AI ช่วยฟื้นฟูงานศิลปะเก่าแก่จากหลายเดือนในไม่กี่ชั่วโมง
เทคโนโลยี Kachkine ใช้ AI สแกนและสร้างหน้ากากฟิล์มบาง ฟื้นฟูภาพวาดโดยไม่แตะต้องต้นฉบับ ย่นเวลาซ่อมจากหลายเดือนเหลือเพียงชั่วโมง
งานศิลปะ หรือ ภาพวาดเก่าแก่ เป็นสิ่งที่ต้องได้รับความเสียหายและเสื่อมสลายตามกาลเวลา แน่นอนว่านักศิลปศาสตร์และนักประวัติศาสตร์ไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้น พวกเขาพยายามเต็มที่เพื่อรักษาและบูรณะภาพวาดให้ใกล้เคียงกับของเดิมมากที่สุด เพื่ออนุรักษ์ให้ชนรุ่นหลังได้มีโอกาสได้ชื่นชมผลงานจริง
วันนี้เราจะมาพูดถึง AI ที่ช่วยในการบูรณะฟื้นฟูภาพวาดและงานศิลปะเก่ากันเสียหน่อย
Kachkine ระบบ AI สำหรับฟื้นฟูภาพวาดเก่าแก่
ผลงานนี้เป็นของนักศึกษาจาก Massachusetts Institute of Technology(MIT) กับการพัฒนา Kachkine โมเดล AI สำหรับการฟื้นฟูภาพวาดและงานศิลปะเก่าแก่ให้กลับมาสวยสดงดงาม รักษาสภาพของภาพวาดเก่าแก่ชิ้นนั้นไว้ได้ดังเดิม พร้อมย่นระยะเวลาซ่อมแซมจากที่เคยต้องใช้หลายเดือนเหลือเพียงไม่กี่ชั่วโมง
ในส่วน Kachkine จะเข้ามาช่วยฟื้นฟูตัวศิลปวัตถุเหล่านั้นจริงๆ โดยเริ่มจากการเลือกภาพวาดที่ต้องการนำมาบูรณะ จากนั้นทำความสะอาดชั้นสีที่เคยถูกทาทับจากการซ่อมแซมครั้งก่อนๆ เพื่อเผยให้เห็นชั้นสีดั้งเดิมที่ถูกทาเอาไว้แต่ต้น AI จะทำการแสกนภาพด้วยความละเอียดสูง สร้างแบบจำลองทางดิจิทัลเพื่อวิเคราะห์หาส่วนที่ชำรุดเสียหาย
ในขั้นตอนการทดสอบผู้วิจัยได้นำเอาภาพสีน้ำมันจากศตวรรษที่ 15 ของตัวเองมาใช้งาน ผลปรากฏว่าโมเดลตรวจพบ จุดทีต้องซ่อมแซมมากถึง 5,612 แห่ง และต้องใช้ปริมาณสีมากกว่า 57,314 สี ซึ่งแต่เดิมการบูรณะเต็มรูปแบบด้วยงานฝีมือ แม้จะมีทักษะความชำนาญก็ต้องอาศัยระยะเวลาหลายเดือน
แต่สิ่งที่เขาทำคือ นำภาพที่เสร็จสมบูรณ์ในโมเดลมาพิมพ์ลงบนฟิล์มโพลิเมอร์บางเฉียบ จากนั้นจึงนำไปติดลงบนภาพวาดนั้นโดยตรง ตัวฟิล์มมีรายละเอียดคมชัดสูงพร้อมสามารถนำเสนอชิ้นงานออกมาให้มีความสมบูรณ์สูงสุดได้ง่าย ในกรณีที่ต้องการตรวจสอบต้นฉบับก็สามารถลอกออกเพื่อเข้าถึงชิ้นงานออริจินัลได้อย่างราบรื่น
ถือเป็นอีกแนวทางในการใช้ AI ช่วยฟื้นฟูงานศิลปะะเก่าแก่ให้กลับมามีชีวิตในสายตาผู้คนอีกครั้ง
จุดเด่นของ Kachkine ที่เหนือกว่าวิธีการซ่อมแซมและ AI ทั่วไป
แน่นอนเมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการดั้งเดิมแนวทางนี้เหนือกว่าในหลายด้าน เนื่องจากเราไม่จำเป็นต้องเข้าไปแก้ไข ทาทับ หรือแตะต้องเนื้อหาดั้งเดิมใดๆ เพียงนำภาพต้นฉบับแปะทับเป็นฟิล์มซ้อนลงไปโดยตรง โดยเฉลี่ยฟิล์มแต่ละแผ่นมีระยะเวลาในการผลิตราว 3.5 ชั่วโมง จึงช่วยเบาแรงและประหยัดเวลานักประวัติศาสตร์และจิตกรเป็นอย่างมาก
การซ่อมแซมแบบไม่เข้าไปแตะต้องเนื้อหางานต้นฉบับยังช่วยให้การอนุรักษ์เป็นไปได้ง่าย เนื่องจากการซ่อมแซมบางครั้งก็อาจต้องมีการใช้สีทาทับเพิ่มเติม ซึ่งอาจทำให้เกิดการคลาดเคลื่อนทางรายละเอียด หรือการเปลี่ยนแปลงของชิ้นงานบางส่วน ที่ขัดแย้งต่อเจตนาของจิตกรผู้วาดภาพนี้ขึ้นมา อีกทั้งทีทำยังเป็นเพียงการติดฟิล์มทับที่ลอกออกได้ทุกเมื่อ
Kachkine สามารถสแกนหาจุดที่เสียหายได้อย่างละเอียดในเวลาอันสั้น อีกทั้งไฟล์ที่ทำการแสดงและจัดสร้างขึ้นจะถูกบันทึกไว้เป็นเนื้อหาดิจิทัล สะดวกสำหรับการอนุรักษ์และการเก็บรักษาในลำดับต่อไป ช่วยให้สะดวกต่อการอนุรักษ์และบำรุงรักษาสำหรับคนรุ่นหลัง ในกรณีที่ต้องการตรวจสอบรายละเอียดเชิงศิลป์
จริงอยู่เขาไม่ใช่เจ้าแรกที่มีการคิดค้นโมเดล AI สำหรับช่วยสนับสนุนการซ่อมแซมงานศิลปะ แต่โดยมากโมเดลเหล่านั้นทำได้เพียงสแกนแล้วนำมาจัดแสดงเป็นไฟล์ดิจิทัลเท่านั้น แตกต่างจาก Kachkine ที่สามารถปิดทับลงบนชิ้นงานดั้งเดิมได้เลย จึงสามารถจัดแสดงเนื้อหาที่มีความใกล้เคียงกับต้นฉบับมากที่สุด
กระบวนการนี้ไม่เพียงช่วยเบาแรงเจ้าหน้าที่ในพิพิธภัณฑ์ ทั้งในด้านการซ่อมแซมภาพหรือการเก็บรักษาชิ้นงานเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้งานศิลปะที่เสียหายและรอการบูรณะมีโอกาสกลับมาจัดแสดงได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เป็นประโยชน์ทั้งต่อสถานที่จัดแสดงและตัวผู้ชมไปพร้อมกัน
นี่จึงเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเชื่อมโยงศิลปะจากอดีตมาสู่ปัจจุบันและอนาคตอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตามแม้ Kachkine จะมีประสิทธิภาพและความแม่นยำในระดับสูง พร้อมคิดค้นแนวทางแก้ไขมาเป็นอย่างดี แต่ก็อาจนำไปสู่ข้อถกเถียงด้านรายละเอียดเกี่ยวกับสไตล์และเจตนาดั้งเดิมในการนำเสนอชิ้นงานของศิลปินได้เช่นกัน ในขั้นตอนการใช้งานจริงจึงควรปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญเป็นรายกรณี
แต่ Kachkine ก็ถือเป็นก้าวใหญ่ที่จะช่วยฟื้นฟูภาพวาดในอดีตออกมาให้เรารับชมได้อีกมาก
ที่มา
https://www.youtube.com/watch?v=uf1iO_WTkwI
https://news.mit.edu/2025/restoring-damaged-paintings-using-ai-generated-mask-0611
https://techxplore.com/news/2025-06-hours-ai-generated-mask.html


