posttoday

ชายที่ถูกเกลียดมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากทรัมป์

19 พฤศจิกายน 2563

ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กำลังจะพ้นตำแหน่งในอีก 2 เดือนข้างหน้า แต่ระหว่างอยู่ในตำแหน่งคำพูดของเจ้าตัวได้สร้างความไม่พอใจให้กับชาวโลก โดยเฉพาะคนจีนไว้หลายครั้งจนกลายเป็นคนที่ถูกเกลียดมากที่สุดคนหนึ่ง

ปฏิเสธไม่ได้ว่าภายใต้รัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนตกต่ำที่สุดในรอบหลายทศวรรษ แต่ชาวจีนหลายคนก็ยังชื่นชอบทรัมป์ถึงขั้นอยากให้เจ้าตัวได้เป็นผู้นำสหรัฐอีกสมัย บางคนชมว่าความฉลาดแกมโกงในเรื่องธุรกิจทำให้ทรัมป์จัดการสงครามการค้ากับจีนได้ดี

บางคนบอกว่า ถึงทรัมป์จะมีท่าทีไม่ค่อยเป็นมิตรกับจีน แต่จริงๆ แล้วทรัมป์ก็แค่ปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐและชาวอเมริกัน ขณะที่บางคนชมชอบฝีมือการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ไม่เหมือนใครของทรัมป์ เพราะเขาเป็นนักธุรกิจไม่ใช่นักการเมือง

แต่กับ ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กลับไม่เป็นที่ชื่นชอบของชาวโลกสักเท่าไร โดยเฉพาะกับคนจีน เพราะเจ้าตัวมักจะวิพากษ์วิจารณ์จีนแบบไม่ไว้หน้า

อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลาง (CIA) วิจารณ์จีนเรื่อง Covid-19 อย่างหนัก ทั้งบอกว่าเป็นต้นเหตุของการเสียชีวิตนับแสนนับล้านคน และมีหลักฐาน “ชิ้นใหญ่” พิสูจน์ว่าเชื้อโคโรนาไวรัสหลุดออกมาจากห้องวิจัยในเมืองอู่ฮั่น ทั้งๆ ที่ แอนโธนี ฟาวซี ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในทีมรับมือ Covid-19 ของสหรัฐยืนยันว่าเชื้อไม่ได้ถูกสร้างขึ้นในห้องวิจัย แต่ค่อยๆ วิวัฒนาการขึ้นในธรรมชาติแล้วติดมาสู่คน

พอมเพโอยังโจมตีการปฏิบัติกับคนมุสลิมในเขตปกครองตนเองซินเจียงว่าเป็น “รอยด่างพร้อย” แห่งศตวรรษ และกล่าวหาว่าจีนเป็นต้นกำเนิดของวิกฤตสิทธิมนุษยชนที่แย่ที่สุดแห่งยุค

และในขณะที่ทรัมป์กำลังจะลงนามข้อตกลงสงครามการค้ารอบแรกกับจีนอยู่เนืองๆ พอมเพโอยังวิจารณ์จีนไม่หยุดหย่อนอีกว่า “พรรคคอมมิวนิสต์จีนคือพรรคมาร์กซิสต์-เลนินนิสต์ที่เน้นการมีอำนาจเหนือนานาชาติ เราทำได้แค่เชื่อฟังคำสั่งของผู้นำเท่านั้น”

ภาพลักษณ์ของพอมเพโอในสายตาสื่อจีนคือ บุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ และแทบทุกครั้งที่พอมเพโอแถลงก็มักจะถูกสื่อจีนหยิบยกมาโจมตี

หนังสือพิมพ์ Global Times ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลจีนถึงกับเรียกพอมเพโอว่า “เจ้าแห่งการโกหก” หรือแม้กระทั่ง “ตัวร้าย” “ผู้หญิงขี้นินทา” ที่พยายามปลุกระดมให้เกิดความขัดแย้ง และ “หยาบคายและไร้เหตุผล” แบบอันธพาล สืบเนื่องมาจากคำพูดของพอมเพโอต่อจีนเกี่ยวกับ Covid-19 ฮ่องกง และซินเจียง

ขณะที่เจ้าหน้าที่จีนรายหนึ่งเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า เหตุผลที่คนจีนไม่ชอบพอมเพโอนั้นง่ายมาก “เขาเป็นนักรบในสงครามเย็น” ส่วนเจ้าหน้าที่ทางการทูตอีกคนหนึ่งเผยว่า หลังประตูห้องประชุมคนจีนพูดถึงพอมเพโออย่างดุเดือด “พวกเขาต่อว่า พวกเขาเกลียดพอมเพโอ”

หวังอี้เหวย ศาสตราจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยเหรินหมินเผยว่า จีนไม่ชอบการกล่าวโจมตีตรงๆ ของพอมเพโอ “จีนรู้สึกว่าการกระทำนี้ไม่เป็นมืออาชีพและไม่ชอบใจ ปกติแล้วจีนจะไม่ตอบโต้อย่างดุเดือดเช่นนี้ แต่ผู้ชายคนนี้ล้ำเส้นเกินไป”

ในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ผลงานของพอมเพโอในประเทศอื่นก็ไม่ได้ดีไปกว่าจีน อาทิ ในตะวันออกกลาง การทูตแบบไม่ประนีประนอม โจมตีกันด้วยถ้อยคำดุเดือดของพอมเพโอเกือบทำให้อิหร่านกับสหรัฐเปิดสงครามกัน เป็นการปิดโอกาสการเจรจาเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างทั้งสองประเทศมาจนถึงทุกวันนี้

นอกจากนี้ คะแนนของพอมเพโอยังติดลบในสายตาสื่อใหญ่ของสหรัฐ หนังสือพิมพ์ เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์บอกว่า พอมเพโอเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ โดยไม่มีผลงานด้านการทูตแม้แต่งานเดียว ส่วนสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นระบุว่า พอมเพโอทำงานพลาด

คือแทนที่จะทำให้สหรัฐกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งตามคำหาเสียงของทรัมป์ แต่พอมเพโอกลับทำให้สหรัฐไม่เป็นที่ชื่นชอบอีกครั้ง