posttoday

เยอรมนีอาจต้องล็อกดาวน์คนไม่ฉีดวัคซีน หลังโควิดพุ่งทะลุ 5 หมื่นต่อวัน

17 พฤศจิกายน 2564

เยอรมนียกระดับมาตรการคุมโควิด-19 หลังผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งสูงสุดนับตั้งแต่เกิดโรคระบาด

เยอรมนีกำลังจะใช้มาตรการและข้อกำจัดที่เข้มงวดขึ้นสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 หลังจากที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรครายงานผู้ป่วยรายใหม่เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมาอยู่ที่ 53,627 คนซึ่งเป็นสถิติที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดในประเทศเมื่อต้นปีที่แล้ว ส่งผลให้ขณะนี้เยอรมนีมีผู้ป่วยสะสมราว 5.14 ล้านคน และผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 98,278 คน

โดยเว็บไซต์ Fortune รายงานว่าแรงกดดันที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 4 ที่กำลังครอบงำเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป ทำให้เยอรมนีกำลังเดินตามรอยเพื่อนบ้านอย่างออสเตรียที่ใช้มาตรการล็อกดาวน์ประชาชนที่ไม่ฉีดวัคซีนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

ขณะที่โรงพยาบาลในประเทศใกล้จะถึงขีดความสามารถแล้ว และมีแนวโน้มว่าห้องไอซียูจะเต็มไปด้วยผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน

ขณะนี้บางรัฐใช้มาตรการที่เข้มงวดซึ่งเรียกว่ากฎ 2G ซึ่งมาจากคำว่า geimpft และ genesen ซึ่งแปลว่าฉีดวัคซีนและรักษาหายแล้ว โดยบางสถานที่ออกกฎให้ประชาชนแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนหรือการรักษาพยาบาลด้วยโรคโควิด-19 ก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้เข้า ส่งผลให้ประชาชนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าในหลายพื้นที่

รวมถึงกรุงเบอร์ลินซึ่งใช้บัตรผ่านโควิด-19 ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ โดยประชาชนต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนหรือหายป่วยจากโควิด-19 ไม่เกินระยะเวลาที่กำหนดเพื่อเข้าใช้บริการสถานที่สาธารณะ

ทั้งนี้ อัตราการติดเชื้อในเยอรมนีในรอบ 7 วันล่าสุดอยู่ที่ 319.5 ต่อประชากร 100,000 คน ซึ่งเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันที่ตัวเลขดังกล่าวแตะระดับ 300 ขณะที่ประชากรที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วมีไม่ถึง 70% ซึ่งตามหลังประเทศอื่นๆ ในยุโรป อาทิ อิตาลี สเปน และโปรตุเกส เป็นอย่างมาก

Photo by REUTERS/Annegret Hilse