posttoday

DeepSeek โมเดล AI จากจีน ที่กำลังสร้างคลื่นใต้น้ำในวงการเทค

28 มกราคม 2568

หลัง DeepSeek กลายเป็นแอปฯ ฟรีที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดในสหรัฐอเมริกาบน iOS แซงหน้า ChatGPT ทำให้โมเดล AI สัญชาติจีนนี้ ถูกจับตามองจากทั่วโลก ว่ากำลังจะสร้างความเปลี่ยนแปลงในวงการเทคโนโลยีอีกครั้ง

DeepSeek เริ่มต้น ด้วยการเปิดตัว DeepSeek Coder ซึ่งเป็นโมเดล Open-Source ที่ออกแบบมาสำหรับงานเขียนโค้ดโดยเฉพาะ ในเดือนพฤศจิกายน 2023

ต่อมาในปีเดียวกันได้เปิดตัว DeepSeek LLM โมเดลที่มีเป้าหมายเพื่อแข่งขันกับโมเดลภาษาขนาดใหญ่อื่น ๆ

ในเดือนพฤษภาคม 2024 มีการเปิดตัว DeepSeek-V2 ที่มีประสิทธิภาพสูงและต้นทุนต่ำ จุดชนวนให้เกิดสงครามราคาในตลาดโมเดล AI ของจีน เนื่องจาก DeepSeek สามารถแก้ปัญหาการเขียนโค้ดที่ซับซ้อน และเปิดให้ใช้งานผ่าน API ราคาประหยัด   บีบบังคับให้บริษัทยักษ์ใหญ่ของจีน เช่น ByteDance, Tencent, Baidu และ Alibaba ลดราคาของโมเดล AI เพื่อให้สามารถแข่งขันได้

โมเดลล่าสุดคือ DeepSeek-V3 และ DeepSeek-R1  ซึ่งเปิดตัวในเดือนมกราคม 2025 เน้นด้านงานที่เกี่ยวข้องกับการให้เหตุผล หรือ Reasoning Tasks

ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับบริษัท

ผู้ก่อตั้ง: เหลียง เหวินเฟิง

กำเนิด: เมืองจ้านเจียง มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน

ความเชี่ยวชาญ: ด้านวิศวกรรมสารสนเทศและอิเล็กทรอนิกส์

วิสัยทัศน์: ต้องการสร้าง AI ที่เสถียรและเป็นผู้นำระดับโลก

DeepSeek โมเดล AI จากจีน ที่กำลังสร้างคลื่นใต้น้ำในวงการเทค

 

การก่อตั้งและพัฒนา

DeepSeek ก่อตั้งขึ้นโดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนา AI ที่สามารถแข่งขันกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกได้ โดยเน้นที่การพัฒนาเทคโนโลยีโอเพนซอร์ส ซึ่งทำให้ต้นทุนในการพัฒนานั้นต่ำกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ DeepSeek อ้างว่า โมเดลที่ออกแบบมามีต้นทุนที่ราว 5.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และหากเทียบกับเจ้าอื่นที่ใช้หลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ ต้นทุนของ DeepSeek จึงต่ำมาก

 

คุณสมบัติเด่นของ DeepSeek

ความสามารถในการเรียนรู้: DeepSeek สามารถเรียนรู้และปรับตัวได้อย่างรวดเร็วจากข้อมูลจำนวนมาก ทำให้สามารถตอบสนองต่อคำถามและคำขอได้หลากหลาย

ภาษาที่รองรับ: รองรับภาษาจีนได้อย่างดีเยี่ยม และทำงานได้ดีด้วยภาษาอังกฤษ ส่วนภาษาอื่นๆ รวมถึงภาษาไทยกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา

การประยุกต์ใช้: สามารถนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การบริการลูกค้า การตลาด การศึกษา และการวิจัย

 

วิธีการใช้งาน

การใช้งาน DeepSeek นั้นค่อนข้างง่าย สามารถทำได้ผ่านทางอินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน โดยผู้ใช้เพียงแค่พิมพ์คำถามหรือคำขอลงไปในช่องข้อความ ระบบก็จะประมวลผลและให้คำตอบกลับมา

DeepSeek โมเดล AI จากจีน ที่กำลังสร้างคลื่นใต้น้ำในวงการเทค

 

ข้อจำกัด

ปัจจุบัน ยังจำกัดอยู่เฉพาะภาษาจีนและภาษาอังกฤษเท่านั้น นอกจากนี้ นักวิเคราะห์จากชาติตะวันตก มองว่า DeepSeek อาจไม่เหมาะสำหรับการประมวลผลข้อมูลที่เป็นความลับ เนื่องจากข้อมูลเหล่านี้อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เพราะเป็นโมเดลปัญญาประดิษฐ์ที่ได้รับการสนับสนุนจากทางการจีน

ด้านความถูกต้องของข้อมูล แม้ว่า DeepSeek จะมีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่ข้อมูลที่ได้จะไม่ถูกต้องแม่นยำเสมอไป เนื่องจาก

การเข้าใจบริบท: DeepSeek อาจยังไม่สามารถเข้าใจบริบทของการสนทนาได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้คำตอบที่ได้อาจไม่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้เสมอไป

 

ผลกระทบที่เกิดขึ้น

การแข่งขันในตลาด AI: DeepSeek ได้เข้ามาเขย่าวงการ AI ทั่วโลก ทำให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น

โอกาสทางธุรกิจ: DeepSeek เปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับบริษัทต่างๆ ที่ต้องการนำ AI มาประยุกต์ใช้

ความกังวลด้านความปลอดภัย: การพัฒนา AI ที่มีความสามารถสูงขึ้นมาพร้อมกับความกังวลด้านความปลอดภัยและจริยธรรม

 

ดังนั้น แม้ DeepSeek เป็นโมเดล AI ที่น่าจับตามองและมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงโลก ด้วยความสามารถที่หลากหลายและต้นทุนที่ต่ำ ทำให้ DeepSeek กลายเป็นคู่แข่งที่สำคัญในตลาด AI อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การนำ DeepSeek มาใช้งานก็มีความเสี่ยงและข้อจำกัดที่ต้องพิจารณา โดยควรติดตามความคืบหน้าของ DeepSeek อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินศักยภาพและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น  

ข่าวล่าสุด

Samsung ผนึก Google Gemini เผยโฉมครัว AI สุดล้ำที่ CES 2026