เกิดระเบิดรอบ2ที่โรงไฟฟ้าฟูกุชิมา
เกิดระเบิดครั้งที่ 2 ในโรงไฟฟ้าฟูกุชิมา บริเวณเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข 3 ด้านรัฐบาลญี่ปุ่นเผยไม่พบความเสียหายต่อคอนเทนเนอร์เหล็กครอบเตาปฏิกรณ์ฯและท่อบรรจุสารกัมมันตภาพรังสี
เกิดระเบิดครั้งที่ 2 ในโรงไฟฟ้าฟูกุชิมา บริเวณเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข 3 ด้านรัฐบาลญี่ปุ่นเผยไม่พบความเสียหายต่อคอนเทนเนอร์เหล็กครอบเตาปฏิกรณ์ฯและท่อบรรจุสารกัมมันตภาพรังสี
สำนักข่าวเอ็นเอชเคของญี่ปุ่นรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 ตามเวลาท้องถิ่น หรือในเวลา 9.08น. ตามเวลาประเทศไทย ได้เกิดเหตุระเบิดที่เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข 3 ของ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ฟูกุชิมา ไดอิชิ โดยมีควันสีขาวฟุ้งกระจาย ขึ้นมาจากอาคารเตาปฏิกรณ์ดังกล่าว
ทั้งนี้สาเหตุการระเบิดเป็นผลมาจากการสั่งสมของก๊าซไฮโดรเจนที่เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากการเติมน้ำเข้าไปหล่อเลี้ยงแท่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์เพื่อระบายความร้อน หลังจากระบบความร้อนไม่ทำงานเนื่องจากระบบปิดอัตโนมัติหลังแผ่นดินไหว และก๊าซไฮโดรเจนทำปฏิกิริยากับก๊าซออกซิเจนจนเกิดการระเบิด
ด้าน นายยูกิโอะ เอดาโนะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และโฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น แถลงว่า ประชาชนที่อยู่ในรัศมี 20 กิโลเมตรรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จังหวัดฟุกุชิมะได้รับคำสั่งให้อยู่แต่ในบ้านเรือนเพื่อความปลอดภัย โดยเหตุระเบิดดังกล่าวได้ทำให้อาคารคอนกรีตรอบนอกของเตาปฏิกรณ์ฯพังทลายลง แต่ตัวคอนเทนเนอร์เหล็กที่ครบอเตาปฏิกรณ์ไม่ได้รับความเสียหาย รวมทั้ง ท่อบรรจุสารกัมมันตภาพรังสีก็ไม่ได้รับผลกระทบเช่นกัน
อย่างไรก็ตามมีรายงานเบื้องต้นว่ามีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว 6 ราย ขณะเดียวกันผู้ว่าการกรุงโตเกียว ชินทาโร อิชิฮารา ได้สั่งให้มีการตรวจวัดระดับกัมมันตภาพรังสีในกรุงโตเกียวแล้ว
สำนักงานความปลอดภัยนิวเคลียร์ของญี่ปุ่นคาดว่า เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดจาก ก๊าซไฮโดรเจน ที่ใช้ในระบบหล่อเย็นและมีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะมีสารกัมมันตรังสีรั่วไหล
ขณะที่ บริษัทโตเกียว อิเล็กทริก พาวเวอร์ เจ้าของโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ในจังหวัดฟุกุชิมา แจ้งต่อรัฐบาลว่า ระดับการรั่วไหวของสารกัมมันตรังสีที่โรงไฟฟ้าหมายเลข 1 ในวันนี้ (14มี.ค.) เพิ่มสูงขึ้นเกินกว่าระดับปลอดภัยอีกครั้งโดยวัดได้ 751 ไมโครซีเวิร์ตต่อชั่วโมงเมื่อเวลา 2.20 น.ตามเวลาท้องถิ่น และวัดได้ 650 ไมโครซีเวิร์ตต่อชั่วโมงที่โรงไฟฟ้าหมายเลข 2 ในเวลา 2.40 น.ซึ่งเกินกว่าระดับปลอดภัยที่ 500 ไมโครซีเวิร์ต แต่ระดับสูงสุดที่วัดได้เมื่อวานนี้สูงถึง 1557.5 ไมโครซีเวิร์ต
