posttoday

ต่างชาติมองไทยเตรียมตอกฝาโลงท่องเที่ยว

23 ธันวาคม 2563

บลูมเบิร์กรายงานการระบาดระลอกใหม่ในไทยอาจเป็นการตอกฝาโลงการท่องเที่ยวไทยที่กำลังจะฟื้นตัว

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. บลูมเบิร์กรายงานว่าขณะที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยต้องซบเซาลงในปีนี้เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และสถานการณ์เริ่มดีขึ้นในระยะหลังมานี้ ชาวไทยเริ่มท่องเที่ยวในประเทศได้เกือบปกติ แต่ธุรกิจต่างๆ ก็ถูกกระหน่ำซ้ำเติมอีกครั้งในช่วงสิ้นปีเนื่องจากการระบาดระลอกใหม่

โดยมีการตรวจพบกลุ่มผู้ติดเชื้อในจังหวัดสมุทรสาครเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และแจ้งให้ปิดกั้นเขตอุตสาหกรรมเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งรัฐบาลกำลังพิจารณาว่าต้องขยายขอบเขตไปยังพื้นที่อื่นหรือไม่

แอนโทนี ลาร์ค ประธานสมาคมโรงแรมภูเก็ตกล่าวว่า หากรัฐบาลไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ และมีมาตรการล็อกดาวน์หรือจำกัดการเดินทางในประเทศอาจเป็นการ "ตอกตะปูโลงศพ" สำหรับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวหลายแห่ง

โดยลาร์คเผยว่า ก่อนที่จะเกิดโรคระบาด นักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเป็นชาวต่างชาติถึง 2 ใน 3 ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด และทำรายได้ให้กับภูเก็ตประมาณ 90%

โดยนับตั้งแต่ปิดประเทศเมื่อปลายเดือนมีนาคม นักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเป็นนักท่องเที่ยวที่มาจากกรุงเทพฯ ถึง 99% ซึ่งช่วยฟื้นฟูการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเป็นอย่างมาก ดังนั้น หากมีมาตรการปิดกั้นการเดินทางจะเป็นการตอกฝาโลงธุรกิจจำนวนมากที่มีความหวังจากนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ

ทั้งนี้ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ว่าต้องใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ในการประเมินว่าจะมีมาตรการที่เข้มงวดขึ้นหรือไม่

บลูมเบิร์กรายงานว่า ระยะหลังมานี้ประเทศไทยกำลังเดิมพันด้วยการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวให้พ้นจากภาวะซบเซา แม้ว่าธนาคารกลางจะคาดการณ์ว่าอาจต้องใช้เวลา 2 ปีกว่าที่เศรษฐกิจจะกลับสู่ระดับเดิมก่อนการระบาดใหญ่ โดยรายได้การท่องเที่ยวไทยในปีที่แล้วมาจากชาวต่างชาติมากกว่า 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40 ล้านคน

การระบาดระลอกใหม่เกิดขึ้นเพียง 1 วันหลังจากที่รัฐบาลประกาศแผนผ่อนปรนข้อจำกัดบางประการสำหรับนักท่องเที่ยวจาก 56 ประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสิงคโปร์

Photo by Mladen ANTONOV / AFP