posttoday

บทวิเคราะห์ รัสเซียเตรียมยึดบริษัทตะวันตกที่จะถอนตัวหนี

26 พฤษภาคม 2565

สำนักข่าว Reuters วิเคราะห์ขอบเขต ผลดีผลเสียของกฎหมายใหม่ของรัสเซียที่พุ่งเป้ามาที่บริษัทสัญชาติตะวันตกโดยเฉพาะ

สำนักข่าว Reuters ระบุว่า รัสเซียกำลังออกกฎหมายใหม่ที่เปิดทางให้เข้าควบคุมธุรกิจในท้องถิ่นของบริษัทตะวันตกที่ตัดสินใจเผ่นออกจากรัสเซียหลังการรุกรานยูเครนของมอสโก เพิ่มความเสี่ยงสำหรับบริษัทข้ามชาติที่พยายามจะถอนตัว

กฎหมายใหม่ซึ่งอาจบังคับใช้ภายในไม่กี่สัปดาห์นี้จะให้อำนาจเด็ดขาดแก่รัสเซียในการเข้าแทรกแซงในกรณีที่เป็นภัยคุดคามต่อการจ้างงานหรืออุตสาหกรรมในประเทศ ส่งผลให้บริษัทตะวันตกปลดเปลื้องตัวเองได้ยากขึ้น นอกจากว่าบริษัทเหล่านี้จะเตรียมพร้อมรับผลกระทบทางการเงินครั้งใหญ่ไว้แล้ว

กฎหมายยึดทรัพย์สินของนักลงทุนตะวันตกเกิดขึ้นหลังจากที่บริษัทตะวันตกพากันเผ่นหนีออกจากรัสเซีย อาทิ สตาร์บัคส์ แม็คโดนัลด์ และเอบี อินเบฟ และกฎหมายนี้ยังเพิ่มแรงกดดันให้กับบรรดาบริษัทที่ยังคงอยู่ในรัสเซีย

มันเกิดขึ้นในขณะที่เศรษฐกิจรัสเซียซึ่งถูกตัดขาดมากขึ้นเนื่องจากการคว่ำบาตรจากตะวันตก เข้าสู่ภาวะถดถอยท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อเป็นตัวเลขสองหลัก

ธนาคาร UniCredit ของอิตาลี ธนาคาร Raiffeisen ของออสเตรีย บริษัทเฟอร์นิเจอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง IKEA เครือร้านอาหารฟาสต์ฟูด Burger King และบริษัทเล็กๆ อีกหลายร้อยบริษัทยังคงมีธุรกิจอยู่ในรัสเซีย ส่วนบริษัทที่พยามยามถอนตัวต้องเผชิญกับกฎหมายที่เข้มงวดนี้

IKEA ซึ่งหยุดให้บริการชั่วคราวทั้งหมดในรัสเซียระบุกำลังติดตามความเป็นไปของสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วน Raiffeisen กำลังประเมินทางเลือกทั้งหมด รวมทั้งการถอนตัวอย่างระวัดระวัง ด้าน UniCredit ปฏิเสธแสดงความคิดเห็น ขณะที่ Burger King ไม่ได้ตอบข้อสอบถามของ Reuters ในทันที

กฎหมายนี้กรุยทางให้รัสเซียแต่งตั้งผู้บริหารดูแลบริษัทต่างๆ ที่เป็นของชาวต่างชาติจากประเทศที่ "ไม่เป็นมิตร" ซึ่งต้องการถอนตัวจากรัสเซีย เนื่องจากความขัดแย้งกับยูเครนทำให้เศรษฐกิจรัสเซียตกต่ำ

มอสโกมักจะเอ่ยถึงประเทศอื่นว่า “ไม่เป็นมิตร” หากประเทศนั้นๆ ออกมาตรการคว่ำบาตรเศรษฐกิจรัสเซีย นั่นหมายความว่า บริษัทใดๆ ก็ตามในสหภาพยุโรปหรือสหรัฐตกอยู่ในความเสี่ยง

คณะกรรมาธิการยุโรปเสนอให้ปรับจุดยืนของตัวเองให้เข้มงวดขึ้นด้วยการประกาศให้การฝ่าฝืนมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียของสหภาพยุโรปเป็นอาชญากรรม ให้อำนาจรัฐบาลสหภาพยุโรปยึดทรัพย์สินของบริษัทและปัจเจกบุคคลที่หลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร

ขณะที่รัฐบาลไบเดนประกาศว่าจะไม่ยืดเวลาการสละสิทธิ์ที่ทำให้รัสเซียสามารถซื้อคืนพันธบัตรจากสหรัฐได้ ซึ่งจะทำให้รัสเซียขยับเข้าใกล้การผิดนัดชำระหนี้

ความเจ็บปวดทางเศรษฐกิจ

การที่บริษัทตะวันตกหนีออกจากรัสเซียสร้างความโกรธเคืองให้กับนักการเมืองรัสเซีย อดีตประธานาธิบดี ดมิทร เมดเวเดฟ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย วิพากษ์วิจารณ์บริษัทตะวันตกที่ถอนตัว และโจมตี “ศัตรูที่พยายามจำกัดการพัฒนาของเราและทำลายชีวิตของเรา”

เซอร์เก ซูชานอฟ ทนายความที่ปรึกษาด้านการบริหารความเสี่ยงและการปฏิบัติตามข้อกำหนดจาก RSP International เผยว่า “รัฐบาลสนใจรักษาการจ้างงานและการจัดเก็บภาษี รัฐบาลจะบังคับใช้กฎเกณฑ์กับบริษัทใหญ่ๆ เป็นลำดับแรก เพื่อหลีกเลี่ยงเจ้าหน้าที่ บริษัทต้องแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้จะทิ้งธุรกิจในรัสเซียโดยไม่ดูดำดูดี”

อูล์ฟ ชไนเดอร์ ที่ปรึกษาที่ทำงานกับบริษัทเยอรมันในรัสเซียและผู้เชี่ยวชาญในภูมิภาคจาก BVMW กลุ่มอุตสาหกรรมขนาดกลางของเยอรมนีอีกคนหนึ่งเผยว่า เขาและคนอื่นๆ กำลังทำงานเกี่ยวกับข้อเสนอเพื่อให้บริษัทต่างชาติสามารถมอบอำนาจการควบคุมให้กับผู้ดูแลผลประโยชน์ที่พวกเขาเลือกเองโดยสมัครใจ ซึ่งนั่นอาจโน้มน้าวให้รัสเซียเชื่อว่าพวกเขามีความรับผิดชอบและในขณะเดียวกันก็ถอยห่างออกมา

ชไนเดอร์เผยว่า “การขายก็เป็นทางเลือกหนึ่ง แต่เงื่อนไขการขายไม่ดี”

ร่างกฎหมายระบุเค้าโครงว่ารัสเซียจะแต่งตั้งผู้บริหารให้กับบริษัทต่างๆ ที่หุ้นอย่างน้อย 25% อยู่ในมือต่างชาติที่ "ไม่เป็นมิตร" ได้อย่างไร รวมทั้งวางหลักเกณฑ์ในการแทรกแซงไว้มากมาย เช่น เมื่อบริษัทมีบทบาทสำคัญในฐานะนายจ้างในท้องถิ่นหรือให้บริการที่สำคัญ และระบุชัดเจนว่ารัฐสามารถให้เหตุผลในการเข้าควบคุมได้หลายประการ

ร่างกฎหมายอ้างถึงตัวอย่างของบริษัทที่ผลิตเครื่องมือแพทย์ แต่ยังระบุรายชื่อภาคส่วนอื่นๆ เช่น การขนส่งและพลังงาน รวมถึงบริษัทใดๆ ที่การปิดกิจการอาจทำให้ราคาสินค้าพุ่งขึ้น

ผู้บริหารที่รัฐแต่งตั้งยังได้รับอนุญาตให้ขายธุรกิจที่ยึดมา ส่วนเจ้าของคนก่อนจะถูกห้ามไม่ให้ทำธุรกิจในรัสเซีย

ศาลหรือกระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจอาจกำหนดให้ผู้บริหาร อาทิ ธนาคาร VEB ของรัสเซียเข้ามารับหน้าที่

ร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านการพิจารณาครั้งแรกจากสภาล่าง หรือสภาดูมาในสัปดาห์นี้ และยังต้องผ่านการพิจารณาอีก 2 ครั้ง รวมทั้งให้สภาสูงพิจารณาก่อนที่ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน จะลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย ซึ่งอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์

ด้านกระทรวงเศรษฐกิจของรัสเซียเผยว่า จะเลือกบริษัทเฉพาะใน 'กรณีจำเป็น' ซึ่งจำเป็นต้องปกป้องการผลิตหรือการจ้างงาน

ทั้งนี้ บริษัทต่างชาติหลายแห่งประกาศปิดร้านค้าและโรงงานในรัสเซียชั่วคราว นับตั้งแต่ปูตินเริ่มสิ่งที่เขาเรียกว่า "ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร" เพื่อทำให้ยูเครนปลอดทหารและปลอดนาซี ซึ่งถูกยูเครนและพันธมิตรมองว่าเป็นข้ออ้างที่ไม่มีมูลเพื่อเปิดฉากสงคราม

“รัสเซียถูกโดดเดี่ยวอยู่แล้วและไม่เป็นที่สนใจของนักลงทุนอีกต่อไป” ไมเคิล โลวี จากสมาคมอุตสาหกรรมออสเตรียเผย “กฎหมายนี้ยิ่งทำให้เรื่องแย่ลงไปอีกเท่านั้น”

Source - ANALYSIS-Russia prepares to seize western firms looking to leave

Sputnik/Ramil Sitdikov/Kremlin via REUTERS