ธนาคารโลกเตือนสงครามยูเครนจุดชนวนภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก
การรุกรานยูเครนของรัสเซียอาจทำให้ทั่วโลกเผชิญเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
เดวิด มัลพาส ประธานธนาคารโลกเตือนว่า สงครามรัสเซียในยูเครนและผลกระทบของสงครามต่อราคาพลังงาน อาหาร และปุ๋ยเคมีอาจทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก
“เมื่อมองที่จีดีพีโลก...ตอนนี้มันยากมากที่จะหลีกเลี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย” มัลพาสเผยโดยไม่ได้ระบุถึงการคาดการณ์ที่เฉพาะเจาะจงและไม่ให้รายละเอียดว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกจะเริ่มขึ้นเมื่อใด “แค่ราคาพลังงานพุ่งขึ้น 2 เท่าตัวก็เพียงพอที่จะทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยแล้ว”
เมื่อเดือนที่แล้วธนาคารโลกได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกสำหรับปีนี้ลงเกือบ 1% จาก 4.1% เหลือ 3.2% อันเนื่องมาจากผลกระทบจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย
มัลพาสเผยในงานอีเว้นต์ที่จัดโดยสภาหอการค้าสหรัฐว่า เศรษฐกิจของเยอรมนีซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกและอันดับ 1 ของยุโรปเติบโตช้าลงเนื่องจากราคาพลังงานสูงขึ้น และว่าการที่รัสเซียตัดการส่งก๊าซไปยังยุโรปทำให้เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัวอย่างมากในภูมิภาค
มัลพาสกล่าวอีกว่า เศรษฐกิจของรัสเซียและยูเครนจะหดตัวอย่างมาก ขณะที่ศรษฐกิจจีนและสหรัฐจะชะลอตัวลง ทว่าประเทศที่กำลังพัฒนาจะได้รับผลกระทบหนักสุด เนื่องจากการขาดแคลนปุ๋ยเคมี อาหาร และพลังงาน
ประธานธนาคารโลกกล่าวถึงจีนว่า การเติบโตที่ชะลอตัวค่อนข้างมากเป็นผลสืบเนื่องจากการระบาดของ Covid-19 ภาวะเงินเฟ้อ และวิกฤตด้านอสังหาริมทรัพย์ที่จีนกำลังเผชิญอยู่ และว่าการล็อกดาวน์ในเมืองใหญ่ๆ ของจีน รวมทั้งในเมืองศูนย์กลางด้านการเงินและการผลิตและการขนส่งทางเรืออย่างเซี่ยงไฮ้ ยังคงส่งผลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
Fortune ระบุว่า สงครามในยูเครน ทำให้วิกฤตราคาพลังงานและอาหารแย่ลง เนื่องจากการส่งออกพลังงานของรัสเซียกลายเป็นจุดที่ตะวันตกใช้คว่ำบาตรรัสเซีย
โดยในอังกฤษราคาพลังงานถีบตัวทุบสถิติ 54% ในเดือน เม.ย. และคาดว่าจะเพิ่มเป็นเกือบ 2 เท่าอีกครั้งในเดือน ต.ค.
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ธนาคารโลกเคยเตือนเกี่ยวกับวิกฤตอาหารโลกว่าอาจนำมาสู่ภัยพิบัติสำหรับมนุษย์ โดยคาดว่าการสะดุดของซัพพลายจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียอาจดันราคาอาหารขึ้นอีก 37%
REUTERS/Yves Herman/File Photo