posttoday

ถั่งเช่ากินแล้วอาจตาย แล้วยังทำลายโลกด้วย 

19 มกราคม 2564

ความต้องการบริโภคถั่งเช่าทำให้สมุนไพรชนิดนี้ตกอยู่ในสถานะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ 

จากกรณีที่มีผู้ใช้โซเชียลรายหนึ่งโพสต์เป็นอุทาหรณ์ว่า พ่อทานอาหารเสริมถั่งเช่าแล้วแน่นหน้าอก หายใจลำบากต้องเข้าโรงพยาบาลกะทันหัน จากนั้นมีอาการน้ำท่วมปอด ค่าไตต่ำ ไตวายระยะสุดท้าย และในเวลาไล่เลี่ยกันยังมีคำเตือนจากนิตยสารฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคบอกว่า ทานถั่งเช่าสกัดต่อเนื่องเสี่ยงไตวาย ทำให้เกิดการถกเถียงถึงประโยชน์โทษของถั่งเช่ากันอีกครั้ง 

1.ถั่งเช่า หรือหญ้าหนอน หรือที่เรียกในภาษาจีนกลางว่า ตงถงเซี่ยเฉ่า ที่แปลว่า ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้าเป็นสมุนไพรจีนที่เป็นส่วนผสมของเห็ดราและสัตว์ เกิดจากหนอนผีเสื้อกลางคืนแถบที่ราบสูงทิเบตที่จำศีลอยู่ใต้ดินในฤดูหนาว ถูกสปอร์ของเห็ดราที่ไม่ก่อให้เกิดโรคในคนในสกุล Ophiocordyceps อาศัยเป็นปรสิตและเติบโตสร้างเส้นใยออกมาทางส่วนหัวของตัวหนอนในฤดูร้อน 

2.ถั่งเช่าพบได้เฉพาะในทุ่งหญ้าที่มีความสูงตั้งแต่ 3,500 เมตรขึ้นไป และจะเติบโตได้เฉพาะในที่ที่มีสภาพอากาศเฉพาะเจาะจงคือ อุณหภูมิในฤดูหนาวต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง แต่พื้นดินต้องไม่กลายเป็นน้ำแข็ง ในพื้นที่ทิเบต มณฑลชิงไห่ มณฑลเสฉวน มณฑลกานซู มณฑลยูนนาน และแถบเทือกเขาหิมาลัยในอินเดีย ภูฏาน และเนปาล 

3.ฤดูเก็บเกี่ยวถั่งเช่าอยู่ระหว่างเดือน เม.ย.-มิ.ย. เท่านั้น 

4.ด้านสรรพคุณนั้น แม้จะไม่มีงานวิจัยขั้นสุดท้ายรับรองคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ของถั่งเช่า แต่ชาวจีนเชื่อกันว่าจะช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศ ถั่งเช่าจึงได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไวอะกร้าแห่งหิมาลัย” และยังเชื่อว่าช่วยรักษาสารพัดอาการ ไม่ว่าจะเป็นความเหนื่อยล้า ไปจนถึงรักษามะเร็ง โรคไต โรคปอด

5.อย่างไรก็ดี ถั่งเช่าที่เก็บเกี่ยวในธรรมชาติมักมีสารหนูและโลหะหนักอื่นๆ ปนเปื้อนในปริมาณสูง จึงอาจเป็นพิษได้ ดังนั้นตั้งแต่ พ.ศ. 2559 เป็นต้นมา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของจีน (CFDA) ได้ควบคุมการจำหน่ายถั่งเช่าอย่างเข้มงวด  และนำถั่งเช่าออกจากประเภทอาหารเพื่อสุขภาพ รวมทั้งออกคำแนะนำในการบริโภคผลิตภัณฑ์ถั่งเช่า โดยระบุว่า “ในถั่งเช่าแห้งและแคปซูลผงถั่งเช่าบริสุทธิ์มีปริมาณสารหนู 4.4 - 9.9 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม” และ “มีความเสี่ยงสูงในการบริโภค” 

6.แต่ด้วยความที่เชื่อตั้งแต่สมัยก่อนของคนจีนว่าถั่งเช่ามีสรรพคุณทางยามากมาย จึงทำให้มีความต้องการเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงทศวรรษที่ 1990 โดยเมื่อเทียบน้ำหนักกันออนซ์ต่อออนซ์แล้ว ถั่งเช่าแพงกว่าทองคำถึง 3 เท่า ดังนั้นการเก็บเกี่ยวถั่งเช่าจึงทำรายได้อย่างงามให้ชาวบ้านในท้องที่  

7.ทว่า เมื่อต้นเดือน ก.ค.ปีที่แล้วสหภาพระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ประกาศให้ถั่งเช่าอยู่ในบัญชีแดงพืชหรือสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ประเภทเกือบอยู่ในข่ายใกล้สูญพันธุ์ (VU) โดยระบุว่า การเก็บเกี่ยวถั่งเช่ามากเกินไปทำให้จำนวนถั่งเช่าลดลงอย่างน้อย 30% ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา   

8.นั่นหมายความว่านอกจากถั่งเช่าจะมีผลเสียต่อร่างกายมนุษย์แล้ว การบริโภคถั่งเช่ายังส่งผลกระทบกับโลกด้วย 

9.นอกจากนี้ อาร์เอส ราวาล จากสถาบันสิ่งแวดล้อมหิมาลัยแห่งชาติของอินเดียเผยว่า สิ่งที่น่ากังวลอีกอย่างหนึ่งคือ แรงกดอัดที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ระหว่างที่ชาวบ้านเข้าไปตั้งแคมป์เก็บถั่งเช่ายังทำให้เนินเขาที่ถั่งเช่าเติบโตยุบตัวลงด้วย ซึ่งในที่สุดเนินเขาอาจต่ำลงจนไม่เหมาะกับการเติบโตของถั่งเช่า เนื่องจากถั่งเช่าเติบโตได้ที่ความสูงไม่ต่ำกว่า 3,500 เมตรเท่านั้น