posttoday

ติดโอไมครอนพุ่งขึ้นหลายเท่า จากแอฟริกาใต้ถึงยุโรปน่าเป็นห่วง

06 ธันวาคม 2564

แอฟริกาใต้พบการติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า ขณะที่สหราชอาณาจักรติดโอไมครอนเพิ่มขึ้นถึง 50% ในวันเดียว

ตามข้อมูลที่เผยแพร่โดยสถาบันโรคติดต่อแห่งชาติ (NICD) ของแอฟริกาใต้และรายงานโดยสำนักข่าว CNN ระบุว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ในแอฟริกาใต้เพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่าในช่วง 4 วันที่ผ่านมา (จนถึงวันที่ 4 ธันวาคม ตอกย้ำความกังวลว่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อย่างโอไมครอนจะแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้น

เมื่อวันศุกร์ แอฟริกาใต้รายงานผู้ป่วย COVID-19 ใหม่ 16,055 ราย เพิ่มขึ้นจาก 4,373 รายเมื่อวันอังคารที่แล้ว ในวันพฤหัสบดี NICD ยังเปิดเผยว่าผู้ป่วยรายใหม่บางรายเป็นผู้ที่เคยติดเชื้อมาก่อนหน้านี้แล้ว และติดเชื้อซ้ำด้วยสายพันธุ์

ศาสตราจารย์แอนน์ ฟอน ก็อตต์เบิร์ก (Professor Anne von Gottberg) นักจุลชีววิทยาจากสถาบัน NICD กล่าวว่า "การติดเชื้อก่อนหน้านี้เคยใช้ป้องกันเดลต้าได้ แต่ตอนนี้กับโอไมครอนดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น" พร้อมกล่าวว่า ไม่เห็นการติดเชื้อซ้ำจากเชื้อเบต้าและเดลต้ามากกว่าที่คาดหวัง แต่กำลังเห็นการติดเชื้อโอไมครอนเพิ่มขึ้น

เตรียมเตียงเพิ่มรับโอไมครอน

ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า แอฟริกาใต้กำลังเตรียมโรงพยาบาลสำหรับการรับผู้ป่วยเพิ่ม เนื่องจากสายพันธุ์โอไมครอนผลักดันประเทศให้เข้าสู่คลื่นลูกที่สี่ของการระบาด ประธานาธิบดีซีริล รามาโฟซา (Cyril Ramaphosa) กล่าวเมื่อวันจันทร์

โอไมครอน ถูกตรวจพบครั้งแรกในแอฟริกาตอนใต้เมื่อเดือนที่แล้ว และได้จุดชนวนให้เกิดการเตือนภัยทั่วโลก เนื่องจากรัฐบาลเกรงว่าจะมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก

รามาโฟซา กล่าวในจดหมายข่าวรายสัปดาห์ว่า โอไมครอนดูเหมือนจะเป็นเชื้อส่วนใหญ่ในหมู่ผู้ป่วยรายใหม่ใน 9 จังหวัดส่วนใหญ่ของประเทศและกระตุ้นให้ผู้คนจำนวนมากขึ้นรับการฉีดวัคซีนป้องกัน

“ขณะนี้แอฟริกาใต้มีวัคซีนเพียงพอ ... การฉีดวัคซีนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของเรา เพราะเมื่อมีผู้คนจำนวนมากขึ้นได้รับการฉีดวัคซีน พื้นที่ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจก็จะเพิ่มมากขึ้น” เขากล่าว

เร่งหาคำตอบติดไวหรือไม่

เร็วๆ นี้ รัฐบาลจะเรียกประชุมสภาบัญชาการไวรัสโคโรนาแห่งชาติ เพื่อทบทวนสถานะของการระบาดใหญ่ และตัดสินใจว่าจำเป็นต้องมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อให้ประชาชนปลอดภัย รามาโฟซา กล่าว

นักวิทยาศาสตร์ในแอฟริกาใต้และประเทศอื่นๆ แข่งขันกันเพื่อหาคำตอบว่าโอไมครอนสามารถแพร่ระบาดได้งาสยขึ้นหรือไม่ ทำให้เกิดโรคที่รุนแรงขึ้น และดื้อต่อวัคซีนที่มีอยู่หรือไม่

แต่เข้อมูลไม่เป็นทางการจากแพทย์และผู้เชี่ยวชาญในแอฟริกาใต้ให้ความมั่นใจ โดยบ่งชี้ว่าการติดเชื้อจำนวนมากที่เกิดขึ้นนั้นไม่รุนแรง

“เรากำลังจับตาดูอัตราการติดเชื้อและการรักษาตัวในโรงพยาบาลอย่างใกล้ชิด” รามาโฟซากล่าว

อังกฤษพบติดเชื้อเพิ่ม 50%

ด้านสถานการณ์ที่สหราชอาณาจักรก็น่าเป็นห่วงเช่นกัน โดย Sky News รายงานสถิติเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมพบว่า สหราชอาณาจักรตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่อีก 86 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อรวม 246 ราย

ตัวเลขนี้แสดงการเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ซึ่งมีผู้ป่วยได้รับการยืนยัน 160 ราย

เดนมาร์กกังวลยอดติดเพิ่ม

หน่วยงานด้านสุขภาพของเดนมาร์กกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่าประเทศเผชิญกับสถานการณ์ที่ "น่ากังวล" หลังยอดติดเชื้อโอไมครอนเพิ่มขึ้นเป็น 183 ราย

จำนวนดังกล่าวแสดงถึงผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันเพิ่มขึ้น 3 เท่าใน 48 ชั่วโมง จากที่ได้รับการยืนยัน 18 รายและผู้ต้องสงสัย 42 รายในวันศุกร์ ตามข้อมูลจากสถาบันสาธารณสุขของ SSI

ก่อนหน้านี้ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งยุโรป (ECDC) มีผู้ป่วยเพียง 182 รายในสหภาพยุโรปทั้งหมด รวมทั้งนอร์เวย์และไอซ์แลนด์

หัวหน้า SSI กล่าวว่าการเพิ่มขึ้นของเคสโอไมครอนยังคงเป็น "ความน่ากังวล" และเสริมว่า "ขณะนี้มีการติดเชื้อหลายสายซึ่งพบสายพันธุ์นี้ในผู้ที่ไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศหรือติดต่อกับผู้เดินทาง"

นอร์เวย์กลายเป็นคลัสเตอร์ใหญ่

ขณะที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นอร์เวย์กลายเป็นคลัสเตอร์การระบาดของโอไมครอนที่ใหญ่ที่สุดนอกแอฟริกาใต้ไปเรียบร้อยแล้ว

ที่ออสโลมีอย่างน้อย 13 คนติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนภายหลังงานเลี้ยงคริสต์มาสของบริษัท และตัวเลขของพวกเขาอาจเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 60 ราย จนกล่าวกันว่าเป็น “งานอีเวนต์ซุปเปอร์สเปรดเดอร์”

การระบาดเกิดขึ้นที่งานปาร์ตี้คริสต์มาสเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายนซึ่งจัดโดยบริษัทพลังงานหมุนเวียน Scatec ซึ่งมีการดำเนินงานในแอฟริกาใต้ซึ่งตรวจพบสายพันธุ์ดังกล่าวเป็นครั้งแรก

Photo by AFP / China OUT