posttoday

เมื่อ AUKUS ทำพิษ จีนจึงนั่งบนภู ดูฝรั่งกัดกัน

20 กันยายน 2564

พันธมิตรที่ตั้งขึ้นเพื่อเล่นงานจีน กำลังส้างความร้าวฉานในหมู่ชาติตะวันตกเสียอย่างนั้น

เป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายพอสมควรที่จู่ๆ ชาติตะวันตกก็หันมาซัดกันนัวซะอย่างนั้น ทั้งๆ ที่การฟอร์มพันธมิตรล้อมจีนกำลังจะไปได้สวยเลยทีเดียว

เหมือนที่จีนเตือนชาติตะวันตกเอาไว้ว่าหากคิดจะเล่นงานจีนละก็ระวังปืนลั่นใส่เท้าตัวเองแล้วกัน แล้วมันก็ลั่นเข้าจริงๆ

ตอนนี้พันธมิตรล้อมมีไม่รู้ตั้งกี่กลุ่ม กลุ่มล่าสุดคือ AUKUS ซึ่งสนธิสัญญาความมั่นคงไตรภาคีระหว่างออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา เพิ่งตั้งมาหมาดๆ เมื่อวันที่ 15 กันยายนนี่เอง

นี่คือกลุ่มที่จะใช้เล่นงานจีนโดยใช้เรือดำน้ำโดยเฉพาะ หากใครตามเรื่องความมั่นคงมาสม่ำเสมอจะทราบว่าหลายประเทศจับเรื่องดำน้ำกันจริงจังขึ้น ทั้งการต่อเรือใหม่และวางระบบตรวจจับ

ระบบตรวจจับนี้วาดหวังว่าจะมาใช้แถวๆ อาเซียนเพื่อดักเรือดำน้ำจีน ประเทศที่ทำท่าจะร่วมด้วยก็เช่นอินโดนีเซีย

พอตั้ง AUKUS ขึ้นมาแน่นอนว่าประเทศแรกที่โวยวายคือจีน

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน จ้าวลี่เจียน กล่าวว่า "สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และออสเตรเลียกำลังมีส่วนร่วมในความร่วมมือในเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอย่างร้ายแรง ซ้ำเติมการแข่งขันด้านอาวุธ และทำร้ายความพยายามในการไม่แพร่ขยายอาวุธระหว่างประเทศ"

แต่จีนก็สวนกลับเป็นปกติอยู่แล้วกับท่าทีคุกคามของสหรัฐกับพันธมิตร ประเทศที่จีนขู่หนักเป็นพิเศษคือออสเตรเลียที่มีเรื่องพิพาททางการค้าและการเมืองมาหลายเดือนแล้ว สื่อทางการจีนถึงกับขู่ว่าออสเตรเลียอาจจะถูกเล็งเป้าหมายจากจีนเพราะการณ์นี้

นี่ก็ยังไม่นับว่าเซอร์ไพร์ส ที่เซอร์ไพร์สคือประเทศที่เดือดร้อนหนักกว่าจีนกลับกลายเป็นฝรั่งเศสเสียอย่างนั้น

ฝรั่งเศสมีดีลสร้างเรือดำน้ำให้กับออสเตรเลีย 12 ลำมูลค่า 90,000 ล้านดอลลาร์ออสดตรเลีย ดีลนี้มีมานานหลายปีแล้วและเจตนาก็เพื่อเสริมเขี้ยวเล็บให้ออสเตรเลียรับมือกับจีนนั่นเอง

พอออสเตรเลียเข้าร่วม AUKUS ก็เขี่ยดีลกับฝรั่งเศสทิ้งทันทีเพื่อหันไปซื้อเรือดำน้ำของสหราชอาณาจักรกับสหรัฐที่เป็นไตรภาคีกัน ฝรั่งเศสนั้นถูกแจ้งล่วงหน้าแค่ 2 ชั่วโมงก็ล้มดีล

แบบนี้จะไม่ให้ฝรั่งเศสเคืองได้อย่างไร เคืองแค้นถึงขนาดเรียกเอกอัครราชทูตประจำแคนเบอร์รากับวอชิงตันกลับมา และฌอง-อีฟว์ เลอ ดริยง รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสบอกว่านี่มันเป็นการ "แทงข้างหลัง"

มันไม่ได้กระทบแค่เรื่องความมั่นคงแต่กระเพื่อมไปถึงเศรษฐกิจ อาร์กโนด์ ดังชอง สมาชิกรัฐสภาฝรั่งเศสถึงกับขู่ว่าออสเตรเลียเตรียมใจไว้ได้เลยว่าข้อตกลงการค้าเสรีกับยุโรปนั้นไม่ใช่แค่จะล่าช้าออกไป ซึ่งหมายความว่าฝรั่งเศสอาจจะวีโต้หรือเตะถ่วง

มันจะทำให้ออสเตรเลียเจอตอฝรั่งเศสเวลาจะติดต่ออะไรกับสหภาพยุโรป

เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสยังไม่แสดงท่าทีอะไรชัด (ในวันที่บทความนี้เขียนขึ้น) แต่มีรายงานว่ามาครงโกรธเอามากๆ

ซ้ำร้าย แทนที่สหรัฐจะรีบทำความเข้าใจกับฝรั่งเศส กับแถลงว่าอีกวันสองวันนี้จะไบเดนจะโทรหามาครง เป็นการเตะถ่วงเวลาราวกับไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอีก

กับสหรัฐนั้นอาจจะคุยกันง่ายหน่อย ที่ฝรั่งเศสอาจจะไม่คุยเลยคือออสเตรเลียและสหราชอาณาจักร

กับสหราชอาณาจักรนั้นไม่ได้เป็นคู่กรณีโดยตรง ที่ไม่ได้เรียกทูตที่ลอนดอนกลับมาไม่ใช่ว่าไม่ได้โกรธ แต่ เลอ ดริยงบอกว่าพวกอังกฤษนั้นเป็นพวกฉวยโอกาส ฝรั่งเศสรู้นิสัยใจคอดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเรียกทูตกลับมา พร้อมกับเย้ยว่า "ทั้งหมดทั้งมวลแล้วสหราชอาณาจักเหมือนเป็นแค่ตัวประกอบ"

ที่ดูคล้ายๆ กันคือ เคลมองต์ โบน รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสฝ่ายกิจการยุโรปที่เย้ยว่าสหราชอาณาจักรเป็นแค่หุ้นส่วนประเภทลูกกระจ๊อกและเป็นรัฐบริวารของสหรัฐ

สหราชอาณาจักรนันเพิ่งจะถอนตัวจากสหภาพยุโรปแค่นี้ก็มองหน้ากันติดยากแล้ว ต่อจากนี้จะเจอฝรั่งเศสขวางเข้าให้อีก และฝรั่งเศสก็รู้ทันว่าที่สหราชอาณาตักรถอนตัวจากสหภาพยุโรปก็เพราะคิดฝันจะเป็นใหญ่เหมือนสมัยเป็นเจ้าอาณานิคม (นโยบาย Global Britain) ดังที่เคลมองต์ โบนบอกว่า

"เพื่อนชาวอังกฤษของเราอธิบายให้เราฟังว่าพวกเขากำลังออกจากสหภาพยุโรปเพื่อสร้าง Global Britain เราจะเห็นได้ว่านี่คือการหวนกลับเป็นเด็กในโอวาทของอเมริกาและยอมรับเป็นรัฐบริวาร"

ครั้งก่อนที่สหราชอาณาจักรถูกด่าว่าเลียแข้งเลียขาอเมริกาคือตอนที่ส่วทหารไปช่วยสหรัฐรุกรานอิรัก โทนี แบลร์ นายกรับมนตรียุคนั้นได้รับฉายาว่า Poodle (สุนัขพุดเดิ้ล) ของประธานาธิบดีจอร์จ ดับบิลยู บุช

แม้จะด่าอย่างเจ็บแสบ แต่ฝรั่งเศสก็ลงไม้ลงมือกับสหราชอาณาจักรด้วยด้วยการแคนเซิลการหารือความมั่นคงระหว่างฝรั่งเศสกับสหราชอาณาจักรไปซะเลย

ฝรั่งเศสนั้นเป็นเดือดเป็นแค้นขนาดที่พรรคฝ่ายค้านที่น่าจะค้านท่าทีของรัฐบาลที่จองเวรกับ AUKUS นอกจากไม่ค้านแล้ว ยังบอกว่ารัฐบาลทำน้อยไปอีก เพราะควรจะถอนตัวออกจากนาโตซะเลย

ถ้าฝรั่งเศสถอนตัวจากนาโตนับว่าเรื่องใหญ่มากแต่ไม่น่าจะถึงขนาดนั้น เพียงแต่เลอ ดริยงลั่นวาจาจาว่านาโตจะต้องคำนึงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะที่พิจารณายุทธศาสตร์ในการประชุมสุดยอดที่มาดริดในปีหน้า

นาโตนั้นเริ่มที่จะรวมตัวกันแข็งแกร่งขึ้นโดยเฉพาะประเทศยุโรปตะวันออกที่กลัวการแผ่อำนาจของรัสเซียหันมาพึ่งพานาโตหนักขึ้น ส่วนยุโรปตะวันตกก็ผนึกกำลังเหนียวแน่นมากขึ้นเพราะรัสเซียแสดงแสนยานุภาพทางทะเลในแถบยุโรปตะวันตกบ่อยๆ แถมยังชวนจีนมาซ้อมรบด้วย ทำให้ทั้งสองประเทศถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามร่วมกันของยุโรป ดังนั้นฝรั่งเศสเองก็มีเหตุผลที่ต้อง "แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง" กับสมาชิกในนาโต

แต่คราวนี้ฝรั่งเศสสิ้นความไว้เนื้อเชื่อใจเพื่อนาโตซะแล้วแถมยังมีเสียงเชียร์ให้ออกจากนาโตด้วยซ้ำ

รัสเซียกับจีนไม่ต้องทำอะไรในเกมนี้ ปล่อยให้นาโตฟัดกันเองไป สมกับที่จีนเตือนแล้วว่าระวังปืนจะลั่นใส่เท้าตัวเอง เพราะเครื่องเคราของชาติตะวันตกที่จะจัดการจีนพะรุงพะรังเกินไป ในที่สุดมันก็ทำร้ายตัวเองจนได้

ชาติตะวันตกยังลืมไปว่าการสร้างแนวต้านจีนในอินโด-แปซิฟิกนั้นไม่ใช่โซนปลอดภัยจากประเทศตะวันตกเสียทีดียว พราะมันยังทับเส้นกันได้ ในแถบนี้มีดินแดนโพ้นทะเล (จังหวัดนอกแผ่นดินยุโรปของฝรั่งเศส) หลายแห่ง ฝรั่งเศสย่อมกังวลต่อสวัสดิภาพของดินแดนโพ้นทะเลของตนด้วย เมื่อจู่ๆ พวกไตรภาคี AUKUS จะเปิดศึกกับจีนแถบนี้

นิวซีแลนด์ที่เป็นสมาชิก Five Eyes แท้ๆ หลังจากเปิดตัว AUKUS นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ จาซินดา อาร์เดิร์น ออกแถลงการณ์ทันควันโดยย้ำจุดยืนของนิวซีแลนด์ว่าจะไม่มีเรือดำน้ำนิวเคลียร์ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในน่านน้ำของตน บอกว่าถึงไม่ชวนเข้า AUKUS แต่ไม่หวังว่า AUKUS จะชวนเข้าร่วมด้วย แปลตรงๆ ก็คืออย่าลากนิวซีแลนด์ไปเอี่ยวด้วย

ฝ่ายจีนนั้นนอกจากส่งโฆษกกระทรวงการต่างประเทศออกมาติติงตามสมควรและให้สื่อแทบลอยด์ต่อว่าด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวขึ้นนิดหน่อย แค่นี้ก็ไม่ได้มีท่าทีเดือดร้อนอะไรมาก

เรียกว่านั่งบนภูดูเสือกัดกันก็ไม่ผิด

แต่จีนนั่งบนภูไม่ได้นานหรอก เพราะถึงฝรั่งเศสจะไม่ยอมเคลียร์กับคู่กรณี แต่ยังมีประเทศอื่นที่จ้องรุมทึ้งจีนอยู่อีกมากและพร้อมที่จะร่วมแนวร่วมที่นำโดยสหรัฐ เพียงแต่นี่เป็นตัวอย่างให้เห็นว่าพันธมิตรต้านจีนนั้นมีจุดอ่อนและช่องโหว่เพียบเหมือนกัน

ดังนั้น หลายปีที่ผ่านมารัสเซียถึงเล่นเกมใต้ดินบ่อนทำลายนาโตทีละน้อยๆ นั่นเอง

เอาจริงๆ ประเทศที่ควรกังวลกับ AUKUS ควรจะเป็นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยซ้ำไม่ใช่จีน พราะฝรั่งเล่นสะสมแสนยานุภาพจ่อหน้าประตูบ้านเราแบบนี้ จะให้เรานิ่งไหวหรือ

เกาหลีเหนือ นั้นเตือนแล้วว่า AUKUS จะกระตุ้นให้เกิดการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ในภูมิภาค ซึ่งมีส่วนจริงอย่างมาก ต่อให้ไม่ถึงอาวุธนิวเคลียร์มันก็จะกระตุ้นให้เกิดการสะสมอาวุธในแถบนี้ มาเลเซียกับอินโดนีเซียออกปากเตือนเรื่องนี้กันแล้ว

สิ่งที่ตามมาย่อมเป็นเหตุผลให้บางประเทศเพิ่มงบประมาณด้านการทหารแน่นอน

โดย กรกิจ ดิษฐาน

Photo by BRENDAN ESPOSITO / POOL / AFP