posttoday

เมื่อญี่ปุ่นตั้งตัวเป็นศัตรู รัสเซียจึงไม่มีวันคืนเกาะคูริลให้

26 เมษายน 2565

รัสเซียประกาศชัดจะเข้าไปลงทุนและพัฒนาหมู่เกาะคูริลอย่างเต็มรูปแบบหลังญี่ปุ่นคว่ำบาตรที่บุกยูเครน

1.ญี่ปุ่นกับรัสเซียมีกรณีพิพาทเหนือดินแดนบนหมู่เกาะคูริล หรือในญี่ปุ่นเรียกว่าดินแดนตอนเหนือ เหนือเกาะตอนใต้สุดของหมู่เกาะคูริล 4 เกาะ ได้แก่ เกาะอิตูรุป (ญี่ปุ่นเรียก เอโตโระฟุ) เกาะคูนาชีร์ (ญี่ปุ่นเรียก คุนาชิริ) เกาะชิโกตัน และเกาะฮาโบไม มาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

2.หมู่เกาะคูริลเป็นกลุ่มเกาะที่ทอดตัวระหว่างเกาะฮอกไกโดของญี่ปุ่นกับคาบสมุทรคัมชัตคาของรัสเซีย หมู่เกาะนี้แยกทะเลโอคอตสคก์จากมหาสมุทรแปซิฟิก เกาะที่พิพาท 4 เกาะรวมถึงเกาะอื่นๆ ของหมู่เกาะคูริลถูกสหภาพโซเวียตผนวกหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ญี่ปุ่นแพ้สงคราม ด้วยความเข้าใจผิดของ โจเซฟ สตาลิน ผู้นำรัสเซียว่าประธานาธิบดี แฟรงคลิน รูสเวสต์ ให้คำมั่นสัญญากับสหภาพโซเวียตว่าจะยกหมู่เกาะคูริลให้กับรัสเซีย เพื่อแลกกับการที่รัสเซียจะเข้าร่วมสงครามต่อต้านญี่ปุ่น

3.การเข้ายึดหมู่เกาะคูริลของรัสเซียและขับไล่ชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอบู่บนเกาะ ทำให้ญี่ปุ่นซึ่งเรียกร้องให้รัสเซียคืนเกาะมาตลอด ไม่ยอมลงนามในข้อตกลงสันติภาพเพื่อยุติสงครามกับรัสเซียอย่างเป็นทางการ จนกลายเป็นปัญหายืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบัน

4.ปัจจุบันเกาะเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของเขตยุจโน-คูริลสกี (Yuzhno-Kurilsky) แคว้นซาฮาลินของรัสเซีย ขณะที่ญี่ปุ่นอ้างสิทธิ์โดยเรียกเกาะเหล่านี้ว่าดินแดนตอนเหนือ (Northern Territories) หรือชิชิมะตอนใต้ (Southern Chishima) และถือเป็นส่วนหนึ่งของกิ่งจังหวัดเนมูโระ จังหวัดฮอกไกโด

5.ที่ผ่านมารัสเซียและญี่ปุ่นพยายามเจรจาต่อรองเพื่อแก้ปัญหาพิพาทเหนือเกาะคูริลมาตลอดแต่ไม่สำเร็จ เพราะจุดยืนที่แตกต่างกันชัดเจน รัสเซียต้องการให้ญี่ปุ่นลงนามในข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซียเสียก่อนที่จะมีการเจรจาใดๆ โดยรัสเซียต้องการให้ญี่ปุ่นยอมรับสถานะของตนเองในฐานะผู้ชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 และยอมรับอำนาจอธิปไตยของรัสเซียเหนือหมู่เกาะคูริล ขณะที่ญี่ปุ่นต้องการให้มีการเจรจาเรื่องหมู่เกาะก่อนที่จะลงนามในข้อตกลงสันติภาพระหว่างกัน

6.ในสมัยอดีตประธานาธิบดี ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น มีการเจรจากับรัสเซียหลายครั้ง โดยญี่ปุ่นหวังว่าจะได้เกาะฮาโบไมและเกาะชิโกตันกลับคืนมา แต่ในการเจรจาเมื่อปี 2019 เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียย้ำชัดว่าหมู่เกาะคูริลเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใดๆ ได้

7.หลังรัสเซียบุกยูเครน ญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกในเอเชียที่ประณามการกระทำของรัสเซีย ทั้งยังคว่ำบาตร อายัดทรัพย์สิน ปลดรัสเซียออกจากประเทศที่ได้สิทธิพิเศษทางการค้ากับญี่ปุ่น และยังส่งอาวุธไปให้ยูเครน ท่าทีเหล่านี้ของญี่ปุ่นยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของรัสเซียและญี่ปุ่นร้าวลึกลงไปอีก

8.หลังจากนั้นรัสเซียประกาศถอนตัวจากการเจรจาสันติภาพกับญี่ปุ่นกรณีข้อพิพาทหมู่เกาะคูริล เนื่องจากญี่ปุ่นแสดงความไม่เป็นมิตรอย่างชัดแจ้ง และพยายามทำลายผลประโยชน์แห่งชาติของรัสเซีย ด้วยการร่วมกับสหรัฐและชาติตะวันตกในการคว่ำบาตรรัสเซีย รวมถึงยกเลิกการอนุมัติฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่ต้องการเดินทางไปยังหมู่เกาะคูริล รวมถึงถอนตัวจากเวทีเจรจาความร่วมมือทางเศรษฐกิจและไม่ขยายสถานะของญี่ปุ่นในฐานะหุ้นส่วนสำคัญในกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจทะเลดำ (Black Sea Economic Cooperation) อีกด้วย

9.ต่อมารัสเซียยังประกาศซ้อมรบบนหมู่เกาะคูริลโดยส่งทหารกว่า 3,000 นายและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ อีกหลายร้อยชิ้นเข้าไป โดยมีการทดสอบการใช้ขีปนาวุธต่อต้านรถถัง นอกจากนี้ยังพบความเคลื่อนไหวของเรือรบรัสเซียหลายสิบลำแล่นผ่านพื้นที่ใกล้เกาะฮอกไกโดหลายวันต่อเนื่อง

10.เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักข่าว TASS ของรัสเซียรานงานว่า รองนายกรัฐมนตรี ยูริ ตรุตเนฟ ของรัสเซียประกาศระหว่างเดินทางเยือนภูมิภาคคาบารอฟสก์ทางตะวันออกไกลของรัสเซียว่า รัสเซียจะเข้าไปพัฒนาและลงทุนในหมู่เกาะคูริลอย่างเต็มรูปแบบเป็นของตัวเอง เป็นการตอกย้ำว่ารัสเซียไม่มีทางคืนเกาะพิพาทนี้ให้ญี่ปุ่นแน่

11.ล่าสุดวันนี้ Reuters รายงานโดยอ้างสำนักข่าว RIA ของรัสเซียว่า อิกอร์ มอร์กูลอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเตือนญี่ปุ่นว่า รัสเซียจะใช้มาตรการตอบโต้หากญี่ปุ่นขยายขอบเขตการซ้อมรบทางทะเลร่วมกับสหรัฐ โดยอ้างว่าการซ้อมรบใกล้กับพรมแดนรัสเซียทำให้เกิดความตึงเครียดในภูมิภาคและเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของรัสเซีย

ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์

เมื่อญี่ปุ่นตั้งตัวเป็นศัตรู รัสเซียจึงไม่มีวันคืนเกาะคูริลให้

ภาพ: wikipedia/Hardscarf