posttoday

อินโดนีเซียลั่นการพัฒนาต้องมาก่อน ไม่เลิกตัดไม้ทำลายป่า

04 พฤศจิกายน 2564

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมลั่นการยุติการตัดไม้ทำลายป่าไม่ยุติธรรมต่ออินโดนีเซียในฐานะยักษ์ใหญ่ปาล์มน้ำมัน หลังร่วมลงนามในข้อตกลงยุติการตัดไม้ทำลายป่าและฟื้นฟูผืนป่าภายในปี 2030 ในที่ประชุม COP26

Bloomberg รายงานภายหลังจากที่อินโดนีเซีย ผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดของโลกเป็น 1 ใน 105 ประเทศที่ร่วมลงนามในข้อตกลงยุติการตัดไม้ทำลายป่าและฟื้นฟูผืนป่าภายในปี 2030 ในที่ประชุม COP26 เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา

ด้านซิติ นูร์บายา บาการ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมของอินโดนีเซีย กล่าวว่า การพัฒนาครั้งใหญ่ในยุคของประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ไม่สามารถยุติการปล่อยคาร์บอนหรือการตัดไม้ทำลายป่าให้เป็นศูนย์ได้ และอินโดนีเซียต้องลำดับความสำคัญในการพัฒนาประเทศเหนือกว่าความจำเป็นในการต่อสู้กับการตัดไม้ทำลายป่า ลดความคาดหวังเกี่ยวกับพันธกรณีด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศ

อย่างไรก็ตาม บาการ์กล่าวว่าอินโดนีเซียมุ่งมั่นที่จะควบคุมการทำลายผืนป่าและการปล่อยมลพิษ แต่ข้อตกลงยุติการตัดไม้ทำลายป่าและฟื้นฟูผืนป่าภายในปี 2030 นั้นไม่ควรถูกตีความว่าการตัดไม้ทำลายป่าจะเป็นศูนย์ ซึ่งจะไม่เหมาะสมและไม่ยุติธรรมต่ออินโดนีเซียในฐานะยักษ์ใหญ่ปาล์มน้ำมัน

พร้อมเสริมว่าการยุติการตัดไม้นั้นเหมือนกับการขัดคำสั่งรัฐธรรมนูญ 1945 ในการกำหนดค่านิยมและเป้าหมายระดับชาติเพื่อสวัสดิการสังคมและเศรษฐกิจของประชาชน

ทั้งนี้ บาการ์ทิ้งท้ายว่าป่าไม้เป็นส่วนหนึ่งของความมั่งคั่งทางธรรมชาติของอินโดนีเซีย และต้องได้รับการจัดการเพื่อประโยชน์ของประเทศควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามหลักการของความยั่งยืน

โดยนอกจากอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มยักษ์ใหญ่ของประเทศแล้ว รัฐบาลยังต้องเปิดทางสำหรับโครงสร้างพื้นฐานที่จะเชื่อมต่อหมู่บ้านกว่า 34,000 แห่งที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าและบริเวณโดยรอบ

"หากแนวคิดของข้อตกลงคือห้ามไม่ให้มีการตัดไม้ทำลายป่าเลย แสดงว่าไม่ควรมีถนนหนทางอย่างนั้นหรือ" บาการ์กล่าว

Photo by REUTERS/Willy Kurniawan/File Photo