posttoday

ปริศนาพีระมิดบอสเนีย อารยธรรมเก่าแก่หรือแค่คิดไปเอง

07 มิถุนายน 2564

เป็นไปได้หรือไม่เมื่อ "พีระมิด" อารยธรรมมหัศจรรย์ในอียิปต์ถูกเคลมว่ามีในบอสเนียเช่นกัน

ในเมืองวิโซโค เมืองเล็กๆ ในบอสเนียซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงไปประมาณ 35 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของกลุ่มเนินเขาที่ว่ากันว่ามีลักษณะเหมือนพีระมิด ทำให้หลายคนเชื่อว่านี่คืออารยธรรมที่มนุษย์สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยโบราณ

Visocica hill ความสูงราว 700 ฟุต และ Plješevica hill ความสูงราว 350 ฟุตเป็น 2 เนินเขาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดซึ่งได้รับการขนานนามว่าพีระมิดแห่งดวงอาทิตย์ และพีระมิดแห่งดวงจันทร์ โดย เซมีร์ ออสมานากิช (Semir Osmanagic) นักเขียนและนักธุรกิจชาวบอสเนียที่สนับสนุนแนวคิด "พีระมิดแห่งบอสเนีย" ซึ่งเชื่อว่าเนินเขาในบอสเนียแห่งนี้เป็นพีระมิดที่มนุษย์สร้างขึ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก

นอกจากนี้เขายังตั้งชื่อเนินเขาอื่นๆ อีก 3 แห่งบริเวณนั้นว่าเป็นพีระมิดแห่งโลก, พีระมิดแห่งความรัก และพีระมิดมังกร เขาเชื่อว่าพีระมิดเหล่านี้มีอายุกว่า 30,000 ปีซึ่งสร้างขึ้นโดยมนุษย์ในยุคโบราณซึ่งเชื่อว่าเป็นกลุ่ม Illyrians กลุ่มของยูโรเปียนเผ่าที่อาศัยอยู่ทางตะวันตกของคาบสมุทรบอลข่านในสมัยโบราณ

ออสมานากิชได้ศึกษาทฤษฎีพีระมิดเหล่านี้โดยการกว้านซื้อที่ดินบริเวณนั้นและทำการขุดค้นหลายครั้งตั้งแต่ปี 2005 นอกจากนี้เขายังกล่าวว่าได้พบอุโมงค์ใต้เนินเขาที่เรียกว่าอุโมงค์ Ravne ซึ่งเชื่อว่าถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์ในยุคสมัยเดียวกัน และค้นพบคลื่นนิ่ง (standing wave) ที่ด้านบนเนินเขาที่ใหญ่ที่สึดซึ่งเดินทางเร็วกว่าความเร็วแสง

ปริศนาพีระมิดบอสเนีย อารยธรรมเก่าแก่หรือแค่คิดไปเอง

ออสมานากิชยังอ้างว่าคลื่นนั้นสามารถสื่อสารในอวกาศได้ด้วยโดยกล่าวกับ Sputnik สื่อรัสเซียว่า "คนโบราณสร้างเครื่องจักรที่พวกเขาสามารถสื่อสารกับจักรวาลได้ไกลที่สุด" และอ้างถึงประโยชน์ด้านสุขภาพของการไปเยี่ยมชมพีระมิดแห่งนี้ว่าสามารถช่วยผู้ที่มีความดันโลหิตสูง บรรเทาภาวะน้ำตาลในเลือดสูง หรือแม้กระทั่งมะเร็ง

นอกจากนี้เขายังสร้างสวนที่พีระมิดแห่งนี้เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวนับหมื่นคนในทุกๆ ปี รวมถึงยังมีผู้สนับสนุนแนวคิดพีระมิดและบริจาคเงินให้แก่มูลนิธิ Pyramid of the Sun Foundation ของเขาด้วย

ถูกคัดค้าน

อย่างไรก็ตามแม้จะมีผู้สนับสนุนจำนวนมากแต่ทว่าทฤษฎีของออสมานากิชไม่ได้รับการยอมรับจากบรรดานักวิทยาศาสตร์และนักโบราณคดีโดยกล่าวประณามว่าเขาเป็นผู้ปล่อยข่าวเท็จ

นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเนินเขาเหล่านี้ไม่ใช่พีระมิด แต่เป็นโครงสร้างตามธรรมชาติที่เรียกว่า "Flatirons" แม้จะมีลักษณะใกล้เคียงกับพีระมิด แต่เป็นผลมาจากการพังทลายของชั้นหินตามธรรมชาติไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นแต่อย่างใด

ซึ่ง Flatirons พบได้ในหลายร้อยแห่งทั่วโลกตั้งแต่เอธิโอเปียไปจนถึงรัสเซีย และในแง่ธรณีวิทยาไม่ได้หายากหรือน่าสนใจเป็นพิเศษ

สมาคมนักโบราณคดีแห่งยุโรป (European Association of Archaeologists) เรียกทฤษฎีของออสมานากิชว่า เป็นการหลอกลวงต่อสาธารณชนซึ่งส่งเสริมความเท็จ และกิจกรรมการขุดค้นและการสร้างสวนบนเนินเขาอาจส่งผลเสียต่อมรดกทางโบราณคดี

ขณะที่นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าพีระมิดหรือเนินเขาเหล่านี้ไม่ได้มีคุณสมบัติในการรักษาโรคอย่างที่ออสมานากิชกล่าวอ้าง

เดินหน้าต่อ

แม้ในยุโรปจะแทบไม่มีหน่วยงานทางวิทยาศาสตร์ใดที่ยังไม่ได้ประณามทฤษฎีพีระมิดของออสมานากิช แต่ผู้สนับสนุนก็ยังไม่ยอมแพ้

โดยในขณะที่นักวิทยาศาสตร์หลายคนเรียกร้องให้หน่วยงานท้องถิ่นและรัฐบาลกลางในบอสเนียยุติการสนับสนุน แต่ในปี 2016 อุทยานแห่งที่สองได้เปิดขึ้นบนเนินเขาดังกล่าว โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลท้องถิ่นซึ่งประกาศว่าอุทยานแห่งนี้เป็น "สถานที่สำคัญ"

อย่างไรก็ตามด้วยการตลาดที่มีอยู่ส่งผลให้ผู้คนนับหมื่นมาเยี่ยมชมพีระมิดแห่งบอสเนียในแต่ละปี ขณะที่ผู้คนต่างก็สนใจแนวคิดที่ว่าภูมิภาคของพวกเขาเคยเป็นที่ตั้งของอารยธรรมโบราณที่ก้าวหน้าและยิ่งใหญ่

ทั้งนี้ หน่วยงานท้องถิ่นได้ให้ทุนสนับสนุนการขุดค้นสถานที่ดังกล่าว และอนุญาตให้เด็กนักเรียนเยี่ยมชมพีระมิดเหล่านี้โดยพวกเขาได้รับการสอนว่านี่คือส่วนหนึ่งของ "มรดกบอสเนีย"

การพัฒนาพีระมิดแห่งบอสเนียให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวส่งผลให้เนินเขาเหล่านี้ได้รับการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก แต่รายได้จากการท่องเที่ยวนั้นก็นับว่าเป็นประโยชน์อย่างมากเช่นเดียวกัน

ภาพโดย TheBIHLover/Wikipedia