มิติใหม่แห่งการสอดแนม เมื่อแมลงสาบอาจจะกลายเป็นสายลับ

สำหรับเหล่าคนรักสัตว์หรือผู้เชี่ยวชาญทางการทหาร แนวคิดในการฝึกสัตว์เพื่อนำมาใช้เป็นสายลับไม่ใช่ของใหม่ทั้งยังได้รับการพูดถึงมาหลายครั้ง เช่น แมวสายลับ เหยี่ยวสอดแนม หรือแม้แต่สัตว์น้ำอย่างโลมา ล้วนถูกเสนอให้ใช้งานในฐานะสายลับ เพื่อใช้ในการจารกรรม สอดแนม และยุทธศาสตร์มาแล้วทั้งสิ้น

 

แต่เราจะล้ำไปอีกขั้นเมื่อจากนี้ แม้แต่แมลงสาบก็อาจสามารถใช้ในภารกิจสายลับได้

 

 

แมลงสาบไซบอร์ก สัตว์สายลับหน้าใหม่

 

ผลงานนี้เป็นของบริษัท SWARM Biotactics สตาร์ทอัพสัญชาติเยอรมนี กับการพัฒนาเทคโนโลยีเปลี่ยนแมลงสาบที่เราเห็นอยู่ทุกวันให้กลายเป็นไซบอร์กควบคุมผ่าน AI เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานภายใต้สภาวะความเสี่ยงสูง ที่อาจเป็นอันตรายและสลับซับซ้อนจนยากต่อการส่งเครื่องจักรเข้าไปได้

 

 โดยพื้นฐานแมลงสาบที่ถูกนำมาใช้ในภารกิจเป็นแมลงสาบที่หาได้ทั่วไป แต่ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์รูปทรงกระเป๋าเป้ให้แต่ละตัวทำการแบกไว้ ทำหน้าที่รับ เก็บ และส่งข้อมูลกลับไปหาต้นทาง เพื่อให้แมลงสาบที่ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์ สามารถเคลื่อนไหวและตรวจสอบวัตถุได้ตามที่กำหนด

 

กระเป๋าเป้ที่ติดตั้งบนแมลงสาบแต่ละตัวประกอบด้วยอุปกรณ์หลากหลาย ตั้งแต่กล้องขนาดจิ๋ว เซ็นเซอร์ตรวจวัตถุ ระบบควบคุมอัจฉริยะ พร้อมเซ็นเซอร์อื่นๆ และระบบ AI ผู้ใช้งานจะทำการบังคับแมลงสาบเหล่านี้โดยอาศัยการส่งผ่านสัญญาณไฟฟ้า เพื่อให้สามารถควบคุมสั่งการได้จากระยะไกล

 

จากโครงการที่วางแผนไว้ข้อมูลที่แมลงสาบไซบอร์กจะสามารถเก็บรวบรวมมาได้คือ ภาพและตำแหน่งของวัตถุผ่านเซ็นเซอร์ได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากกับการตรวจสอบและเข้าถึงสภาพแวดล้อมที่มีความพิเศษ พร้อมการเข้ารหัสสัญญาณเพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลเกิดการรั่วไหล

 

เมื่อรวมกับการเคลื่อนไหวอันรวดเร็วที่เป็นจุดเด่นดั้งเดิม นี่จึงอาจเป็นพลสอดแนมชั้นนำในอนาคต

 

 

แมลงสาบไซบอร์ก อนาคตที่เราอาจได้เห็นในไม่ช้า

 

ฟังดูเป็นเรื่องตลกแต่อันที่จริงแนวคิดการนำแมลงสาบมาดัดแปลงแล้วควบคุมไม่ใช่ครั้งแรก ที่ผ่านมามีแนวติดพัฒนาแมลงสาบไซบอร์กอยู่ไม่น้อย เช่น แมลงสาบไซบอร์กสำหรับกู้ภัยของสิงค์โปร์, แมลงสาบที่ควบคุมด้วยแสง UV จากญี่ปุ่น ไปจนออสเตรเลียที่แสดงความสนใจพัฒนาแมลงสาบสำหรับการค้นหาผู้รอดชีวิตเช่นกัน

 

สาเหตุที่ทำให้แมลงสาบได้รับความสนใจมาดัดแปลงให้เป็นไซบอร์กมีหลายด้าน ทั้งความอึดทนทายาดเอาตัวรอดได้ในทุกสภาวะแม้จะเป็นสภาพแวดล้อมอันตราย เคลื่อนไหวคล่องแคล่วรวดเร็วทั้งในการวิ่งและบิน ขนาดเล็กซอกซอนลงไปในช่องว่างที่มนุษย์หรือสัตว์อื่นไม่สามารถผ่านได้ง่าย จึงได้รับความสนใจในการค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากอาคาร

 

อันดับถัดมาคือระบบประสาทและสัญชาตญาณ แมลงสาบมีระบบประสาทรองรับการควบคุมทิศทางที่ยอดเยี่ยม โดดเด่นยิ่งกว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบางชนิดโดยไม่ต้องฝึกสอน ควบคุมง่ายผ่านทางหนวดและขา อีกทั้งยังมีสัญชาตญาณเอาตัวรอดและเคลื่อนไหวเป็นกลุ่ม จึงสามารถเข้าสู่พื้นที่ซับซ้อนและประสานงานกันได้ดี

 

จริงอยู่ปัจจุบันเทคโนโลยีหุ่นยนต์ได้รับการพัฒนาให้ทันสมัยขึ้นเรื่อยๆ สามารถเคลื่อนไหวและแสดงพฤติกรรมที่มีความซับซ้อนได้ดี แต่หุ่นยนต์เหล่านั้นใช้ต้นทุนการพัฒนาสูง มีโอกาสเกิดการขัดข้อง และอาศัยความรู้ทางวิศวกรรมสูง ในขณะที่กลไกการทำงานและผลิตแมลงสาบไซบอร์กนั้นง่ายและทำได้สะดวกกว่า

 

สำหรับการนำมาใช้ด้านการทหารฟังดูเป็นเรื่องตลก แต่หากทำได้จริงจะเป็นสายลับสมบูรณ์แบบที่กำจัดได้ยาก เพราะสัญชาตญาณของคนเรามักเคยชินและหลีกเลี่ยงแมลงสาบตามธรรมชาติ ยากจะรู้ได้ว่าที่โผล่มาเป็นแมลงสาบทั่วไปหรือไซบอร์ก เมื่อรวมกับต้นทุนการผลิตที่ถูกกว่าหุ่นยนต์และสัตว์ชนิดอื่นมาก

 

ในทางหนึ่งแมลงสาบไซบอร์กจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับทั้งการช่วยเหลือและแทรกซึมได้เช่นกัน

 

 

 

 

อย่างไรก็ตามโครงการทั้งหมดยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นและทดสอบในห้องทดลอง ยังต้องได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมก่อนใช้งานจริง อีกทั้งยังมีประเด็นให้ต้องพูดถึงอีกมาก ทั้งในด้านความปลอดภัย การทารุณสัตว์ ประเด็นด้านจริยธรรม หรือแม้แต่ปัญหาด้านความเป็นส่วนตัวที่ต้องถกเถียงกันต่อไป

 

แต่จากแนวโน้มที่ทั่วโลกให้ความสนใจนี่จึงอาจเป็นโครงการที่เราอาจได้เห็นจริงในสักวัน

 

 

 ที่มา

 

https://www.reuters.com/business/aerospace-defense/spy-cockroaches-ai-robots-germany-plots-future-warfare-2025-07-23/

 

https://interestingengineering.com/innovation/live-cockroaches-turned-into-swarm-robots

 

https://techxplore.com/news/2025-07-scientists-ai-powered-robot-cyborg.html