posttoday

ฮ่องกงปิดประตู ไล่ไต้หวัน ล่าฝ่ายต่อต้าน

22 มิถุนายน 2564

ฮ่องกงแสดงท่าทีแข็งกร้าวใครไม่ยอมรับหลักการจีนเดียวคือศัตรู

ความสัมพันธ์ของฮ่องกงกับไต้หวันกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง เริ่มจากเมื่อเดือนที่แล้วทางการฮ่องกงมีคำสั่งปิดสำนักงานเศรษฐกิจ การค้า และวัฒนธรรมฮ่องกง ประจำกรุงไทเป โดยไม่ให้เหตุผลชัดเจน แต่ระบุเพียงว่า "ไม่เกี่ยวข้องกับการที่ไต้หวันพบผู้ป่วย Covid-19 เพิ่มขึ้นในชุมชน"

แต่แถลงการณ์ในภายหลังของรัฐบาลฮ่องกงที่ว่า ไต้หวัน “แทรกแซงกิจการภายในของฮ่องกงอย่างร้ายแรง” หลายครั้ง และ “สร้างความเสียหายที่แก้ไขไม่ได้” ให้กับความสัมพันธ์ที่สำนักงานเศรษฐกิจพยายามส่งเสริม ช่วยยืนยันได้อย่างดีว่าคำสั่งปิดดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการเมืองอย่างปฏิเสธไม่ได้

ขณะที่หลายฝ่ายมองว่าฮ่องกงทำไปเพื่อประท้วงที่ไต้หวันออกหน้าหนุนนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในฮ่องกง

หลังจากนั้น 1 เดือน คณะผู้บริหารมาเก๊า อีกหนึ่งเขตปกครองพิเศษของจีน ประกาศปิดสำนักงานเศรษฐกิจ การค้า และวัฒนธรรมมาเก๊า ประจำกรุงไทเป โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา

แม้มาเก๊าจะไม่ได้ระบุเหตุผลแต่ถ้อยคำที่เลือกใช้แทบจะเหมือนกับแถลงการณ์ของทางการฮ่องกง ทำให้อดมองไม่ได้ว่าสองเหตุการณ์นี้อาจจะเกี่ยวข้องกัน

ล่าสุดทางการฮ่องกงบีบบังคับให้เจ้าหน้าที่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปในฮ่องกง (TECO) เซ็นเอกสารยอมรับหลักการจีนเดียวของรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ที่มองว่าไต้หวันเป็นเขตปกครองของจีน แลกกับการต่ออายุวีซ่า มิเช่นนั้นจะต้องเดินทางออกจากฮ่องกงภายในวันที่ 21 มิ.ย.นี้

ต่อมาทางการไต้หวันจึงสั่งถอนเจ้าหน้าที่ 7 คนจากสำนักงาน TECO ที่ต่อวีซ่าไม่ได้ โดยเหลือไว้เพียงหัวหน้าฝ่ายการค้า 1 คน ทว่าแหล่งข่าวเผยกับ Focus Taiwan ว่า วีซ่าของเจ้าหน้าที่รายนี้กำลังจะหมดอายุในเดือนหน้า และเขาอาจถูกบีบให้กลับไต้หวันเช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่คนอื่น ส่งผลให้ไม่มีเจ้าหน้าที่ไต้หวันประจำสำนักงาน

แม้ต่อมาสภากิจการแผ่นดินใหญ่ของไต้หวัน (MAC) จะต่อว่าจีนและฮ่องกงว่าสร้างเขื่อนไขทางการเมืองที่ไม่สมเหตุสมผลในการยื่นคำร้องขอต่ออายุวีซ่าของเจ้าหน้าที่สำนักงาน TECO ในฮ่องกง รัฐบาลฮ่องกงกลับอ้างว่าไต้หวันกำลังสับสนว่าอะไรถูกอะไรผิด “รัฐบาลเขตปกครองพิเศษต้องให้ความสำคัญว่าฮ่องกงและไต้หวันเป็นของจีนเดียว”

สำนักงาน TECO ในฮ่องกงเปิดทำการเมื่อปี 2011 ซึ่งจีนกับไต้หวันยังมีความสัมพันธ์ที่ดีภายใต้รัฐบาลก๊กมินตั๋งของไต้หวัน เพื่อทดแทนสำนักงาน Chung Hwa Travel Service ที่ทำหน้าที่คล้ายกันนี้มากว่า 4 ทศวรรษ

ทว่า เมื่อปี 2018 ทางการฮ่องกงปฏิเสธการออกวีซ่าให้กับหัวหน้าสำนักงานคนใหม่ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่เริ่มตึงเครียดของไต้หวันกับจีนจนไม่สามารถเข้ารับตำแหน่ง  และอีก 2 ปีต่อมาเจ้าหน้าที่ของสำนักงานอีก 4 คนก็เจอปัญหาเดียวกัน เพราะไม่ยอมเซ็นหนังสือยอมรับหลักการจีนเดียว ซึ่งเป็นหลักการที่ไต้หวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประธานาธิบดี ไช่อิงเหวิน ไม่เคยยอมรับ

ไช่อิงเหวินเคยประกาศว่า ไต้หวันไม่อาจยอมรับการเป็นส่วนหนึ่งของจีนภายใต้หลักการหนึ่งประเทศ สองระบบที่จีนเสนอได้

นอกจากการบีบเจ้าหน้าที่ไต้หวันกลับประเทศแล้ว ในระยะหลัง แคร์รี่ หลั่ม ผู้บริการเขตปกครองพิเศษฮ่องกงยังมีท่าทีแข็งกร้าวขึ้น โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับการเรียกร้องเอกราชจากจีนและกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่เริ่มบังคับใช้เมื่อกลางปีที่แล้ว

สัปดาห์ที่แล้ว ตำรวจฮ่องกงบุกค้นสำนักงานหนังสือพิมพ์ Apple Daily ที่สนับสนุนประชาธิปไตย ของ จิมมี ไหล เจ้าพ่อสื่อฮ่องกงคนดังที่อยู่ระหว่างควบคุมตัว และจับกุมผู้บริหารระดับสูง 5 รายรวมทั้งอายัดทรัพย์สินกว่า 2.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ในข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับต่างประเทศและตีพิมพ์บทความหลายชิ้นที่ฝ่าฝืนกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ

หลังจากนั้น แครี่ หลั่ม ก็ออกมาปกป้องปฏิบัติการจับกุมและเผยว่า กรณีของ Apple Daily ควรเป็นตัวอย่างแก่สื่อเจ้าอื่นๆ ด้วยซึ่งจะทำให้วัตถุประสงค์ของกฎหมายฉบับนี้บรรลุ

หลั่มยังโต้กลับว่า คนที่วิจารณ์การบุกค้นและจับกุมผู้บริหารระดับสูงของ Apple Daily กำลังพยายามทำให้การกระทำที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติเป็นสิ่งสวยงาม

ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันหลั่มยังย้ำกับชาวฮ่องกงว่า ชาวฮ่องกงต้องปกป้องผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ และต้องเคารพรัฐธรรมนูญของจีนเพื่อปกป้องหลักการหนึ่งประเทศ สองระบบ

เท่ากับเป็นการประกาศว่า ใครที่ไม่เคารพจีนหรือไม่ยอมรับหลักการหนึ่งประเทศ สองระบบของจีนคือศัตรูของฮ่องกง

Photo by Anthony WALLACE / AFP