posttoday

คว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียไม่คืบ EU เสียงแตก เพราะบางประเทศไม่เอาด้วย

22 มีนาคม 2565

สหภาพยุโรปยังไม่มีมติเห็นชอบคว่ำบาตรพลังงานรัสเซีย เยอรมนีต้องพึ่งพาน้ำมันปริมาณมาก

หลังจากที่มีการเปิดเผยร่างแถลงการณ์ของสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งระบุว่าจะประกาศเห็นชอบลดการพึ่งพาน้ำมัน ก๊าซ และถ่านหินจากรัสเซีย ล่าสุดสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่าการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของสมาชิกสหภาพยุโรปทั้ง 27 ประเทศ ในกรุงบรัสเซลส์ เมื่อคืนวันที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมา สิ้นสุดลงโดยยังไม่มีการลงมติเห็นชอบการยกระดับมาตรการคว่ำบาตรพลังงานของรัสเซีย

โดยเยอรมนีและเนเธอร์แลนด์มองว่าสหภาพยุโรปพึ่งพาน้ำมันและก๊าซปริมาณมากจากรัสเซีย และยังไม่สามารถตัดขาดได้ในตอนนี้

"คำถามเรื่องการคว่ำบาตรน้ำมัน มันไม่ได้อยู่ที่ว่าเราต้องการหรือไม่ต้องการ แต่มันอยู่ที่ว่าเราต้องพึ่งพาน้ำมันมากแค่ไหน เยอรมนีนำเข้าน้ำมันของรัสเซียจำนวนมาก รวมถึงประเทศอื่นๆ ที่ไม่สามารถยุติการนำเข้าได้ในวันนี้" อันนาเลนา แบร์บ็อก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเยอรมนีกล่าวต่อผู้สื่อข่าว

สร้างความไม่พอใจให้กับฝ่ายที่ต้องการให้ยกระดับมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย รวมถึง กาเบรียล ลันสเบอร์กีส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของลิทัวเนียซึ่งกล่าวบนทวิตเตอร์ว่า "ทำไมยุโรปจะต้องให้เวลาปูตินในการกอบโกยรายได้จากน้ำมันและก๊าซมากขึ้นด้วย? มีเวลามากขึ้นที่จะใช้พอร์ตยุโรป? มีเวลามากขึ้นที่จะใช้ธนาคารรัสเซียที่ยังไม่ถูกคว่ำบาตรในยุโรป? ถึงเวลาที่ต้องยุติแล้ว"

ก่อนหน้านี้ผู้นำลัตเวียยังได้กดดันให้ยุโรปคว่ำบาตรพลังงานรัสเซีย โดยมองว่าหากหยุดพึ่งพาพลังงานของรัสเซียก็จะเป็นการหยุดการระดมทางทหารของรัสเซียด้วย

ทั้งนี้ เนื่องจากประเทศในสหภาพยุโรปพึ่งพาพลังงานของรัสเซียมากกว่า โดยนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียกว่าร้อยละ 40 นำเข้าน้ำมันร้อยละ 27 และนำเข้าถ่านหินเกือบครึ่งหนึ่งของการนำเข้าทั้งหมด แม้ว่าการคว่ำบาตรจะตัดขาดเงินหลายร้อยล้านยูโรต่อวันไปยังรัสเซีย แต่ก็อาจกระทบต่อเศรษฐกิจของยุโรปและผลักดันราคาน้ำมันให้พุ่งสูงขึ้นไปอีกด้วย

ด้านโจเชป บอร์เรลล์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป กล่าวว่า การที่รัสเซียดำเนินการปิดล้อมและทิ้งระเบิดที่มาริอูโปลนั้นถือว่าเป็น "อาชญากรรมสงครามครั้งใหญ่" ซึ่งยุโรปจะยกระดับบทลงโทษต่อรัสเซีย และจะมีการตัดสินใจที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นในภายหลัง

โดยที่ผ่านมาสหภาพยุโรปและประเทศพันธมิตรได้ออกมาตรการลงโทษ โดยเน้นการคว่ำบาตรต่อธนาคารและผู้มีอิทธิพลในรัสเซีย ตลอดจนแบนเครื่องบินรัสเซียจากน่านฟ้าของสหภาพยุโรป และยุติการส่งออกเทคโนโลยี

ขณะที่สหรัฐประกาศห้ามนำเข้าน้ำมันและก๊าซจากรัสเซียไปแล้ว ส่วนสหราชอาณาจักรระบุว่าจะทำภายในสิ้นปี 2022

Photo by REUTERS/Dado Ruvic/Illustration/File Photo

ข่าวล่าสุด

นักวิชาการ มธ. ชี้โพลคนกรุงลังเลเกือบครึ่ง สัญญาณการเมืองหายาก