สมรภูมิเลือดมาริอูโปล ประณามรัสเซียอาชญากรสงคราม รพ.เด็กก็ไม่เว้น
โลกประณามรัสเซียก่ออาชญากรรมสงคราม คร่าชีวิตกว่าพันคนในมาริอูโปล ซ้ำถล่มโรงพยาบาลเด็ก
เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ตามเวลาท้องถิ่น โรงพยาบาลแม่และเด็กในเมืองมารีอูโปล ของยูเครน ถูกกองทัพรัสเซียโจมตีทางอากาศหลายครั้ง อาคารพังถล่ม พื้นดินสั่นสะเทือนไปมากกว่าหนึ่งไมล์ ขณะที่ประชาชนจำนวนมากรวมทั้งผู้ป่วย หญิงท้องแก่ แพทย์พยายาล และเด็กต้องหนีเอาชีวิตรอด และมีผู้ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังด้วย
ประธานาธิบดี โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ประณามการกระทำของรัสเซียว่าเป็น "อาชญากรรมสงคราม" ด้วยการโจมตีที่โหดร้ายและไม่เลือกหน้าส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 คน ในจำนวนนี้มีเด็ก 1 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 17 คน รวมทั้งแพทย์พยาบาล ผู้ป่วย และหญิงที่กำลังทำคลอด ยิ่งไปกว่านั้นการโจมตีเกิดขึ้นในช่วงระหว่างข้อตกลงหยุดยิงของฝั่งรัสเซีย
Mariupol. Russian artillery ruined maternity hospital and children hospital. A lot of killed and wounded women. No information about children and newborn yet. Hey, @UN how are you doing? Please retweet pic.twitter.com/QJSfUMMngW
— Dmytro Gurin, Ukrainian MP (@DmytroGurinMP) March 9, 2022
เช่นเดียวกับสหรัฐ สหราชอาณาจักร และสหประชาชาติที่ออกมาประณามการโจมตีครั้งนี้เช่นกัน รวมถึงองค์การอนามัยโลกซึ่งเรียกร้องให้รัสเซียยุติการโจมตีสถานพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ทันที
นอกจากโรงพยาบาลแล้วเมืองมาริอูโปลถูกถล่มทางอากาศมาเป็นเวลานานกว่าสัปดาห์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ประเมินว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,170 คน ขณะที่เมืองเต็มไปด้วยร่างของผู้เสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียอ้างว่ารัสเซียต้องโจมตีโรงพยาบาลแห่งนี้เพราะที่นี่ถูกใช้เป็นฐานทัพทหารสำหรับกลุ่มชาตินิยม
Seeing the pregnant woman walking out of the destroyed building of the maternity ward in #Mariupol makes my blood run cold.Hard to imagine how many children have been killed as a result of Russian air strike on the children’s hospital today.@ICRC @UN #SafePassageForCivilians pic.twitter.com/WKNwzE3vwW
— Olena Ivantsiv (@OlenaIvantsiv) March 9, 2022
เช่นเดียวกับดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซียซึ่งยืนยันว่ารัสเซียไม่ได้มุ่งเป้าโจมตีพลเรือน แต่ต้องขับไล่พวกผู้นำนีโอนาซี โดยอ้างว่าโรงพยาบาลแห่งนี้ถูกยึดครองโดยกองพันอาซอฟ (Azov Battalion) และกลุ่มหัวรุนแรงอื่นๆ และยืนยันว่าไม่มีผู้ป่วยอยู่ที่นั่น
อย่างไรก็ตามการประชุมระหว่างเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ และดมีโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประทศยูเครนที่เพิ่งจบลงไปในเย็นวันนี้ (10 มี.ค.) ไม่มีความคืบหน้าในการหยุดยิงหรือการเปิดเส้นทางด้านมนุษยธรรมในมารีอูโปล
Mariupol. Direct strike of Russian troops at the maternity hospital. People, children are under the wreckage. Atrocity! How much longer will the world be an accomplice ignoring terror? Close the sky right now! Stop the killings! You have power but you seem to be losing humanity. pic.twitter.com/FoaNdbKH5k
— ????????? ?????????? (@ZelenskyyUa) March 9, 2022
คูเลบายอมรับว่าการจัดประชุมไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เขาพร้อมที่จะพูดคุยอีกครั้งในอนาคต โดยระบุว่ายูเครนพร้อมเจรจาด้วยวิธีทางการทูต แต่ก็พร้อมที่จะปกป้องตัวเองเช่นกัน ซึ่งยูเครนไม่สามารถยุติสงครามได้หากประเทศที่เริ่มก่อนไม่มีความต้องการที่จะทำเช่นนั้น "ผมขอย้ำว่ายูเครนจะไม่ยอมแพ้ เราพร้อมสำหรับการทูต แต่ตราบใดที่ยังไม่มี เราก็จะทุ่มเท เสียสละตนเอง เพื่อปกป้องดินแดนของเรา ประชาชนของเรา ในการเผชิญกับการรุกรานของรัสเซีย"
ด้านลาฟรอฟลั่นวาจาว่ารัสเซียจะไม่พึ่งพาตะวันตกอีกต่อไป และกล่าวต่อว่าสหภาพยุโรปและประเทศอื่นๆ ที่สนับสนุนการจัดอาวุธให้ยูเครน
Russia used 1000 kg bombs in yesterday’s airstrike against the maternity ward and children’s hospital in Mariupol.The craters left behind are more than 3 m deep. pic.twitter.com/R3XxeZITP2
— Visegrád 24 (@visegrad24) March 10, 2022
Photo by Ukraine Military/Handout via REUTERS


