posttoday

นักกีฬาข้ามเพศคนแรก กับชัยชนะและความพ่ายแพ้ที่โอลิมปิก

02 สิงหาคม 2564

ลอเรล ฮับบาร์ด (Laurel Hubbard) นักยกน้ำหนักข้ามเพศจากนิวซีแลนด์ชวดเหรียญโตเกียวโอลิมปิก

หลังจากที่คณะกรรมการโอลิมปิกสาลอนุญาตให้นักกีฬาที่เปลี่ยนเพศสภาพจากชายเป็นหญิงลงแข่งขันในประเภทหญิงได้หากปริมาณฮอร์โมนในร่างกายผ่านเกณฑ์ที่กำหนด "ลอเรล ฮับบาร์ด" (Laurel Hubbard) นักกีฬายกน้ำหนักจากนิวซีแลนด์ก็เป็นนักกีฬาข้ามเพศคนแรกที่ได้รับสิทธิ์นั้นในการแข่งขันโอลิมปิก

เมื่อนิวซีแลนด์ยืนยันว่าเธอจะเข้าร่วมการแข่งขันยกน้ำหนักในโตเกียว โอลิมปิก 2020 รุ่นน้ำหนักเกิน 87 กิโลกรัม ในฐานะนักกีฬาเพศหญิง นอกจากนี้ ฮับบาร์ดยังเป็นนักยกน้ำหนักที่อายุมากที่สุดในการแข่งขันด้วยวัย 43 ปี

อย่างไรก็ตามแม้จะได้รับการยอมรับจากกลุ่มผู้สนับสนับสนุนคนข้ามเพศ แต่ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเมื่อบรรดานักกีฬาและแฟนกีฬาจำนวนมากมองว่าจะเกิดข้อได้เปรียบ-เสียเปรียบด้านสรีระ รวมถึงความหนาแน่นของมวลกล้ามเนื้อ กระดูก และพละกำลังที่มีความแตกต่างกันระหว่างเพศชายและเพศหญิงโดยกำเนิด แม้ว่าเธอจะมีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (ฮอร์โมนเพศชาย) ต่ำกว่า 10 นาโนโมล (nmol) ต่อลิตรเป็นเวลาอย่างน้อย 12 เดือนตามที่เกณฑ์กำหนดก็ตาม

รวมถึงแอนนา ฟาน เบลลิงเฮน (Anna Van Bellinghen) นักยกน้ำหนักจากเบลเยียมซึ่งสนับสนุนกลุ่มคนข้ามเพศอย่างเต็มที่ ก็ยอมรับว่าเธอมองว่ามันค่อนข้างไม่ยุติธรรมต่อนักกีฬา เช่นเดียวกับ Fair Play for Women กลุ่มพิทักษ์สิทธิสตรีซึ่งมองว่านโยบายนี้ไม่เป็นธรรมเช่นกัน

ขณะที่ เครีน สมิธ (Kereyn Smith) ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกนิวซีแลนด์กล่าวว่าเพศสภาพในกีฬาเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนและซับซ้อน ซึ่งต้องสร้างสมดุลระหว่างสิทธิมนุษยชนและความยุติธรรม แต่ยืนยันว่าฮับบาร์ดได้ผ่านเกณฑ์ของสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติและข้อกำหนดของนักกีฬาข้ามเพศของคณะกรรมการโอลิมปิกสาล

ด้านโทมัส บัค (Thomas Bach) ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากลระบุว่ากฎที่ประกาศออกไปแล้วสำหรับการแข่งขันครั้งนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ยืนยันว่าคณะกรรมการน้อมรับเสียงคัดค้านและจะนำไปทบทวนพิจารณาในการแข่งขันโอลิมปิกในอนาคต

เปิดประวัติ "ลอเรล ฮับบาร์ด"

หรือเดิมมีชื่อว่า กาวิน ฮับบาร์ด เกิดในปี 1978 เป็นลูกของอดีตนายกเทศมนตรีเมืองโอ๊คแลนด์และเจ้าของธุรกินอาหาร Hubbard Foods เธอสนใจกีฬายกน้ำหนักตั้งแต่เด็ก และสร้างสถิติใหม่ของประเทศในระดับเยาวชนเมื่อปี 1998 ก่อนที่จะห่างหายจากวงการไปราว 10 ปี

ก่อนหน้านั้นเธอลงแข่งขันในประเภทชายมาโดยตลอดจนกระทั่งปี 2013 เธอแปลงเพศและย้ายมาลงแข่งขันในประเภทหญิงในเวลาต่อมา โดยใช้ชื่อว่าลอเรล ฮับบาร์ด ซึ่งเธอได้ผ่านการตรวจปริมาณฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนตามเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนด

ในปี 2017 เธอคว้าเหรียญเงินจากรายการชิงแชมป์โลก ก่อนที่จะคว้าเหรียญทองในการแข่งขันแปซิฟิก เกมส์ ในปี 2019 หลังหายจากอาการบาดเจ็บที่แขนอย่างหนัก

และในปีนี้เธอได้ลงแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ในฐานะนักกีฬาหญิงข้ามเพศคนแรกของรายการ จบที่รอบชิงชนะเลิศ หลังพลาดยกไม่ผ่านในท่าสแนตช์ 120 กิโลกรัมและ 125 กิโลกรัม ท่ามกลางกำลังใจจากแฟนกีฬา แต่อีกส่วนหนึ่งก็มองว่ามันจะไม่ยุติธรรมหากเธอได้ผ่านเข้ารอบต่อไป

Photo by ADRIAN DENNIS / AFP