วิกฤตคริปโตครั้งนี้ทำนักเทรดจำนวนไม่น้อยเข็ดขยาดกับการลงทุน
"นี่จะเป็นการลงทุนครั้งสุดท้ายของผม" นักลงทุนคริปโตรายหนึ่งกล่าว
รอยเตอร์สรายงานว่าการดิ่งลงของตลาดคริปโตเคอร์เรนซีครั้งล่าสุดนี้กำลังทำให้นักลงทุนหลายคนทั่วโลกเจ็บช้ำและสับสน บางคนถึงขั้นเอ่ยปากว่านี่จะเป็นการลงทุนคริปโตครั้งสุดท้ายในชีวิตของเขาเลยทีเดียว
หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้ว Celsius แพลตฟอร์มรับฝากและกู้ยืมคริปโตเคอร์เรนซีประกาศระงับบริการถอนและโอนคริปโตกับผู้ใช้บริการ 1.7 ล้านคนทั่วโลกเป็นการชั่วคราว โดยอ้างถึงสภาวะตลาดตอนนี้ที่กำลังดิ่งลงอย่างหนัก ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนเทขายจนคริปโตสูญเสียมูลค่าไปหลายร้อยพันล้านเหรียญสหรัฐ
ความเคลื่อนไหวของ Celsius เกิดขึ้นหลังจากการล่มสลายของโทเค็นหลักอย่าง UST และ LUNA เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งทำให้ตลาดคริปโตสั่นสะเทือนภายใต้แรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น ผลักดันให้นักลงทุนหลีกหนีจากหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ รวมถึงคริปโต
เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. Bitcoin คริปโตเบอร์หนึ่งของโลกร่วงต่ำกว่า 20,000 เหรียญสหรัฐเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2020 โดยในปีนี้ร่วงลงมาแล้วถึง 60%
ขณะที่มูลค่าตลาดคริปโตร่วงลงเหลือประมาณ 900,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในเดือนพ.ย. ปีที่แล้ว
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนรายย่อยทั่วโลกต้องเจ็บช้ำและสับสน ขณะที่บางคนกล่าวว่าเขาจะไม่ลงทุนในคริปโตอีกแล้ว
พนักงานไอทีวัย 32 ปีรายหนึ่งจากมุมไบซึ่งไม่ต้องการเปิดเผยชื่อเผยกับรอยเตอร์สว่า เขาทุ่ม 3 ใน 4 ของเงินออมไปลงทุนในคริปโต ซึ่งคิดเป็นเงินหลายร้อยเหรียญสหรัฐ และตอนนี้มูลค่าของมันลดลงไปประมาณ 70%-80%
"นี่จะเป็นการลงทุนครั้งสุดท้ายของผมในคริปโตเคอร์เรนซี"
Jeremy Fong เจ้าหน้าที่การบินจากอังกฤษวัย 29 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ใช้บริการ Celsius เผยว่าเขาน่าจะมีรายได้ประมาณ 100 เหรียญสหรัฐต่อสัปดาห์จากการฝากคริปโตใน Celsius และตอนนี้คริปโตประมาณ 1 ใน 4 ของเขาก็ติดอยู่ใน Celsius
"สัญชาตญาณแรกของผมคือการถอนทุกอย่าง" Fong กล่าวโดยเผยว่าการถือครองคริปโตระยะยาวของเขาลดลงไปประมาณ 30%
Fong ยังกล่าวว่าเขาต้องการให้มีหน่วยงานอิสระที่เข้ามากำกับดูแลตลาดคริปโตเคอร์เรนซี "มันควรจะมีกฎระเบียบเล็กๆ น้อยๆ เพื่อความสมดุล ถ้าคุณไม่ต้องการกฎระเบียบมันก็จะเป็นแบบนี้แหละ"
ขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกกำลังหาวิธีที่จะสามารถปกป้องนักลงทุนและลดความเสี่ยงต่อความมั่นคงทางการเงินในวงกว้าง
แต่สำหรับนักลงทุนบางคนคำเตือนจากหน่วยงานกำกับดูแลเกี่ยวกับความเสี่ยงของการเดิมพันในคริปโตได้กลายเป็นความจริงแล้ว
Halil Ibrahim Gocer วัย 21 ปีจากตุรกีเผยว่าพ่อของเขาทุ่มเงิน 5,000 เหรียญสหรัฐเพื่อลงทุนในคริปโต และตอนนี้มันเหลือเพียง 600 เหรียญสหรัฐเท่านั้น
Alisha Gee วัย 38 ปีจากรัฐเพนซิลวาเนีย สหรัฐอเมริกา เป็นอีกหนึ่งคนที่ได้รับผลกระทบจาก Celsius โดยเธอมีเงินฝากอยู่ในนั้น 30,000 เหรียญสหรัฐ ซึ่งปกติแล้วเธอก็จะได้รับดอกเบี้ย 40-100 เหรียญสหรัฐต่อสัปดาห์
"ฉันเดินไปเดินมาในความมืดตอนตีสอง" Gee เผยความรู้สึกหลังจากที่เธอได้รับแจ้งทางอีเมลจาก Celsius เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าเธอจะไม่สามารถถอนเงินได้
อย่างไรก็ตาม เธอยืนยันว่าจะใช้บริการ Celsius ต่อไปโดยบอกว่าเธอภักดีต่อบริษัทและก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยเจอปัญหามาก่อน
"มันไม่ใช่เรื่องดีที่จะเสียเงิน 30,000 ดอลลาร์ แต่ฉันเชื่อในบริษัท" Gee กล่าว
ด้าน Alex Mashinsky ซีอีโอของ Celsius ทวีตเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนว่าทางบริษัทกำลังทำงานอย่างเต็มที่ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าจะเปิดใช้บริการถอนเงินอีกเมื่อไร แต่ทางบริษัทเน้นย้ำเป้าหมายที่จะรักษาสภาพคล่องและการดำเนินงานของบริษัท
Susannah Streeter นักวิเคราะห์จาก Hargreaves Lansdown มองว่าด้วยเทคโนโลยีและเงินทุนที่มีต้นทุนต่ำทำให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเข้าถึงคริปโตเคอร์เรนซีได้ง่าย ทำให้ตลาดมีความผันผวน
"เรามีเทคโนโลยี สมาร์ทโฟน แอปซื้อขาย ต้นทุนต่ำ และสินทรัพย์ที่มีการเก็งกำไรสูง นั่นเป็นเหตุผลที่คุณได้เห็นการขึ้นๆ ลงๆ ในตลาด" Streeter กล่าว
Photo by REUTERS/Dado Ruvic/Illustration/File Photo