posttoday

"นครเมลเบิร์น" รั้งแชมป์เมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก 7 ปีซ้อน

19 สิงหาคม 2560

เปิดโผแชมป์เมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก "เมลเบิร์น" ครองแชมป์ 7 ปีซ้อน จากการสำรวจ 140 เมืองทั่วโลก

เปิดผลแชมป์เมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก "เมลเบิร์น" ครองแชมป์ 7 ปีซ้อน จากการสำรวจ 140 เมืองทั่วโลก

ดิอีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต (The Economist Intelligence Unit) หน่วยงานวิเคราะห์เศรษฐกิจของนิตยสารดิ อีโคโนมิสต์ (The Economist) รายงานว่า - นครเมลเบิร์นของออสเตรเลียถูกจัดให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก เป็นปีที่ 7 แม้เผชิญกับปัญหาคนไรบ้านที่เพิ่มขึ้น

นครเมลเบิร์นซึ่งเป็นเมืองในรัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย ถูกจัดอันอับเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก (Most Liveable Cities) จากการสำรวจเมืองต่างๆทั่วโลก 140 แห่ง โดยได้รับคะแนนสูงถึง 97.5 จาก 100 คะแนน ตามด้วยเมืองหลวงของออสเตรียอย่างกรุงเวียนนาในอันดับที่ 2 และแวนคูเวอร์กับโตรอนโตในแคนาดา เป็นอันดับที่ 3 และ 4 ตามลำดับ ขณะที่เมืองแคลการีในแคนาดาและเมืองแอดิเลดในออสเตรเลียครองอันดับ 5 ร่วมกัน ในคะแนน 96.6

ขณะที่เหตุการณ์ความไม่สงบส่งผลต่อตะแนนความน่าอยู่ของเมืองต่างๆ ทั่วโลก เมืองเมลเบิร์นกลับมีอัตราการเกิดอาชญากรรมค่อนข้างต่ำและมีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งทางรัฐบาลท้องถิ่นในรัฐวิกตอเรียกล่าวว่ามีการจ้างงานใหม่ถึง 100,000 ตำแหน่งในรัฐเมื่อปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เมลเบิร์นได้เผชิญกับปัญหาคนไร้บ้านที่เพิ่มมากขึ้น โดยมีสาเหตุจากราคาอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงค่าเช่าที่ค่อนข้างสูงทำให้คนที่อาศัยอยู่ตามชานเมืองไม่สามารถเข้าพักอาศัยได้

การจัดอันดับของดิอิโคโนมิสต์ ได้ทำการจัดอันดับเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลกโดยสำรวจเมืองใหญ่ 140 เมืองทั่วโลก จัดจำแนกตามหัวข้อกว้างๆ 5 ด้าน ได้แก่ ความมั่นคง, การให้บริการด้านสุขภาพ, วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม, การศึกษา และโครงสร้างพื้นฐาน อย่างไรก็ตาม ไม่มีเมืองใดจากทวีปเอเชียติด 10 อันดับเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก

การสำรวจของอินเทลลิเจนซ์ยูนิตพบว่า เมืองขนาดกลางในประเทศที่มีฐานะร่ำรวยมักมีอันดับที่ดีเนื่องจากเมืองเหล่านี้มีความพร้อมด้านกิจกรรมสันทนาการที่ไม่นำไปสู่อาชญากรรมรุนแรง หรือต้องแบกภาระด้านโครงสร้างพื้นฐาน

ด้วยเหตุผลข้างต้นจึงทำให้มหานครอย่างนิวยอร์ก, ลอนดอน, ปารีส และโตเกียว ซึ่งมีกิจกรรมสันทนาการมากมาย แต่เสียคะแนนเนื่องจากปัญหาอาชญากรรมและระบบขนส่งมวลชนที่หนาแน่น

ทั้งนี้เมืองที่รั้งท้ายการจัดอันดับได้แก่ เมืองที่ติด 5 อันดับรั้งท้ายจากล่างสุด ได้แก่ กรุงดามัสกัสของซีเรีย, เมืองลากอสของไนจีเรีย, กรุงตริโปลีของลิเบีย, กรุงธากาของบังกลาเทศ

ภาพ : RealEstate.com.au