posttoday

ชาวจาเมกาประท้วงรับเจ้าชายวิลเลียมเสด็จเยือน ยังแค้นเคยตกเป็นทาส

23 มีนาคม 2565

เจ้าชายวิลเลียม-ดัชเชสเคท เสด็จเยือนจาเมกา ปลุกประชาชนลุกฮือประท้วงเพราะอดีตที่พวกเขาลืมไม่ลง

รอยเตอร์สรายงานว่านักเคลื่อนไหวชาวจาเมกาจำนวนมากรวมตัวกันชุมนุมประท้วงด้านนอกสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษในกรุงคิงส์ตัน เรียกร้องให้อังกฤษขอโทษและชดใช้ต่ออดีตอันขมขื่นของชาวจาเมกา ที่ต้องเผชิญกับความโหดร้ายของระบบทาส เมื่อครั้งที่ตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของจักรวรรดิอังกฤษ

ขณะที่เจ้าชายวิลเลียม และดัชเชสแคเธอรีน ดยุกและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์เตรียมเสด็จเยือนจาเมกา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเสด็จเยือนประเทศในเครือจักรภพแถบทะเลแคริบเบียนเป็นเวลา 8 วัน เนื่องในโอกาสสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงครองราชย์ครบ 70 ปี โดยเริ่มจากเบลิซ เป็นประเทศแรก ตามมาด้วยจาเมกา และบาฮามาส

"ฉันต้องการใช้ราชวงศ์อังกฤษตระหนักว่าพวกเขาได้ก่ออาชญากรรมร้ายแรงต่อชาวแอฟริกัน พวกเขาต้องขอโทษและคืนสิ่งที่พวกเขาได้ไปจากบรรพบุรุษของพวกเรา" ผู้ประท้วงคนหนึ่งกล่าว

จดหมายฉบับหนึ่งซึ่งลงนามโดยนักการเมือง ทนายความ และศิลปินชาวจาเมกาจำนวน 100 คน ระบุว่าการชดใช้เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้เกิดการให้อภัย และการปรองดอง

ย้อนกลับไปในช่วงที่อังกฤษเริ่มออกล่าอาณานิคม ได้ยึดครองจาเมกาในปี 1665 และปรับปรุงเป็นแหล่งผลิตน้ำตาลและแหล่งค้าทาสที่สำคัญของทวีปอเมริกา ก่อนที่จะยกเลิกระบบทาสในปี 1833 และได้รับเอกราชโดยสมบูรณ์ในปี 1962

เมื่อปีที่แล้วรัฐบาลได้ประกาศแผนการที่จะเรียกเงินชดเชยจากอังกฤษมูลค่า 7,600 ล้านปอนด์ สำหรับการบังคับใช้แรงงานชาวแอฟริกันประมาณ 600,000 คนให้ทำงานในไร่อ้อยและกล้วยซึ่งสร้างความมั่งคั่งให้กับนายทาสชาวอังกฤษ

ทั้งนี้ การเสด็จเยือนประเทศในเครือจักรภพแถบทะเลแคริบเบียนของเจ้าชายวิลเลียมและดัชเชสแคเธอรีน มีขึ้นราว 4 เดือนหลังจากที่บาร์เบโดส ประเทศในภูมิภาคแคริบเบียน อดีตอาณานิคมของอังกฤษ กลายเป็นชาติสาธารณรัฐและสิ้นสุดการปกครองด้วยระบอบราชาธิปไตยอย่างเป็นทางการ โดยประกาศถอดถอนสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ออกจากการเป็นประมุขของรัฐ และ เดม ซานดรา เมสัน สาบานตนขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนแรก

ส่งผลให้ปัจจุบันราชอาณาจักรเครือจักรภพหรือรัฐเอกราชที่มีสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สองทรงเป็นประมุข ได้แก่ ออสเตรเลีย, แคนาดา, จาเมกา, นิวซีแลนด์, ปาปัวนิวกินี, บาฮามาส, เบลีซ, เกรเนดา, ตูวาลู, เซนต์ลูเชีย, หมู่เกาะโซโลมอน, แอนติกาและบาร์บูดา, เซนต์คิตส์และเนวิส, เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์

ขณะที่จาเมกาได้เริ่มดำเนินการที่อาจนำไปสู่เส้นทางเดียวกับบาร์เบโดส แต่อาจต้องใช้เวลาอีกหลายปี

มาร์ลีน มาลาฮู ฟอร์ต อัยการสูงสุดของจาเมกากล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่าเธอได้รับคำแนะนำจากนายกรัฐมนตรีแอนดรูว์ โฮลเนสส์ ให้ปฏิรูปรัฐธรรมนูญให้เป็นสาธารณรัฐ แต่กระบวนการดังกล่าวจะต้องมีการลงประชามติตามรัฐธรรมนูญของจาเมกา ทำให้อาจใช้เวลานานกว่าบาร์เบโดสซึ่งมีขนาดเล็กกว่า และสามารถทำการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองได้ผ่านรัฐสภา

Photo by REUTERS/Gilbert Bellamy

ข่าวล่าสุด

‘สเปน’ ใน ‘คืนข้ามปี’ ต้องกินองุ่น 12 ลูก ให้ทันเสียงระฆังดัง!