คองเกรสเตรียมคุยเรื่องยูเอฟโอจากอดีตที่เคยเพิกเฉย
มาถึงจุดที่คองเกรสเตรียมคุยเรื่องยูเอฟโอแล้วทั้งที่เมื่อก่อนรัฐบาลสหรัฐไม่ยอมรับเรื่องนี้เลย
สหรัฐเริ่มจริงจังกับการจับยูเอฟโอ (วัตถุบินที่ไม่สามารถระบุได้) และปรากฏการณ์ทางอากาศที่ไม่ปรากฏชื่อมากขึ้นโดยคาดว่าผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติและรัฐมนตรีกลาโหมจะมีการเสนอรายงานเกี่ยวกับยูเอฟโอต่อสภาคองเกรสภายในเดือนนี้
โดยจะเน้นไปที่การพบเห็นยูเอฟโอในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาเพื่อพิจารณาว่าสิ่งเหล่านี้เป็นภัยต่อสหรัฐหรือไม่
อันที่จริงสหรัฐจริงจังกับยูเอฟโอมาระยะหนึ่งแล้ว โดยบทความจาก The New Yorker ชี้ว่าหลังจากที่มันเป็นเพียงเรื่องขำขันมาหลายสิบปีแต่สุดท้ายรัฐบาลสหรัฐก็เริ่มยอมรับมันอย่างจริงจัง
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2001 นายแพทย์สตีเวน เอ็ม. เกรียร์ รับตำแหน่งบรรยายที่ National Press Club ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับวัตถุบินที่ไม่ปรากฏชื่อ เขาเชื่อว่ารัฐบาลได้ปิดบังชาวอเมริกันเกี่ยวกับยูเอฟโอมานานแล้ว
เกรียร์ระบุว่าตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมามียานต่างดาวจำนวนนับไม่ถ้วนในน่านฟ้าโลกของเรา ซึ่งยานอวกาศนอกโลกเหล่านี้ถูกทิ้ง ค้นคืน และศึกษามาตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1940 เป็นอย่างน้อย หรืออาจจะเป็นช่วงต้นทศวรรษ 1930
ความคิดที่ว่ามนุษย์ต่างดาวเข้ามาในโลกของเราบ่อยๆ นั้นแพร่หลายในหมู่นักอุตุนิยมวิทยาตั้งแต่ปีหลังสงคราม เมื่อจอร์จ อดัมสกี้ ผู้อพยพชาวโปแลนด์อ้างว่าได้พบปะกับชาวดาวศุกร์ที่ดูใจดีซึ่งถูกรบกวนจากผลกระทบทั้งภายในและระหว่างดาวเคราะห์จากการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์
ในฤดูร้อนปี 1947 มีรายงานว่ายานอวกาศของมนุษย์ต่างดาวตกใกล้เมืองรอสเวลล์ นิวเม็กซิโก ขณะที่ยังมีทฤษฎีสมคบคิดอีกหลายทฤฎีที่บ่งชี้เกี่ยวกับการมีอยู่ของมนุษย์ต่างดาว แต่นักยูเอฟโอวิทยา (ufologists) อ้างว่าทั้งหมดนี้ถูกปกปิดโดย Majestic 12 ซึ่งเป็นองค์กรลับของรัฐบาลที่จัดประชุมภายใต้คำสั่งของผู้บริหารโดยประธานาธิบดีทรูแมน
นักยูเอฟโอวิทยายังคงมุ่งมั่นต้องการให้รัฐบาลเปิดเผยข้อมูลของยูเอฟโอมาตลอด โดยในปี 2009 เกียร์ออกแถลงการณ์พิเศษสำหรับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งระบุว่า "การนิ่งเฉยของประธานาธิบดีรุ่นก่อนหน้าคุณนำไปสู่วิกฤต"
ขณะที่คำตอบของโอบามายังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่ในปี 2011 นักยูเอฟโอวิทยาได้ยื่นคำร้องต่อทำเนียบขาวอีก 2 ครั้ง แต่สำนักงานนโยบายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตอบว่าไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่า "การปรากฏตัวของมนุษย์ต่างดาวได้ติดต่อหรือมีส่วนร่วมกับสมาชิกคนใดของเผ่าพันธุ์มนุษย์"
เลสลี่ คีน นักเขียนคนหนึ่งเคยเขียนหนังสือเรื่อง "UFOs: Generals, Pilots, and Government Officials Go on the Record" ซึ่งตีพิมพ์ในปี 2010 โดยส่วนหนึ่งของเนื้อหาระบุว่า "รัฐบาลสหรัฐมักเพิกเฉยต่อยูเอฟโอ และเมื่อถูกกดดันก็จะออกคำอธิบายเท็จ ความเฉยเมยนั้นเป็นความไม่รับผิดชอบและอาจเป็นอันตรายได้"
ในปี 2017 คีนผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับยูเอฟโอเปิดเผยว่าเพนตากอนได้ปกปิดเรื่องราวเกี่ยวกับยูเอฟโอมาเป็น 10 ปีแล้ว พร้อมระบุถึงวิดีโอ 2 รายการซึ่งบันทึกโดยกองทัพเรือเกี่ยวกับสิ่งที่ถูกอธิบายว่าเป็น "ปรากฏการณ์ทางอากาศที่ไม่ระบุชื่อ" (ยูเอพี)
ตั้งแต่นั้นมามีการเปิดเผยต่อสาธารณชนถึงความสับสนเกี่ยวกับยูเอฟโอและยูเอพีมากขึ้น โดยมาร์โก รูบิโอ สมาชิกวุฒิสภา อดีตรักษาการประธานคณะกรรมการคัดเลือกด้านข่าวกรองให้สัมภาษณ์กับซีบีเอส นิวส์ เกี่ยวกับวัตถุบินลึกลับในน่านฟ้าว่า "ไม่รู้ว่าคืออะไร และนั่นไม่ใช่ของเรา"
จอห์น เบรนแนน อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) กล่าวว่า "ปรากฏการณ์บางอย่างที่เราจะได้เห็นยังคงไม่สามารถอธิบายได้ ปรากฏการณ์บางประเภทเป็นผลมาจากสิ่งที่เรายังไม่เข้าใจ
รัฐบาลสหรัฐถูกกดดันให้จริงจังกับการศึกษาเกี่ยวกับยูเอฟโอและยูเอพีมากขึ้นมาโดยตลอดจนในปี 2018 เป็นอีกครั้งที่มีการยืนเรื่องต่อสมาชิกสภาคองเกรส ขณะที่อดีตเจ้าหน้าที่เพนตากอนกล่าวในปีเดียวกันว่า "ประเด็นดังกล่าวกำลังได้รับการดำเนินการอย่างจริงจังเมื่อเทียบกับ 2 หรือ 3 ปีที่แล้ว"
การดำเนินการเข้มข้นขึ้นจนกระทั่งในเดือนเม.ย. 2019 กองทัพเรือได้ปรับปรุงแนวทางอย่างเป็นทางการเพื่อกระตุ้นให้พวกเขารายงานเกี่ยวกับยูเอพีโดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกดูหมิ่นหรือตำหนิ
ขณะที่นักโหราศาสตร์เกือบทั้งหมดเชื่อว่ายังมีสิ่งมีชีวิตอื่นๆ นอกโลก รวมถึง เซท โชสตัก นักดาราศาสตร์อาวุโสจากสถาบัน SETI ได้เดิมพันว่าเราจะพบข้อพิสูจน์ที่ไม่อาจโต้แย้งได้ของชีวิตที่ชาญฉลาดภายในปี 2036
Photo by Handout / DoD / AFP