posttoday

TikTok เปิดตัว 'AI Alive' ฟีเจอร์ใหม่ เปลี่ยนภาพนิ่ง ให้เป็นวิดีโอ

14 พฤษภาคม 2568

TikTok ปล่อยฟีเจอร์เด็ด ตอกย้ำทิศทางเทคโนโลยี ให้ผู้ใช้เปลี่ยนภาพถ่ายนิ่งๆ ให้กลายเป็นวิดีโอได้ง่ายๆ ด้วย 'AI Alive'

การแข่งขันด้าน AI ในโลกโซเชียลมีเดียเข้มข้นขึ้นทุกวัน ล่าสุดถึงคิว TikTok ที่ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ "TikTok AI Alive" ซึ่งเป็นความสามารถใหม่ที่น่าจับตา และถือเป็นฟีเจอร์ AI แรกของแพลตฟอร์มที่เน้นการแปลงรูปภาพให้กลายเป็นวิดีโอ

 

ความพิเศษของ 'AI Alive' คือการเปลี่ยนภาพถ่ายนิ่งๆ ธรรมดา ให้มีชีวิตชีวาขึ้นมาในรูปแบบวิดีโอสั้นๆ บน TikTok Stories ได้อย่างง่ายดาย ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานบน TikTok Stories โดยเฉพาะ

 

เข้าถึงได้ผ่านกล้อง Story เท่านั้น และอาศัยขุมพลัง AI ในการวิเคราะห์ภาพต้นฉบับ เพื่อเพิ่ม "การเคลื่อนไหว เอฟเฟกต์บรรยากาศ และเอฟเฟกต์สร้างสรรค์" ให้ภาพนิ่งดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาในรูปแบบวิดีโอ

 

ลองนึกภาพถ่ายวิวทิวทัศน์ที่มีท้องฟ้าและเมฆนิ่งๆ 'AI Alive' สามารถเปลี่ยนให้กลายเป็นวิดีโอที่ท้องฟ้าค่อยๆ เปลี่ยนสี เมฆลอยเอื่อยๆ พร้อมเสียงคลื่นซัดสาด

 

หรือแม้แต่ภาพเซลฟี่กลุ่มที่ AI สามารถเพิ่มการเคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเน้นท่าทางและสีหน้าของผู้คนในภาพ ให้ดูมีมิติและน่าสนใจยิ่งขึ้น

 

TikTok เปิดตัว 'AI Alive' ฟีเจอร์ใหม่ เปลี่ยนภาพนิ่ง ให้เป็นวิดีโอ

 

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ของ TikTok ถือเป็นการ "ต่อยอด" จากฟีเจอร์ AI สร้างภาพจากข้อความ (Text-to-Image AI Generator) ที่ TikTok เคยเปิดตัวไปก่อนหน้า

 

แม้ว่าคู่แข่งในตลาดอย่าง Instagram และ Snapchat จะมีฟีเจอร์ Text-to-Image แล้วก็ตาม แต่ TikTok ได้ "ยกระดับ" ขึ้นไปอีกขั้นด้วยการนำเสนอความสามารถในการสร้างวิดีโอจากภาพนิ่ง 

 

ซึ่งนับเป็นจุดที่น่าจับตาใน "สมรภูมิ" ของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่นำ AI มาใช้สร้างสรรค์เนื้อหา 

 

อย่างไรก็ตาม Snapchat เองก็เคยส่งสัญญาณว่าจะเพิ่มฟีเจอร์ที่คล้ายคลึงกันนี้ในอนาคตอันใกล้

 

ท่ามกลางกระแสการนำ AI มาใช้สร้างสรรค์เนื้อหา "ความปลอดภัยและความโปร่งใส" ยังเป็นโจทย์สำคัญที่ TikTok ตระหนักดี

 

แพลตฟอร์มยืนยันว่า วิดีโอที่สร้างด้วย 'AI Alive' จะมีป้ายกำกับที่มองเห็นได้ชัดเจน เพื่อให้ผู้ใช้งานรับรู้ว่าเป็นเนื้อหาที่สร้างโดย AI

 

TikTok เปิดตัว 'AI Alive' ฟีเจอร์ใหม่ เปลี่ยนภาพนิ่ง ให้เป็นวิดีโอ

 

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการฝังข้อมูลเมตาแบบ C2PA ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ช่วยให้สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของเนื้อหา และระบุได้ว่าถูกสร้างขึ้นด้วย AI แม้จะถูกดาวน์โหลดหรือแชร์ออกไปภายนอก TikTok ก็ตาม

 

TikTok ชี้แจงเพิ่มเติมในบล็อกโพสต์ว่า "ทุกฟีเจอร์ที่ใช้ AI จะต้องผ่านการตรวจสอบด้านความเชื่อถือและความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการสร้างเนื้อหาที่ละเมิดนโยบาย"

 

ระบบ Moderation ของ TikTok จะตรวจสอบทั้งภาพต้นฉบับ คำสั่งที่ใช้สร้าง รวมถึงวิดีโอที่ได้จาก 'AI Alive' ก่อนแสดงผลให้ผู้สร้างเห็น

 

นอกจากนี้ ผู้ใช้งานทั่วไปยังสามารถรายงานวิดีโอต้องสงสัยได้ และแพลตฟอร์มจะมีการตรวจสอบขั้นสุดท้ายอีกครั้งเมื่อเนื้อหานั้นถูกเผยแพร่

 

สำหรับผู้ที่สนใจใช้งาน การสร้างวิดีโอด้วย 'AI Alive' ทำได้ง่ายดาย เพียงเปิดกล้อง Story แตะไอคอนเครื่องหมายบวกสีน้ำเงินบนหน้า Inbox หรือ Profile

 

เลือกภาพจากอัลบั้ม Story จากนั้นจะเห็นไอคอน 'AI Alive' ปรากฏอยู่บนแถบเครื่องมือด้านขวาบนหน้าแก้ไขภาพถ่าย พร้อมให้คุณเริ่มสร้างสรรค์คอนเทนต์วิดีโอรูปแบบใหม่ได้ทันที

 

ข่าวล่าสุด

กองทัพไทย ยืนยันทุกเหล่าทัพ ทุกเป้าหมายที่โจมตีล้วนเป็นเป้าหมายทางทหาร