สาเหตุที่รัสเซียเปลี่ยนเป้า มุ่งจู่โจมยูเครนตะวันออก
สื่อต่างประเทศวิเคราะห์สาเหตุที่รัสเซียเปลี่ยนแผน หันบุกยูเครนตะวันออก
สมรภูมิดอนบัสกำลังดำเนินไปอย่างดุเดือด หลังจากที่รัสเซียเริ่มถอนกำลังจากทางเหนือรอบๆ กรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน และมุ่งโจมตีไปที่ภาคตะวันออกและภาคใต้แทน ซึ่งการบุกยูเครนตะวันออกเริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจังในสัปดาห์นี้ และกลายเป็นเป้าหมายสำคัญของรัสเซีย
ขณะที่มีรายงานว่ารัสเซียกำลังเปิดสงครามเฟส 2 ในภูมิภาคดอนบัส ทางตะวันออกของยูเครน ด้วยกองกำลังทหารหลายพันนายพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์รวมถึงปืนใหญ่และจรวด โจมตีจากทุกทิศทุกทาง และทำลายเป้าหมายในภาคตะวันออกของยูเครนไปแล้วกว่า 1,200 แห่ง
"ตอนนี้เราสามารถพูดได้ว่ากองทัพรัสเซียเริ่มการสู้รบในดอนบัสซึ่งพวกเขาได้เตรียมการไว้นานแล้ว ทหารรัสเซียกำลังพยายามโจมตีทางตะวันออกและทางใต้ในลักษณะที่ผ่านการไตร่ตรองมากขึ้นกว่าเดิม" ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีกล่าว
CNBC ได้วิเคราะห์หาสาเหตุที่เป็นไปได้ที่รัสเซียเปลี่ยนเป้า หันมาบุกภาคตะวันออกอย่างเต็มรูปแบบ
รัสเซียต้องการชัยชนะ
รัสเซียให้ความสนใจภูมิภาคดอนบัสมาอย่างยาวนาน รวมถึงการให้การรับรองสถานะรัฐอิสระของโดเนตสก์และลูฮันสก์ ในภูมิภาคดอนบัส ทางตะวันออกของยูเครน เมื่อเดือนก.พ. ที่ผ่านมา และตอนนี้รัสเซียกลับมาโฟกัสพื้นที่ดังกล่าวอีกครั้งหลังจากที่การบุกยึดเมืองอื่นๆ ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่คาดหมายไว้
CNBC ระบุว่าแม้จะสร้างความเสียหายให้แก่ยูเครนไปมหาศาล แต่รัสเซียประสบความสำเร็จค่อนข้างน้อย และไม่สามารถยึดเมืองหลวงอย่างเคียฟ หรือทำให้เกิดการถอดถอนรัฐบาลของเซเลนสกีได้
นักวิเคราะห์เชื่อว่าสิ่งนี้กระตุ้นให้รัสเซียมุ่งความสนใจไปที่การยึดเมืองยุทธศาสตร์สำคัญๆ ทางตะวันออกและทางใต้แทน รวมถึงเมืองท่ามิโคไลฟ มาริอูโปล และเคอร์ซอน
ไมเคิล แม็กฟอล อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำรัสเซียกล่าวว่า "ปูตินยอมแพ้กับเป้าหมายที่ทะเยอทะยานของเขา"
Very striking how they have changed the name of their war to “special military operation in defense of Donbas.” Putin has given up on his more ambitious goals completely. No “ unification “, “denazification” or “demilitarization “ — clear signs that Putin is losing his war. https://t.co/yYTUniGCqz
— Michael McFaul (@McFaul) April 19, 2022
นอกจากนี้ รายงานระบุว่ารัสเซียต้องการที่จะประกาศชัยชนะบางอย่างในวันที่ 9 พ.ค. ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "วันแห่งชัยชนะ" ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากกับรัสเซีย เพราะเป็นวันฉลองชัยในการทำสงครามโลกครั้งที่ 2 กับกองทัพนาซีของเยอรมนี
โดยหนังสือพิมพ์ Kyiv Independent ของยูเครนรายงานเมื่อเดือนมี.ค. โดยอ้างข่าวกรองจากเจ้าหน้าที่กองทัพยูเครนว่า ทหารรัสเซียได้รับแจ้งว่าสงครามจะต้องยุติในวันที่ 9 พ.ค. อย่างไรก็ตาม CNBC ไม่ได้รับการยืนยันจากทางกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย
ต้องการเชื่อมเมืองสำคัญ
CNBC ระบุว่าชัยชนะในยูเครนตะวันออกไม่ได้เป็นเพียงกุญแจสำคัญสำหรับรัสเซียในแง่ของกลยุทธ์ทางทหารเท่านั้น แต่มันมีมูลค่าทางเศรษฐกิจด้วย ประการแรกคือภูมิภาคดอนบัสเป็นแหล่งอุตสาหกรรมเหมืองถ่านหิน และแหล่งสำรองถ่านหินขนาดใหญ่
ประการที่สองคือหากรัสเซียสามารถยึดครองดอนบัสได้ จะทำให้รัสเซียสามารถสร้างสะพานไปสู่แหลมไครเมียที่ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียในปี 2014 และยังเป็นศูนย์กลางทางการทหารและการค้าที่สำคัญของรัสเซียในทะเลดำ
หากมองในแง่นี้ นอกจากดอนบัสแล้ว เมืองท่าอย่างมาริอูโปลจึงเป็นจุดสนใจของรัสเซียในความพยายามที่จะทำให้รัสเซียสามารถเข้าถึงแหลมไครเมียได้จากทางบก ขณะที่มาริอูโปลเป็นเมืองท่าที่สำคัญดังนั้นการแพ้หรือชนะมีผลอย่างมากต่อทั้งสองฝ่าย
การเมืองอัตลักษณ์ของรัสเซีย
CNBC ชี้ว่าภูมิภาคดอนบัสมีความสำคัญต่อรัสเซียในด้านอัตลักษณ์เช่นกัน ผู้คนที่นั่นพูดภาษารัสเซียและถูกระบุว่าเป็นชาวรัสเซีย โดยแคว้นโดเนตสก์และลูฮันสก์ ในภูมิภาคดอนบัส มีกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ฝักใฝ่รัสเซียและต่อต้านรัฐบาลยูเครน ซึ่งแยกตัวออกมาตั้งสาธารณรัฐเอกราช แม้จะไม่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ แต่มีรัสเซียให้การสนับสนุน
โดยนักวิเคราะห์มองว่ารัสเซียได้หว่านเมล็ดพันธุ์ที่จะช่วยให้สามารถผนวกโดเนตสก์และลูฮันสก์มานานแล้ว ด้วยความพยายามที่จะ "Russify" หรือกลืนให้เป็นรัสเซีย อย่างเช่นการเสนอหนังสือเดินทางและสัญชาติรัสเซียแก่ผู้อยู่อาศัยที่นั่นตั้งแต่ปี 2019
Photo by REUTERS/Marko Djurica