายแอป?

 

เมื่อลองดาวน์โหลดมาใช้จริง แอป "Manifest" ส่วนใหญ่กลับทำไม่ได้อย่างที่โฆษณา ผู้สื่อข่าวที่ทดลองโหลดแอปเหล่านี้หลายตัว

 

พบว่าสิ่งที่เจอมีแค่ข้อความให้กำลังใจ (Affirmations) ซ้ำๆ กับภาพ AI แปลกๆ รูปเทพธิดา รูปแสงอาทิตย์ หรือรูปเกลียวดีเอ็นเอ ที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับผู้ใช้เลย

 

ทว่า "Endless Summer" กลับทำได้จริงตามที่บอก แอปให้เราถ่ายรูปหน้าตัวเอง 3 รูป เพื่อใช้เป็นต้นแบบสร้าง "ภาพเที่ยวทิพย์" 

 

ผลที่ได้คือ ภาพของผู้ทดสอบไปโผล่ที่โตเกียว, ในร้านขายของชำที่นิวยอร์ก (มีตัวหนังสือบนกล่องเละๆ ตามสไตล์ AI) และกำลังนั่งดินเนอร์หรูในริโอเดอจาเนโร "แม้หน้าจะไม่เหมือนเป๊ะ แต่ก็ดูดีมาก" 

 

คำถามคือ แล้วผู้ใช้รู้สึกดีขึ้นจริงหรือไม่ที่เห็น "ร่างอวตาร" ของตัวเองไปเที่ยวสุขสบาย?

 

"ก็ไม่เชิง อาจเพราะภาพมันดู 'AI' จนตะโกนออกมาว่าปลอม หรืออาจเพราะชีวิตจริงฉันก็ไม่ได้ขาดแคลนอะไรขนาดนั้น อย่างน้อยฉันอยู่นิวยอร์ก อยากไปร้านชำเมื่อไหร่ก็แค่เดินไป" หนึ่งในผู้ร่วมทดสอบโครงการให้ความเห็น

 

ธุรกิจใหม่มาแรง "แอปฯ AI เที่ยวทิพย์" เจาะตลาดคนอยากมีชีวิตหรู

 

โมเดลธุรกิจ เมื่อ "ความฝัน" มีราคาที่ต้องจ่าย

 

แน่นอนว่าของฟรีไม่มีในโลก พอสร้างภาพครบ 3 รูป "โควต้าฟรีก็หมด" แอปก็ขึ้นข้อความชวนให้ "ไปต่อ" และ "ให้ Endless Summer ดำเนินต่อไป" โดยเสนอราคาแพ็คเกจ ดังนี้

 

  • 3.99 ดอลลาร์ (ราว 130 บาท) ได้ 30 ภาพ
  • 17.99 ดอลลาร์ (ราว 600 บาท) ได้ 150 ภาพ
  • 34.99 ดอลลาร์ (ราว 1,100 บาท) ได้ 300 ภาพ

 

ผู้ทดสอบโครงการ Endless Summer  ทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจว่า "ในราคานี้ ฉันสามารถจ่ายค่าดินเนอร์จริงๆ ได้มื้อหนึ่ง (แม้ว่าอาจจะไม่ใช่ในนิวยอร์ก) หรืออย่างน้อยก็เป็นเศษเสี้ยวของค่าตั๋วเครื่องบินราคาประหยัดเพื่อไปเที่ยวที่ใหม่จริงๆ ได้เลย"

ข่าวล่าสุด

เปิดแฟ้มครม.9 ธ.ค.68 ลุ้นคนละครึ่งพลัส2 เคลียร์โครงการงบค้างท่อ